ศาลทหารกรุงเทพ อนุญาตให้ประกันตัวมารดานักเคลื่อนไหวการเมือง ด้วยหลักทรัพย์เงินสด 5 แสนบาท ในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง พร้อมเงื่อนไขห้ามปลุกปั่น ห้ามออกนอกประเทศ
วันนี้ (8 พ.ค.) ที่ศาลทหารกรุงเทพ รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.สัณห์เพชร หนูทอง พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กองกำกับการ 3 กองบังคับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ได้เดินทางมาพร้อม น.ส.พัฒน์นรี หรือ หนึ่งนุช ชาญกิจ มารดาของ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือฉายา “จ่านิว” แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับในข้อหาร่วมกันกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ โดยได้นำตัวมาฝากขังผลัดแรกต่อศาลทหาร โดย น.ส.พัฒน์นรี เดินทางมาศาลด้วยสีหน้าเรียบเฉย ถือสัมภาระ เสื้อผ้า โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมมาเพียง 2 นาย
ด้าน น.ส.คุ้มเกล้า ส่งสมบรูณ์ ทีมทนายความของ น.ส.พัฒน์นรี กล่าวว่า ทีมทนายได้นำเอกสารหลักฐาน เพื่อคัดค้านประเด็นการสอบสวน ซึ่งผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี เพราะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายจับ ซึ่ง น.ส.พัฒน์นรี ได้ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด โดยหลักฐานที่เตรียมมาในวันนี้ ก็เป็นหลักฐานที่คัดค้านการฝากขัง และหลักทรัพย์การประกันตัวในวงเงิน 500,000 บาท
เวลา 08.30 น. นายธีรพันธุ์ พันธุ์คีรี ทนายความ ได้เดินทางมายังศาลทหาร โดยกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ทางทนายจะค้านการฝากขัง โดยได้นำหลักฐานต่าง ๆ พร้อมเงินสดมาขอประกันตัวในชั้นฝากขัง กระทั่งเวลา 08.40 น. นายสิรวิชญ์ เดินทางมายังศาลทหารด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด โดยไม่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด
ต่อมา เวลา 09.30 น. ตุลาการศาลทหารนั่งบัลลังก์ พิจารณาคำร้องขอฝากขัง โดยพนักงานสอบสวนร้องขอฝากขังเป็นเวลา 12 วัน โดยให้เหตุผลว่า ต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 7 ปาก และต้องตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหาที่ยึดมาได้ รวมถึงโทรศัพท์มือถือ พร้อมทั้งตรวจสอบประวัติลายนิ้วมือ รวมถึงคดีมีอัตราโทษสูงเกิน 10 ปี
โดยทีมทนายความของ น.ส.พัฒน์นรี ได้คัดค้านการฝากขังต่อศาลใน 4 ประเด็น คือ 1. ผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี 2. เห็นว่า ความผิดดังกล่าวยังไม่เข้าข่ายองค์ประกอบความผิดตามข้อกล่าวหา 3. ผู้ต้องหาไม่อาจไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน และ 4. การคุมขังผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้นำครอบครัว จะส่งผลทำให้ครอบครัวเดือดร้อน
โดยท้ายคำร้องในชั้นสอบสวน พนักงานสอบสวนได้มีความเห็นให้ประกันตัว เพราะผู้ต้องหาได้มามอบตัวตามระเบียบ แต่ผู้บังคับบัญชาเห็นว่าไม่สมควรให้ประกัน เพราะคดีมีอัตราโทษสูง ทั้งนี้ ศาลพิจารณาแล้วเห็นควรให้ฝากขังตามคำร้องของพนักงานสอบสวนเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 8 - 19 พ.ค. โดยให้นำตัวไปส่งที่ทัณฑสถานหญิงกลางกรุงเทพมหานคร
จากนั้น เวลา 11.30 น. ตุลาการศาลทหาร ได้พิจารณาคำร้องของประกันตัว น.ส.พัฒน์นรี โดยนายประกันได้ยื่นหลักทรัพย์ เป็นเงินสดจำนวน 5 แสนบาท โดยตุลาการศาลทหารได้อนุญาตให้ประกันตัวโดยมีเงื่อนไข 1. ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ 2. ห้ามยุยงปลุกปั่น ห้ามชุมนุมทางการเมือง