นายกรัฐมนตรีเผยกำลังหามาตรการเปิดช่องทางพูดคุยกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ รับไม่สบายใจใช้กฎหมายลุย แต่ต้องมองอีกมุมพฤติกรรม กิริยาบริสุทธิ์หรือไม่ ใครอยู่เบื้องหลังต้องพิสูจน์ ลั่นไม่ใช้ ม.44 นิรโทษกรรม หวั่นคนอื่นได้อานิสงส์ไม่จบสิ้น ไล่สื่อไปดูประมงโวยทำตามข้อกฎหมายหรือไม่ บอกไม่มีสินค้าวันนี้ดีกว่าวันหน้าไม่ผ่านประเมินจะทำอย่างไร ธุรกิจ 2 แสนล้านหายจะทำอย่างไร ขอผู้ประกอบการร่วมมือ ถามกดดันกันมากถ้าไม่ผ่านจะร่วมรับผิดชอบหรือไม่
วันนี้ (1 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาว่า ขณะนี้กำลังหามาตรการเปิดช่องทางการพูดคุยเพื่อให้เกิดการยุติ เพราะตนเองก็ไม่สบายใจในการใช้กฎหมายกับนักศึกษา ขณะเดียวกัน ต้องมองอีกแง่มุมหนึ่งว่าพฤติกรรมที่แสดงออกมาว่าเป็นอย่างไร เป็นกิริยาของเด็กที่บริสุทธิ์หรือไม่ มีการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ซึ่งต้องมีการพิสูจน์กันอีกครั้ง โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อเสนอจากบางฝ่ายต้องการให้ใช้มาตรา 44 นิรโทษกรรมความผิดให้แก่นักศึกษามีความเป็นไปได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนไม่ทำ ทำไม่ได้ เพราะถ้าทำแล้วก็จะต้องมีการใช้มาตรา 44 เพื่อนิรโทษกรรมให้แก่บุคคลคนอื่น และจะทำให้ไม่มีวันจบสิ้นกระบวนการ
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการบังคับใช้กฎหมายประมงใหม่ว่า ยังไม่ได้รับรายงานความไม่เรียบร้อยแต่อย่างใด ทั้งนี้สื่อต้องช่วยดูด้วยว่าสิ่งที่ทำนั้นทำตามข้อกฎหมายหรือไม่ ถ้าไปเขียนว่ามันเดือดร้อน ไม่มีสินค้าประมงบริโภควันนี้ดีกว่าไม่มีวันข้างหน้า แล้วถ้าวันข้างหน้าไม่ผ่านการประเมินจะทำอย่างไร มูลค่าธุรกิจเหล่านี้เกิดขึ้นมาตั้ง 2 แสนกว่าล้าน ถ้าหายไปทั้งหมดจะทำอย่างไร
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกคนต้องช่วยเหลือกัน โดยรัฐบาลก็จะดูแลในทุกมิติ แต่ในส่วนของผู้ประกอบการก็ต้องร่วมมือด้วย จะให้ผ่อนผันไปถึงเมื่อไหร่ ตอนนี้กำลังหามาตรการว่าจะดูแลคนที่มีอาชีพเหล่านี้อย่างไร คนที่เดือดร้อน คือ ลูกเรือ และชาวประมง จึงต้องดูแล แต่จะดูแลได้แค่ไหนกำลังดูอยู่ แต่ถ้ากดดันมากขอให้ชะลอ ถ้าไม่ผ่านประเมินจะรับผิดชอบด้วยกันหรือไม่ ว่าสินค้า 2 แสนกว่าล้านที่ขายทั้งโลกไม่ได้ก็เท่ากับเรือประมงทั้งหมด ไม่สามารถออกทำมาหากินได้ วันนี้อันไหนที่ถูกก็สามารถออกได้ อย่ามาประท้วง ขุดคุ้ยให้เป็นเรื่อง