ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย พร้อมแกนนำ ร่วมวางศิลาฤกษ์วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ ที่สุราษฎร์ธานี อ้างตามความมุ่งมั่นของอดีตเจ้าอาวาสวัดสวนโมกขพลาราม เปิดสอน 7 สาขาฟรี ภายใต้งบ 340 ล้าน คาดเรียนได้ปีหน้า โอ่ร่างรัฐธรรมนูญตอบสนองข้อเรียกร้องทุกประเด็น ชูนายกฯ เฉพาะกิจไม่ทำให้เกิดปฏิวัติ เป็นทางออกประเทศ
วันนี้ (23 พ.ค.) ที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย พร้อมด้วยแกนนำ เช่น นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายอิสสระ สมชัย นายวิทยา แก้วภราดัย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายถาวร เสนเนียม และประชาชนเข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ และทอดผ้าป่าสามัคคี ที่บริเวณสถานที่ก่อสร้างวิทยาลัยฯ หมู่ที่ 3 ตำบลหน้าเมือง โดยมีพระธรรมวิมลโมลี เจ้าคณะภาค 16 เป็นประธานในพิธีดังกล่าว
นายสุเทพกล่าวกับประชาชนที่เข้าร่วมงานว่า การจัดตั้งวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณเกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของท่านเจ้าพระคุณภาวโพธิคุณ อดีตเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดสวนโมกขพลาราม เพื่อสร้างวิทยาลัยต้นแบบขึ้นในเกาะสมุย และเป็นการผลิตนักศึกษาที่มีคุณธรรม ควบคู่ไปกับคุณภาพทางวิชาชีพ ผู้ประกอบการในสถานประกอบการและองค์กรธุรกิจต่างๆ และเปิดสอนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือ ปวช. และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือ ปวส. โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ใน 7 สาขาวิชา ซึ่งใช้งบประมาณในการดำเนินการ 340,000,000 บาท จากมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย งบประมาณริเริ่มของผู้ก่อตั้งและผู้ประกอบการที่มีส่วนร่วมในการจัดการสหศึกษา ผู้มีจิตศรัทธาที่สนับสนุนการศึกษาเพื่อการกุศล และงบประมาณอุดหนุนทั่วไปจากรัฐบาล ทั้งนี้ วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ คาดว่าจะเริ่มเปิดภาคเรียนที่ 1 ภายในเดือน พ.ค. ปีการศึกษา 2560
นายสุเทพยังกล่าวถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. ว่าได้ศึกษาในรายละเอียดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พบว่าในเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญนั้นส่วนใหญ่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของมวลมหาประชาชนทุกประเด็น พร้อมยืนยันว่าการออกมาพูดในครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการรณรงค์ให้ประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด เนื่องจากจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ร่างรัฐธรรมนูญนำข้อเรียกร้องของ กปปส.ไปพิจารณา ประกอบไปด้วย การปฏิรูปการเมืองให้เข้าสู่การปกครองตามหลักประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การปฏิรูปกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตและคอร์รัปชั่น การปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินให้ถึงมือประชาชน การลดความเหลื่อมล้ำ ทางการเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และสาธารณสุข
“ในภาพรวมของเราแล้วและในฐานะที่เป็นเลขาธิการ กปปส. เมื่อเอาเจตนารมณ์ของประชาชนเรื่อการปฏิรูปประเทศเป็นที่ตั้งแล้วเอาร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาดูแล้วรู้สึกถูก พอใจ ชอบใจ ส่วนใครจะเลือกอย่างไรลงคะแนนรับไม่รับ เป็นเรื่องของแต่ละคน ผมเขียนได้เป็นข้อๆ เอามาเปรียบเทียบได้ บางเรื่องไม่เคยมีในรัฐธรรมนูญฉบับเก่าไม่เคยมี และเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศมานาน อย่างเรื่องนายกฯ เฉพาะกิจในรัฐธรรมนูญเขาเขียนไว้เลยว่า หากเกิดกรณีเช่นนั้นบุคคลที่มวลมหาประชาชนเรียกร้องไว้ก็ต้องออกมาทำเลยไม่ต้องปฏิวัติแล้ว ถ้ามีรัฐธรรมนูญแบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ต้องไปปฏิวัติ ผมถึงเห็นว่าตรงนี้เป็นการหาทางออกให้ประเทศ เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม ในฐานะศิษย์สวนโมกข์ อาจารย์พุทธทาสบอกว่า คนที่มาเป็นผู้นำ มาอย่างไรไม่สำคัญเท่ากับคนมีธรรมะ มีศีลธรรม ให้ได้คนดีก็แล้วกัน ไม่ได้อยู่ที่วิธีการมา แต่อยู่ที่คน” นายสุเทพกล่าว