xs
xsm
sm
md
lg

“องอาจ” ชี้ต้องผ่อนปรนคำสั่ง คสช. เพื่อพรรคการเมืองช่วยขยายผลประชามติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
รองหัวหน้า ปชป.ย้อน “ประยุทธ์” ข้อเสนอประชุมพรรคการเมืองไม่ใช่ได้คืบเอาศอก ชี้ต้องผ่อนปรนคำสั่ง ถึงจะช่วยขยายผลประชามติได้ เตือนไม่เสรีอาจเกิดการไม่ยอมรับผล ขออย่ากลัวพวกฉวยโอกาสเพราะมี กม.เอาผิดอยู่

วันนี้ (22 พ.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอจากที่ประชุมพรรคการเมืองขอให้ผ่อนปรนคำสั่ง คสช.ที่ 57/2557 เรื่องห้ามกิจกรรมทางการเมืองว่า ได้คืบจะเอาศอกอยู่เรื่อยนั้น ในฐานะที่ตนเป็นผู้แทนจากพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมประชุมในวันนั้นด้วย เห็นว่าข้อเสนอที่ให้ผ่อนปรนคำสั่ง คสช. ที่ 57/2557 ไม่ใช่เรื่องของการได้คืบจะเอาศอกแต่อย่างใด แต่เป็นข้อเสนอที่สืบเนื่องมาจากคำกล่าวเปิดประชุมของประธาน กกต.ที่ประกาศเชิญชวนให้พรรคการเมืองช่วยขยายผลการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อประธาน กกต.กล่าวเชิญชวน จึงมีข้อเสนอในวันนั้นถึงเรื่องผ่อนปรนคำสั่ง คสช. พรรคการเมืองจะช่วยขยายผลเรื่องการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้ ถ้าไม่มีการผ่อนปรนคำสั่ง คสช.ที่ 57/2557 ดังกล่าว จึงอยากเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาข้อเสนอเรื่องผ่อนปรนคำสั่ง คสช.ที่ 57/2557 อย่างรอบด้านอีกครั้งหนึ่ง เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม

นายองอาจกล่าวต่อไปว่า หัวใจสำคัญของการทำประชามติคือ ประชาชนควรมีสิทธิ มีเสียง ที่จะแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีโดยปราศจากข้อจำกัดใดๆ เมื่อผลการทำประชามติออกมาจะได้เกิดการยอมรับจากทุกๆ ฝ่ายในสังคมทั้งคนที่เห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าการทำประชามติไม่เป็นไปอย่างเสรี มีข้อจำกัดมากมาย คนส่วนหนึ่งก็อาจไม่ยอมรับผลของการทำประชามติซึ่งเมื่อมีการไม่ยอมรับผลของการทำประชามติก็อาจเป็นเงื่อนไขให้เกิดปัญหาตามมาอีกอย่างไม่จบสิ้น ในกรณีที่ผู้มีอำนาจอาจวิตกกังวลว่าถ้าผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ หรือเปิดให้มีการแสดงออกอย่างเสรีแล้ว อาจจะมีผู้ไม่หวังดีใช้ช่องทางนี้ก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองว่า ไม่น่าจะวิตกกังวลแต่อย่างใด เพราะถ้ามีใครกระทำการใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมายก็สามารถจัดการเอาผิดตามกฎหมายได้เต็มที่อยู่แล้ว พราะฉะนั้นการเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงออกอย่างเสรีและผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ น่าจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองมากกว่า


กำลังโหลดความคิดเห็น