ประธาน กกต.พอใจการประชุมชี้แจงพรรคการเมือง ย้ำไม่ได้ใช้กฎหมายจ้ำจี้จ้ำไช อีกทั้งรองนายกฯ จะหาข้อผ่อนปรน “สมชัย” ยังไม่หารือเปิดเวทีอีกรอบ แจงขายเสื้อไม่ผิด แต่อย่าโยงปลุกระดม ชี้ชัดแจกเสื้อหรือสติกเกอร์ทำไม่ได้
วันนี้ (20 พ.ค.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กล่าวถึงการประชุมชี้แจงพรรคการเมือง เมื่อวานนี้ (19 พ.ค.) ที่ผ่านมาว่า การที่ตัวแทนจากพรรคการเมืองกว่า 50 พรรค สภานิติบัญญัติ กรรมาธิการยากร่างรัฐธรรมนูญ และคณะรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี การอธิบายให้ตัวแทนจากฝ่ายต่างๆ เข้าใจในมาตรา 7 ที่มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมีขอบเขตมากน้อยแค่ไหน และมาตรา 61 ว่าจะแสดงความคิดเห็นยังไงให้ไม่ผิดกฎหมาย
หลังจากนี้ กกต.ก็จะเอาข้อมูลทั้งหมดที่ประชุมร่วมกันมาดู และบอกกับตัวแทนว่าไม่ต้องไปกังวล เพราะ กกต. ไม่ได้ไปจ้ำจี้จ้ำไช ไม่คอยจับผิดใคร เพราะคนที่ชี้ขาดคือศาล ไม่ใช่ กกต. และในส่วนของฝ่ายรัฐบาลทางนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะพยายามหาข้อผ่อนปรน และจะไปคุยกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม กกต.ก็ต้องดำเนินการไปตามหน้าที่ให้ดีที่สุด
“กกต.พอใจ เพราะการที่ได้มาพูดคุยกัน มีอะไรก็ได้ซักถามถึงข้อสงสัย ทำได้แค่ไหนเพียงใด ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากต่างฝ่ายต่างยอมรับความคิดเห็นก็ดี กกต.ก็ได้ทำหน้าที่ของ กกต.เต็มที่ในการชี้แจงข้อซักถาม รวมถึงเหตุผลและความจำเป็นต่างๆ” นายศุภชัยกล่าว
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า ภาพรวมการประชุมชี้แจงพรรคการเมืองเป็นที่น่าพอใจ เป็นไปในทิศทางที่ดี แต่ละพรรคการเมืองส่งตัวแทนเข้ามาร่วมและให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ระยะเวลาก็มีเต็มที่เพื่อให้ตั้งคำถามและชี้แจง ดังนั้นจึงเป็นบรรยากาศค่อนข้างดี ส่วนจะเปิดเวทีลักษณะนี้อีกหรือไม่ กกต.ยังไม่หารือกัน
อย่างไรก็ตาม กกต.มีโอกาสอธิบายเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายทำให้พรรคการเมืองผ่อนคลายความกังวลในเรื่องที่อะไรทำได้ ทำไม่ได้ และ กกต.ได้ตั้งทีมที่ปรึกษากฎหมายเพื่อมากลั่นกรองเรื่องร้องเรียนที่อาจขัดกฎหมายในกรณีสำคัญๆ ที่ กกต.ไม่ชัดเจนว่าผิดหรือไม่ผิด เช่น กรณีการขายเสื้อของกลุ่มการเมืองกฎหมายที่ปรึกษากฎหมายได้พิจารณาว่าไม่ผิด เบื้องต้นได้ให้แนวคิดว่าการกระทำ ที่เชื่อมโยงรณรงค์ปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองจะถือเป็นองค์ประกอบความผิดครบถ้วน ซึ่งกรณีดังกล่าวได้มีการรวบรวมหลักฐานไว้แล้วเมื่อใด ที่เชื่อมโยงว่าเป็นการรณรงค์ระดมให้เกิดความวุ่นวาย ก็สามารถดำเนินการได้ทันที
ส่วนการแจกเสื้อหรือแจกสติกเกอร์ไม่สามารถทำได้เพราะขัดต่อมาตรา 61 (2) เพราะมีลักษณะคล้ายกับการซื้อเสียง อะไรก็ตามที่คิดเป็นมูลลค่าเงินถือเป็นความผิดได้ และไม่เกี่ยวว่ามีมูลค่ามากหรือน้อย เพราะเคยมีแนวทางการวินิจฉัยมาแล้วเช่น การแจกปฏิทินปีใหม่ก็มีการแจกใบแดง ดังนั้นขอให้ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจเข้าข่ายดังกล่าวกรณีดังกล่าว