กกต.ประชุมร่วมกับทีวีดิจิตอล 25 ช่อง จัดสรรเวลาออกอากาศแบบทีวีพูล 13 ครั้ง ครั้งละครึ่งชั่วโมงหลังรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” ของ คสช. เล็งใช้จัดเสวนาวิชาการ เอาคนหนุน-คนค้านมาบันทึกเทป แต่ยังใช้กฎหมายคุมห้ามปลุกระดม หยาบคาย เป็นเท็จ ย้ำไม่เซ็นเซอร์ พร้อมยืนยัน พ.ร.บ.ออกเสียงฯ ทำได้ตามกฎหมาย กลุ่มนักวิชาการยื่นค้านถือเป็นสิทธิ จับมือ กรธ.-สนช.-ครม. เชิญพรรคการเมืองทำความเข้าใจ 19 พ.ค.นี้
วันนี้ (17 พ.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารการเลือกตั้ง เป็นประธานประชุมร่วมกับผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ 25 ช่อง ผู้แทนสถานีวิทยุ มหาวิทยาลัย และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อชี้แจงและกำหนดหลักเกณท์การจัดสรรเวลาการออกเสียงประชามติ โดยมีนายอัชพร จารุจินดา, นายภัทระ คำพิทักษ์ ตัวแทนคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ, นายสมชาย แสวงการ ตัวแทนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เข้าร่วม
โดยนายสมชัยแถลงว่า ที่ประชุมได้กำหนดรายละเอียด การจัดสรรเวลาออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ในลักษณะทีวีพูล ซึ่งจะมีการออกอากาศในช่วงเวลา 18.20-18.50 น. จำนวน 13 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที ทุกวันจันทร์และพุธ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 27 มิ.ย.จนถึงวันเสาร์ที่ 6 ส.ค. โดย 2 ครั้งแรกจะเป็นการออกอากาศชี้แจงกระบวนการและขั้นตอนการออกเสียงประชามติของ กกต.อีก 3 ครั้งเป็นการชี้แจงของ กรธ.เกี่ยวกับสาระสำคัญในเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ และอีก 2 ครั้งของ สนช.เป็นการอธิบายประเด็นคำถามพ่วง
ส่วน 6 ครั้งที่เหลือจะให้เป็นการจัดเสวนาวิชาการ ที่ให้อิสระสถานีช่องต่างๆ สามารถหาพิธีกร ผู้ร่วมรายการได้เอง โดยอยู่บนหลักการต้องเชิญคนที่เห็นต่างทั้งสองฝ่ายมาร่วมแสดงความคิดเห็น การเสวนาต้องไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ปลุกระดม หรือเป็นเท็จ โดย กกต.จะไม่มีการเซ็นเซอร์ใดเพียงแต่รายการที่จะจัดนั้นจะเป็นการบันทึกเทป ซึ่งช่องใดจะจัดหัวข้ออะไร จะมีการตกลงกันอีกครั้งในการประชุมวันที่ 25 พ.ค. เวลา 14.00 น. แต่เบื้องต้น กกต.ได้ให้แนวทางไปว่าเรื่องที่ควรจัดเสวนานั้นควรจะเป็นประเด็นสิทธิเสรีภาพ รัฐสภา องค์กรอิสระ ศาลและศาลรัฐธรรมนูญ เป็นต้น
นายสมชัยยังกล่าวอีกว่า ในการออกอากาศนั้นจะออกอากาศพร้อมกันทางสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล 25 ช่อง โดยจะมีการพ่วงสัญญาณไปยังสถานีวิทยุกระจายเสียงของรัฐ 616 สถานีทั่วประเทศ ซึ่งเป็นความร่วมมือที่เสียสละอย่างยิ่งเพื่อประโยชน์ของประเทศ เนื่องจากการออกอากาศต้องใช้งบมูลค่ามหาศาล ส่วนสถานีใดประสงค์ออกอาาศรายการซ้ำ กกต.ไม่มีข้อห้าม และถ้าจะพ่วงไปที่เว็บไซต์ หรือสถานีดาวเทียมใดจะเชื่อมสัญญาณก็สามารถทำได้
นายสมชัยยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ส่งข้อเสนอแนะให้ กกต.กำหนดรายละเอียดเรื่องที่ทำได้ ทำไม่ได้ช่วงการทำประชามติให้เกิดความชัดเจนนั้น ทาง กกต.จะมีการพูดคุยกันในสัปดาห์หน้า
ส่วนกรณีที่กลุ่มนักวิชาการยื่นคำร้องต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ กกต. เป็นดุลพินิจของผู้ตรวจการแผ่นดิน หากเห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญก็สามารถส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ เพราะการออก พ.ร.บ.ดังกล่าว กกต.ได้ทำอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย
อย่างไรก็ตามในวันที่ 19 พ.ค.นี้ กกต.จะเป็นเจ้าภาพเชิญ กรธ., สนช., ครม. และตัวแทนจาก 77 พรรคการเมืองเข้าร่วมรับฟัง ชี้แจงเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญและกระบวนการประชามติ ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต เวลา 14.00 น.
รายงานข่าวจาก MGR Online แจ้งว่า โดยปกติแล้วหลังจากเคารพธงชาติ ทุกสถานีจะต้องออกอากาศรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” ที่สถานีโทรทัศน์แอนะล็อกเดิม 6 ช่องผลิตรายการร่วมกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกอากาศทุกวันเป็นเวลา 20 นาที ตั้งแต่เวลา 18.01-18.20 น.
