ผอ.สถาบันพระปกเกล้า นำนักเคลื่อนไหวการเมืองที่สวมบทนักแสดงแถลงเดินสายละครปรองดอง 4 ภาค “แม่เกด” โวยกฎหมายรอโทษสุดซอย ชี้จะถูกต่อต้านมาก มองไม่ต่างจากสุดซอยเพื่อไทย แนะยึดผลศึกษา “เอนก” ลั่น จนท.ต้องโดนด้วย
วันนี้ (10 พ.ค.) ที่รัฐสภา พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ เลขาธิการชมรมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ปี 2557 และ ผอ.สถาบันสันติสุขสถาบันพระปกเกล้า นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) คนที่ 1 พร้อมด้วยนักแสดงละครเวที “สถานีปลายทาง : The Last Station” ได้แก่ นายวิภูแถลง พัฒนภูไท แกนนำ นปช. นางพะเยาว์ อัคฮาด นายศิริชัย ไม้งาม และนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ร่วมแถลงความคืบหน้าการสร้างความสมานฉันท์ปรองดอง โดย พล.อ.เอกชัยกล่าวว่า ในวันที่ 24 มิ.ย.จะมีการเปิดตัวละครเวทีสถานีปลายทางฯ ของนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการเสริมสร้างสังคมสันติสุข (สสสส.) รุ่นที่ 6 ของสถาบันพระปกเกล้า ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงเพราะสอดคล้องกับเนื้อหาละคร ทั้งนี้ละครเวทีจะเดินสายแสดงทั่วทุกภาคของประเทศ เช่น ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ภาคอีสาน จ.ขอนแก่น ภาคใต้ สงขลาและยะลา ส่วนภาคตะวันออก ที่ จ.ชลบุรี ขั้นต้นจะทำการแสดงเดือนละ 1 เวที ซึ่งการแสดงละครเวทีดังกล่าวจะเป็นการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในประเทศ
ขณะที่นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดานางสาวกมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุม นปช.ปี 2553 กล่าวถึงข้อเสนอของนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ (สปท.) ในการวางมาตรการทางกฎหมายรอการกำหนดโทษแก้ปัญหาคดีความทางการเมือง ว่าเป็นการโยนหินถามทาง ไม่มีทางสำเร็จ และไม่มีใครสามารถยอมรับได้ และจะมีคนออกมาต่อต้านจำนวนมาก การนิรโทษกรรมต้องไม่แยกกลุ่มกันแบบนี้ เพราะกรณีพันธมิตรฯ ยึดสนามบิน และ เสื้อแดงเผาศาลากลางมีความเสียหายไม่ต่างกัน หากเป็นเช่นนี้ก็ไม่ต่างจากการนิรโทษกรรมแบบสุดซอยของพรรคเพื่อไทย การแบ่งแยกจะสร้างความขัดแย้งชุดใหม่ บางเรื่องเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมมากเกินไป เช่น การใช้มาตรา 44 กับคดีเล็กๆ เพราะหากทำจริงคนที่ตาย เจ็บ และติดคุกก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร เวลานี้คดีเล็กๆ คนที่ติดคุกก็จะพ้นโทษหมดแล้ว เหลือเพียงคดีใหญ่ซึ่งก็อยู่ในขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว
“หากจะนิรโทษกรรม ดิฉันเห็นว่าควรเอาผลการศึกษาชุดของนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตประธานคณะอนุกรรมธิการว่าด้วยการปฏิรูปและการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มาพิจารณาจะเป็นที่ยอมรับของสังคมมากกว่า ทำแบบนี้ถือว่าเป็นการกินรวบเหมือนรวบปากถุง แต่ในถุงมีอะไรบ้างก็ไม่รู้ เชื่อว่าไม่มีใครเห็นด้วยกับนายเสรี ทั้งนี้ต้องมีการดำเนินการกับแกนนำกับเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่ละเว้นเจ้าหน้าที่ไว้ เพราะคดีน้องเกดลูกดิฉัน ผลสอบก็ออกมาแล้วว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ จึงเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่สำเร็จแน่นอน” นางพะเยาว์กล่าว