ประธาน กกต.เปิดศูนย์อีวอร์รูมเตรียมความพร้อมประชามติ พร้อมเปิดตัวสัญลักษณ์ “หนุมาน” ติดตั้งโปรแกรมบริหารความเสี่ยง โฟกัสพื้นที่แดง เขียว เหลือง เริ่มประมวลผลเดือนหน้า แจง “จตุพร” ห่วงใช้ทรัพยากรรัฐไม่เป็นธรรม ฝากนายกฯ กำชับแล้วให้วางตัวเป็นกลางไปแล้ว เผยยังไม่มีร้องเรียนกลุ่มประชาธิปไตยใหม่เคลื่อนไหว แต่มี กกต.กทม.ดูอยู่
วันนี้ (23 พ.ค.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงาน ร่วมกันเปิดศูนย์อำนวยการออกเสียงประชามติ (ส่วนกลาง) หรืออีวอร์รูม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดทำประชามติที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 ส.ค. โดยศูนย์ดังกล่าวมีหน้าที่ในการบริหารจัดการ ควบคุมกำกับดูแลในแต่ละภารกิจเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ รวมทั้งส่วนงานรักษาความสงบ เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งจะได้มีการประสานข้อมูลจากทุกหน่วยงานและรายงานความก้าวหน้าของผู้ปฏิบัติงานให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
โดยมีการใช้ระบบอีอาร์เอ็ม หรือโปรแกรมบริหารความเสี่ยง เพื่อรองรับสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้การออกเสียงประชามติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว สามารถป้องกันเหตุอันจะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที พร้อมกับมีการเปิดตัวมาคคอต รูปหนุมาน ที่จะใช้ในการรณรงค์ โดยหนุมานสื่อความหมายตรงกับปี 2559 ที่เป็นปีวอก และลิงเป็นตัวเอกของ “โขน” ซึ่งคนส่วนใหญ่จะนึกถึงหนุมาน มีความจงรักภักดีต่อบ้านเมืองในการช่วยพระรามปราบทศกัณฑ์
ทั้งนี้ ศูนย์แห่งนี้จะมีฝ่ายปฏิบัติการที่จะเชื่อมโยงกิจการสืบสวนสอบสวนเฝ้าดูแอพพลิเคชั่นตาสับปะรด กลไกในส่วนนี้จะมีคณะกรรมการอำนวยการ มีประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นประธาน ดังนั้นจะมีการรายงานข้อมูลนำเสนอต่อกรรมการการเลือกตั้งในเหตุการณ์สำคัญ
ด้านนายเมธา ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการด้านการมีส่วนร่วม กล่าวถึงโปรแกรมบริหารความเสี่ยง ว่า ติดตั้งเอาไว้โดยมีข้อมูลประกอบด้วย การติดตามการอบรมกรรมการประจำหน่วยว่าครบถ้วนตามแผนหรือไม่ รวมทั้งเรื่องหน่วยออกเสียง การรายงานสถานการณ์ต่างๆ มีพื้นที่สีเขียว แดง เหลือง โดยปัจจัยในการแบ่งพื้นที่เป็นแดง เขียว เหลืองจะขึ้นอยู่กับวัสดุ อุปกรณ์ บุคลากร และภัยพิบัติ ซึ่งการแบ่งสีดังกล่าวจะทำให้โฟกัสในการบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะมีการประมวลผลครั้งแรกประมาณปลายเดือนมิถุนายน ส่วนพื้นที่ทำผิดกฎหมายจะมีแผนที่เฉพาะเรื่อง
นายศุภชัยยังกล่าวกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แสดงความเป็นห่วงว่าการจัดทำประชามติครั้งนี้อาจเกิดปัญหาเรื่องการใช้ทรัพยากรรัฐโดยไม่เป็นธรรม ว่า ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ให้วางตัวเป็นกลาง หากไม่ดำเนินการดังกล่าวก็จะมีความผิดตามกฎหมาย พร้อมกับยืนยันว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการโกงประชามติตามที่นายจตุพรระบุ เนื่องจากไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำเช่นนั้น
ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ที่เดินขบวนรณรงค์รับ-ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น นายศุภชัยกล่าวว่า ยังไม่มีการร้องเรียนว่าเข้าข่ายทำผิดกฎหมายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม มีเจ้าหน้าที่ กกต.เฝ้าดูอยู่ว่าเข้าองค์ประกอบความผิดว่าเป็นการปลุกระดมหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งไม่ได้นิ่งนอนใจแต่จะติดตามดูในพื้นที่ด้วย โดยอยู่ในส่วนความรับผิดชอบของ กกต.กทม. มีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว
ด้านนายสุเทพ พรหมมาศ ผู้ทรงคุณวุฒิ กกต.กล่าวว่า นายจตุพรแนะนำว่าการลงประชามตินี้อาจจะมีการใช้ทรัพยากรของรัฐให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบ กกต.ตระหนักถึงปัญหานี้มาตั้งแต่ต้น ทำหนังสือถึงนายกฯ ให้เจ้าหน้าที่วางตัวเป็นกลางในการใช้ทรัพยากรของรัฐ และกำชับเจ้าหน้าที่ กกต.ให้วางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติตามกฎหมายแค่ช่วยเหลือสนับสนุน อย่าลงไปดำเนินการเอง เพราะอาจสุ่มเสี่ยงต่อความผิดพลาดในการใช้ความเห็นส่วนตัวว่าจะรับหรือไม่รับ และให้ระมัดระวังเรื่องการใช้งบประมาณ เพื่อไม่ให้ส่งผลกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ส่วนที่นายจตุพรกังวลมากที่สุดคือการจัดให้มีการแสดงความเห็นของประชาชนและกลุ่มการเมือง ซึ่งที่จริงสามารถทำได้อย่างกว้างขวาง เว้นแต่ความผิดตามกฎหมายประชามติมาตรา 61 วรรคสอง