กรรมการอิสลามยะลาพบ “ประวิตร” ให้กำลังใจรัฐบาลก่อนเดือนรอมฎอน

ประธานและคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา รวมทั้งผู้นำศาสนากว่า 60 คน ได้เดินทางเข้าพบและเยี่ยมคำนับ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ระหว่างเดินทางขึ้นมาลงนามถวายพระพร ก่อนเข้าเดือนรอมฎอน เผยรัฐบาลย้ำจุดยืนสร้างความเข้มแข็งชุมชนและความเป็นธรรม - เท่าเทียม พร้อมเดินหน้าแนวทางประชารัฐ พร้อมสนับสนุนการมีส่วนร่วมเพื่อสันติสุข

วันนี้ (27 พ.ค.) พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ผ่านมา ประธานและคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา รวมทั้งผู้นำศาสนากว่า 60 คน ได้เดินทางเข้าพบและเยี่ยมคำนับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ณ บ้านรับรองเกษะโกมล โดยประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์หลักในการเดินทางมาครั้งนี้ ว่า คณะกรรมการประจำจังหวัดและผู้นำศาสนาในพื้นที่ มีความเป็นห่วงในพระอาการประชวร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงพร้อมใจกันเดินทางขึ้นมา เพื่อแสดงความจงรักภักดีและร่วมลงนามถวายพระพร ณ โรงพยาบาลศิริราช และขอถือโอกาสนี้ เข้าเยี่ยมคำนับ พล.อ.ประวิตร เพื่อให้กำลังใจในการทำงานของรัฐบาล ก่อนเข้าเดือนรอมฎอน

“คณะกรรมการและผู้นำศาสนาจังหวัดยะลาทุกคน ตระหนักและเห็นถึงความจริงใจ ตั้งใจจริงของรัฐบาล ที่มุ่งมั่น ทุ่มเทบริหารราชการแผ่นดินและสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเห็นพ้องร่วมกันว่า การบิดเบือนคำสอนทางศาสนาและความรุนแรงที่ผ่านมา ไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ในการสนับสนุน ส่งเสริมสันติสุขในพื้นที่ให้เกิดขึ้น” พล.ต.คงชีพ กล่าว

พล.ต.คงชีพ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ และกล่าวย้ำจุดยืนว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่น ที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็งฐานรากของชุมชน และสร้างความเป็นธรรม ความเท่าเทียมกันของประชาชนภายใต้กรอบกฏหมาย ขณะเดียวกัน ก็ต้องการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคประชาสังคม ต่อกระบวนการบริหารงานให้มากขึ้น ตามวิถีประชารัฐ เพื่อความเข้มแข็งของชุมชนและสังคมที่ยั่งยืน พร้อมทั้งมั่นใจว่า พี่น้องคนไทยทุกคน มีความรักและห่วงใยพี่น้องมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกคน และปรารถนาให้เกิดสันติสุขของการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน จึงขอความร่วมมือผู้นำศาสนาทุกท่าน ได้ร่วมกันสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ เพื่อยุติความรุนแรงและสนับสนุนกระบวนการเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่ให้เกิดขึ้นจงได้ ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมที่จะให้การสนับสนุนเพื่อสันติสุขที่ยั่งยืนร่วมกัน