พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า มีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 2 คน ในคดีแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่มีนายสุริยัน สุจริตพลวงษ์ กับพวก เป็นผู้ต้องหา ซึ่งฝ่ายสืบสวนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตั้งเรื่องร้องเรียนและระบุตัวบุคคลที่ร่วมกระทำความผิด ในฐานแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงไว้ชัดเจน ในจำนวนนี้มีทั้งพลเรือนและข้าราชการ
ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวอ้างว่า ผู้เกี่ยวข้องเป็นอดีตข้าราชการตำรวจระดับสูง ส่วนตัวยอมรับว่า ทราบข่าวเช่นนั้นเหมือนกัน แต่ไม่ต้องการแสดงความเห็น เนื่องจากยังไม่ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่หากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้รับผิดชอบ ก็ต้องรับเป็นสำนวนคดีใหม่ นอกเหนือจากสำนวนคดี 16 คดี ที่ส่งฟ้องให้อัยการแล้ว และหากผู้เกี่ยวข้องเป็นอดีตตำรวจหรือทหารจริง ก็ไม่หนักใจ เพราะทุกขั้นตอนดำเนินการไปตามกฏหมายและพยานหลักฐาน
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่านายคชาชาต บุญดี และ พล.ต.สุชาติ พรหมใหม่ ผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนี ยังไม่ติดต่อขอเข้ามอบตัว ซึ่งฝ่ายสืบสวนยังติดตามเบาะแส และยืนยันว่าไม่มีผลต่อคดี
นอกจากนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกล่าวถึงกรณีการออกหมายจับนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำกลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยศึกษา กับพวกรวม 6 คน ที่นัดหมายออกมาชุมนุมเรียกร้องให้ตรวจสอบทุจริตการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจรถไฟติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี ซึ่งหากสืบสวนพบว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง ยุยงส่งเสริมให้กลุ่มผู้ต้องหา มีการเคลื่อนไหวลักษณะฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะดำเนินคดีทั้งหมด
ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวอ้างว่า ผู้เกี่ยวข้องเป็นอดีตข้าราชการตำรวจระดับสูง ส่วนตัวยอมรับว่า ทราบข่าวเช่นนั้นเหมือนกัน แต่ไม่ต้องการแสดงความเห็น เนื่องจากยังไม่ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่หากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้รับผิดชอบ ก็ต้องรับเป็นสำนวนคดีใหม่ นอกเหนือจากสำนวนคดี 16 คดี ที่ส่งฟ้องให้อัยการแล้ว และหากผู้เกี่ยวข้องเป็นอดีตตำรวจหรือทหารจริง ก็ไม่หนักใจ เพราะทุกขั้นตอนดำเนินการไปตามกฏหมายและพยานหลักฐาน
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่านายคชาชาต บุญดี และ พล.ต.สุชาติ พรหมใหม่ ผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนี ยังไม่ติดต่อขอเข้ามอบตัว ซึ่งฝ่ายสืบสวนยังติดตามเบาะแส และยืนยันว่าไม่มีผลต่อคดี
นอกจากนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกล่าวถึงกรณีการออกหมายจับนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำกลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยศึกษา กับพวกรวม 6 คน ที่นัดหมายออกมาชุมนุมเรียกร้องให้ตรวจสอบทุจริตการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจรถไฟติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี ซึ่งหากสืบสวนพบว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง ยุยงส่งเสริมให้กลุ่มผู้ต้องหา มีการเคลื่อนไหวลักษณะฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะดำเนินคดีทั้งหมด