เลขาฯ คสช. รอ กกล.รส.พิจารณารายละเอียด กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ นัดเคลื่อนไหวระลึก 9 ปี 19 กันยาฯ ควรให้ชัดหรือไม่ ย้ำต้องไม่กระทบการรักษาความสงบ ส่วนผู้จะมาเป็น สปท.-กรธ. ต้องมีความรู้ ความสามารถ ประชาชนยอมรับ “มีชัย” คุณสมบัติเหมาะนั่ง ประธาน กรธ. แต่ยังไม่ได้คัดเลือก สำหรับเหตุบึ้มแยกราชประสงค์ อยู่ระหว่างเร่งคดี
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่จะจัดกิจกรรมเสวนา และกิจกรรมแสดงสัญลักษณ์ระลึกถึงเหตุการณ์ 9 ปี รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในวันเสาร์ที่ 19 กันยายนนี้ ว่า ได้มอบหมายให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ของกองทัพภาคที่1 ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ได้ทำความเข้าใจว่าการจัดกิจกรรมต่างๆที่ไม่กระทบต่อความไม่สงบเรียบร้อย ก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่จะติดตามทุกๆ เรื่องที่จะมีการเคลื่อนไหว
ผบ.ทบ. กล่าวว่า ในวันนี้ ทาง กกล.รส. โดย พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะ ผบ.กกล.รส. จะประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินการจัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อให้อยู่ในกรอบได้อย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความไม่เรียบร้อย ทั้งนี้ยืนยันยังมีความจำเป็นว่าเราต้องดูแลสถานการณ์ให้เกิดความเรียบร้อย จึงไม่สามารถให้เคลื่อนไหวอะไรได้ทุกอย่าง ที่จะไปกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยในระยะต่อไป เพราะเป็น ตัวอย่างที่ไม่ดี และเป็นแนวทางให้เกิดสถานการณ์ไม่เรียบร้อยในอนาคต ก็ไม่สามารถให้ทำได้ แต่อยากขอร้องผู้ที่จัดกิจกรรม ว่าต้องช่วยกันดูแล คิดว่ากิจกรรมต่างๆต้องไม่ส่งผลต่อการรักษาความสงบเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะห้ามไม่ให้จัดกิจกรรม หรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า กำลังพิจารณาอยู่ ต้องขอพูดคุยกับส่วนที่เกี่ยวข้องในรายลกะเอียดของงาน
พล.อ.อุดมเดช ยังกล่าวถึง การคัดเลือกสภาขับเคลื่อนปฏิรูป (สปท.) ที่มีสัดสวนทหารทั้งในและนอกราชการเป็นจำนวนมากว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงถึงหลักเกณฑ์และสัดส่วนในการคัดเลือก สปท. ให้ทราบในเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้หน่วยงานส่วนที่เกี่ยวข้องต้องนำเสนอชื่อบุคคลให้กับคณะกรรมการได้พิจารณาเพื่อความเหมาะสมอีกครั้ง ซึ่งก็มีทั้งทหารที่อยู่ในราชการและเกษียณไปแล้ว และที่สำคัญต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และเมื่อเข้าไปอยู่ใน สปท.แล้วจะสามารถทำงานได้ ดูแลเรื่องการปฏิรูปในด้านต่างๆ ไม่ใช่ว่ามีชื่อที่ฝากกันมา และไม่มีความสามารถในการทำงาน คงไม่ใช่ เพราะ นายกฯ ได้ย้ำแล้วว่า ยิ่งฝากมา ก็ยิ่งไม่ได้ ทั้งนี้จะให้หัวหน้าส่วนราชการ คัดเลือกชื่อส่งไปให้ระดับผู้ใหญ่ได้พิจารณาอีกครั้ง เพื่อความรอบคอบ เพราะชื่อที่ออกมาต้องเป็นที่ยอมรับและเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง
ส่วน นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย คสช. มีความเหมาะสมที่จะนั่งเป็นประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)หรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ท่านเป็นผู้มีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว แต่ตนไม่ทราบว่าใครจะได้เป็น เพราะเป็นเพียงการคาดเดา และทางผู้ใหญ่ก็ยังไม่ได้บอกชัดเจนว่าใครจะมาดำรงตำแหน่งนี้ ซึ่งยังอยู่ในระหว่างคัดเลือกตัวบุคล ตนเชื่อว่า ทุกคนที่มีชื่อใน สปท. และ กรธ. ต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นที่ยอมรับของประชาชน
พล.อ.อุดมเดช กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดแยกราชประสงค์และท่าน้ำสาทร ว่า ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) โดยเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ยังคงเร่งรัดในการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีความก้าวหน้ามาตามลำดับ ซึ่งครบ 1 เดือนของเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ โดยการดำเนินการงานต่างๆได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในการคลี่คลาย ติดตามข้อมูล วัตถุพยาน ต่างๆ ก็ดีขึ้นตามลำดับ โดยมีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ 13 รายแล้ว ขอให้รอความชัดเจนกันต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่เองก็ทำงานอย่างเต็มที่
