“ประยุทธ์” รับกำหนดไม่ได้แก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้สำเร็จเมื่อไหร่ วอนผู้ก่อเหตุหยุดป่วน กลับมาร่วมพัฒนาชาติด้วยกัน ผุด 6 มาตรการเร่งพัฒนาการศึกษา ยันเป็นเรื่องสำคัญสุดที่ต้องปฏิรูป พ้อเหนื่อยทั้งกาย - ใจ อยากให้ทุกคนร่วมมือรัฐบาล เชื่อฟังกฎหมาย อย่าเชื่อเรื่องที่สร้างความแตกแยก ลั่นมีเจตนาบริสุทธิ์ “ถ้าดูหัวใจได้ก็จะให้ดู” ปากหวานชีวิตจิตใจให้ประเทศชาติไปหมดแล้ว
วันนี้ (29 เม.ย.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยมี พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดำเนินรายการ ว่า การปฏิรูปประเทศไม่ว่าจะเป็นแผนใดก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าจะไปบีบบังคับใคร ถึงบอกให้ประชาชนทราบ เรียนรู้ว่าสิ่งที่ประเทศเราต้องปรับปรุงมีอะไรบ้าง จากนั้นท่านก็ไปให้รัฐบาลเลือกตั้งของท่านทำ ตนก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลหน้าจะทำได้ และอยู่ในกรอบยุทธศาสตร์ชาติเป็นหลัก ซึ่งมันต้องสอดคล้องกันหมดทั้งแผนปฏิรูป แผนสภาพัฒน์ ยุทธศาสตร์ชาติ ถ้าไม่สอดคล้องมันไปไม่
นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องสำคัญอีกเรื่องคือ การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เราได้มีการตั้งคณะกรรมการพูดคุยสันติภาพ มีการพูดคุยมาหลายครั้งแล้ว ก็มีความก้าวหน้ามาตามลำดับ คราวนี้ไม่อยากจะใช้สิ่งเหล่านี้มาเป็นตัวกำหนดว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ อะไร ยังไง ขอให้ทุกคนเข้าใจ ไม่มีใครไม่อยากให้จบ เพราะเราเสียดายชีวิต เวลา โอกาส งบประมาณมากมาย
“ก็ขอร้องแล้วกัน ฝากไปถึงพวกที่ก่อเหตุต่าง ๆ ก็ขอให้เลิกเถอะครับ เลิกเถอะ เรากลับมาเป็นคนไทยพัฒนาชาติไทยด้วยกันดีกว่าเราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ แล้วก็โอกาสของภาคใต้มีอย่างเยอะแยะ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ ยังกล่าวถึง Startup ด้วยว่า โลกให้ความสนใจเรื่อง SMEs คือ ธุรกิจขนาดเล็ก เพื่อสนับสนุนขนาดเล็กให้เป็นกลาง ขนาดกลาง ให้เป็นใหญ่ เพราะฉะนั้นในการประชุม UN หรือในการประชุมอาเซียน เขากล่าวถึงคำว่า SMEs ทุกประเทศ ประเทศไทยมีธุรกิจที่เราส่งออกที่เป็น SMEs กว่าสองล้านราย เรียกว่า เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ขณะนี้ก็เร่งรัดเรื่องการจดทะเบียน การให้ทุน การให้ความรู้ การจัดทำบัญชีเดียว ระบบการเสียภาษีทั้งหมด ก็ต้องเร่งทั้งหมดเลยเพราะว่าที่ผ่านมาไม่ค่อยได้ใส่ใจกับตรงนี้ วันนี้ก็พยายามเร่งอยู่
ซึ่ง Startup กับ SMEs ก็อันเดียวกัน เพียงแต่อันนี้เป็นคนรุ่นใหม่ จากที่เราพูดเรื่องของไทยแลนด์ 4.0 ในเรื่องของการขับเคลื่อนประเทศไปอย่างไร และก็ในอนาคต 4.0 ก็คือการใช้ปัญญาประดิษฐ์ ใช้เครื่องจักรกลที่เป็นหุ่นยนต์บ้างอะไรบ้าง ก็คือ ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้ออกมาเป็น นวัตกรรมใหม่ ๆ เพราะว่าอันนี้ก็คือเรียกว่า New Startup เพื่อจะสนับสนุน S Curved New S Curved 5 อุตสาหกรรมหลักของประเทศในอนาคตเดิมมีอยู่ 5 บวกใหม่อีก 5 เพื่อจะรองรับโลกในวันข้างหน้าด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า สถานการณ์คอร์รัปชันไทยในปี 2558 ถึงแม้จะดีที่สุดในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา ตนก็ไม่พอใจต้องเร่งรัดให้มากขึ้นกว่านี้ เราพยายามกำหนดมาตรการสำคัญเยอะแยะ อันที่หนึ่งคือการตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) อันที่สองก็ตั้งคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) อันที่สาม พ.ร.บ. การอํานวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 แล้วก็เรื่องของการใช้สัญญาคุณธรรม ระบบ COST มีระบบร้องเรียน มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด มีการตรวจสอบทั้งก่อน และหลังการทำโครงการ บางครั้งนี่ตรวจก่อนไม่ได้เพราะตอนแรกเขาเร่งดำเนินการกันไง เพราะเป็นแสน ๆ โครงการ แต่ก็ต้องทำ ตรวจสอบยังไม่เสร็จบางอันก็ต้องมาตรวจต่อ เขาก็ต้องทำไปก่อน ทีนี้พอทำเสร็จแล้วเจอที่พูดไปเมื่อกี้นี้ ก็ต้องลงโทษ
เรื่องการปฏิรูปการศึกษา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนก็ต้องมองว่าการปฏิรูปการศึกษาสำคัญสุด ตนก็เห็นด้วย แต่คราวนี้เราจะทำอย่างไร ไม่ได้ว่าระบบเราเหลวแหลกไปทั้งหมด แต่ต้องทำให้ดีขึ้น ผลิตคนที่ตรงความต้องการของประเทศ แล้วประชาชนมีการเรียนรู้มากกว่าเรียนเพื่อรับปริญญา หรือเพื่อเลื่อนวิทยฐานะ ต้องเรียนรู้ทั้งในภาคการศึกษาแล้วก็สอนให้คนมีคุณธรรม การศึกษาที่เราเร่งมากที่สุดคือว่าทำอย่างไรจะมีการบูรณาการระหว่าง 5 แท่งให้ได้ ตนก็จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 ในการแก้ไขปัญหา วันนี้ตนให้รัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวข้างบน แล้วก็สั่งการลงมา มีรัฐมนตรีช่วย ช่วยกัน แล้วก็ขับเคลื่อนคณะกรรมการ ขับเคลื่อนบูรณาการด้านการศึกษา ซึ่งมี 5 แท่ง คือหัวหน้าหน่วยงาน 5 แท่ง ก็จะสร้างไปข้างล่าง ให้ต่อกัน ตอนนี้หลายอย่างเกิดขึ้นมาใหม่แล้ว อาจจะไม่ทันใจมากนักเพราะติดกฎหมายไว้เยอะ
วันนี้ก็มีจัดตั้งเขตการศึกษาใหม่ 18 เขต แล้วก็ไปให้การมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอะไรต่าง ๆ ก็เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย การศึกษา อบท. อะไรต่าง ๆ แต่อย่าเพิ่งไปโอนให้ใครเลย วันนี้ทุกคนมาร่วมมือกัน ทำให้การศึกษาในท้องที่มันดีขึ้น วันนี้คณะกรรมการ 12 คณะของเราก็ลงไปดูเรื่องการศึกษาด้วย ก็มีการจัดทวิภาคี หลายอย่างมาเสริมกันหมด อันที่สองก็คือการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาเรียนรู้ อันนี้ก็คือเรียน และเรียนรู้ เรียนเพื่อปริญญา เรียนเพื่อตัวเอง แต่ก็ต้องเรียนรู้เพื่อสังคมด้วย จะต้องอยู่กันยังไง ไม่ขัดแย้ง อันนี้ สอง สาม พูดรวมกันแล้วกัน
อันที่สี่ คือ โครงการ “โรงเรียนคู่พัฒนา” ที่เรียกว่าทวิภาคียังไง คือจะต้อง โรงเรียนนี้ กับโรงเรียนโน้น พี่จูงน้อง เพื่อนจูงเพื่อนไปด้วยกัน แล้วทั้งสองโรงเรียนก็จะเป็นคู่กันในการพัฒนาร่วมกัน จะได้ลดความแตกต่าง ในด้านมาตรฐานการสอน ที่ผ่านมาบางทีต่างคนต่างสอน ไม่ได้ดูกันยังไง วันนี้ต้องดูกันแล้วก็พัฒนาตัวเองให้เท่าเทียม คนได้ประโยชน์คือเด็ก คือครู คือประเทศชาติ
อันที่ห้า คือ การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม อันนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเริ่มไว้ DLTV นี่ นานแล้วนะ วันนี้เราก็สามารถทำได้ทั้งหมดแล้ว ประมาณ 15,000 กว่าโรงเรียนนะ เพื่อสนองแนวทางพระราชดำริ ก็กำลังปรับปรุงทุกอย่าง ให้ดีขึ้น ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ นะ ถึงต้องไปสู่การเป็น Digital Economy ด้วยไง
ต่อไปเรื่องที่หก คือ โรงเรียนประชารัฐ เราก็มีความมุ่งหมายว่า ทำยังไงจะทำให้มีส่วนร่วมในโรงเรียนเหล่านี้ ก็ในการประสานความร่วมมือในภาคประชารัฐนะ ในภาคประชาชน ภาครัฐบาล ภาคประชาสังคม มาร่วมมือในโรงเรียนด้วย เป้าหมายระยะแรก 1 ตำบล 1 โรงเรียนต้นแบบ ก็คือ 7,424 แห่ง แต่ละตำบลนะครับ แล้ต่อไปก็จะขยายลงมา จากตำบลก็ไปเป็นพื้นที่ที่เล็กลงไปกว่านั้น
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวด้วยว่า ที่พูดมาเหนื่อยไหม ฟังแล้วเหนื่อยไหม พูดก็เหนื่อย ทำก็เหนื่อยกว่า ถ้าคิดแล้วพูด ไม่ต้องทำนี่ ไม่เหนื่อยหรอก นี่เหนื่อย เหนื่อยใจด้วย แรงกดดันก็สูง ต้องทำให้สำเร็จไง ประชาชนเดือดร้อน ตนก็เต็มตื้นทุกทีเวลาเจอคนจน เวลาพูดถึงเขาตนไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก เสียเวลามาเยอะแล้ว ขอให้ทุกคนร่วมมือกับรัฐบาล กับ คสช. ถ้าเชื่อฟังกฎหมายก็ไม่เกิดความขัดแย้ง อย่าบิดเบือนกันอีกต่อไปเลย เลือกที่จะเชื่อ เลือกที่จะฟังบ้าง เลือกที่จะอ่านบ้าง อะไรที่สร้างความขัดแย้งมาก ๆ ก็อย่าไปเชื่อมากนักเลย บางที่ก็มีจุดประสงค์อย่างอื่น เจตนาไม่บริสุทธิ์
“ผมนี้เจตนาบริสุทธิ์ ถ้าดูหัวใจผมได้ก็จะให้ดูนะ ว่าผมให้ทุกอย่างไว้แล้ว ชีวิต จิตใจ ผมให้หมดแล้วนะ ก็ขอขอบคุณนะครับในความร่วมมือ ขอบคุณในการที่เราจะมองอนาคตร่วมกันนะครับ อย่างที่เราวาดหวังไว้ใน 20 ปีข้างหน้าไปพร้อม ๆ กัน” นายกฯ กล่าวทิ้งท้าย
คำต่อคำ : รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” วันที่ 29 เมษายน 2559
ทักษดา- สวัสดีค่ะ ดิฉัน พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขอทุกท่านเข้าสู่รายการคืนความสุขให้คนในชาติ เป็นประจำทุกสัปดาห์ที่ท่านนายกรัฐมนตรีจะมาพูดคุยบอกเล่าเรื่องราวสิ่งดี ๆ และความก้าวหน้าในการบริหารราชการแผ่นดินให้พี่น้องประชาชนได้ทราบ ในเวลานี้ท่านนายกรัฐมนตรีอยู่กับดิฉันแล้ว สวัสดีค่ะ ท่านนายกฯ คะ ในสัปดาห์นี้มีเรื่องอะไรที่เป็นเรื่องที่น่ายินดีของพี่น้องประชาชนชาวไทยบ้างคะ
ประยุทธ์- สัปดาห์นี้ก็มีหลายเรื่องเหมือนกันนะครับ เรื่องแรกเมื่อวานนี้เป็นวันที่ 28 เมษายน 2559 ก็เป็นวันครบรอบวันราชาภิเษกสมรส ครบ 66 ปี ก็ขอให้ทั้งสองพระองค์นั้นทรงพระเจริญ แบบอย่างของผู้ครองเรือนนะครับ นี่ก็เป็นสิ่งสำคัญคิดว่าประชาชนคนไทยก็คงต้องร่วมกันถวายพระพรด้วย
ทักษดา- แล้วก็ทราบว่าปีนี้เป็นปีทองของนักกีฬาไทย และเป็นปีทองของเยาวชนไทยด้วย ทราบว่านักกีฬาของเราทำผลงานดีในต่างประเทศมากมายเลย ทราบว่า ท่านนายกฯ จะมีเรื่องเล่าให้ฟังด้วยใช่ไหมคะว่าใครประสบความสำเร็จบ้าง
ประยุทธ์- มีหลายคนแหละ คนแรกนะครับ น้องเมย์ รัชนก รัฐบาลได้นำความกราบบังคมทูลฯเพื่อขอพระราชทาน และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่ง ดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นทุติยดิเรกคุณาภรณ์ เป็นกรณีพิเศษ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณกับตนเองและครอบครัว ซึ่งจะได้เป็นกำลังใจต่อไปในการมุ่งมั่นที่จะเอาชนะเลิศในการแข่งขันกีฬาอื่น ๆ ในวันหน้านะครับ
ในเรื่องของการรักษาแชมป์เอเชีย ก็ไม่เป็นไร ผมถือว่า นักกีฬาทุกคนเป็นเพื่อนกัน ใครชนะใครแพ้ก็เป็นเพื่อนกันทั้งหมด แบ่งปันกันบ้าง ขอให้ตั้งอกตั้งใจมีความมุ่งมั่นในการเดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ การรักษาแชมป์ผมว่ามันยากกว่าการทำแชมป์ ก็อย่าเสียใจนะ นายกรัฐมนตรีและคนไทยขอเป็นกำลังใจให้เสมอ
คนที่ 2 ก็เป็น น้องณี สุธิยา จิวเฉลิมมิตร คว้าแชมป์เวิลด์คัพ ยิงเป้าบิน เป็นคนไทยคนแรกที่ได้แชมป์ประเภทนี้ นอกจากนี้ ก็มีเทควันโด ยกน้ำหนัก ได้รับเหรียญรางวัล เหรียญทอง เหรียญเงิน บ้างทั้งสองอย่าง ได้โควตาไปโอลิมปิกด้วย เป็นเรื่องที่น่ายินดี ขอเป็นกำลังใจทัพนักกีฬาไทย ทั้งที่กล่าวถึง และยังไม่ได้กล่าวถึงทุกคนที่ตั้งอกตั้งใจในการทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทย สำหรับที่ผ่านไปแล้วก็ขอให้ผ่านรอบคัดเลือกไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2016 ประเทศบราซิล จะเป็นความสำเร็จของเยาวชนไทยในโอกาสต่อไปด้วย
สำหรับในอีกเรื่อง ก็คือ เรื่องในเวทีประกวดนวัตกรรมนานาชาติครั้งที่ 44 ณ กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ มีนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทีมนักศึกษาอาชีวะ จากวิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี และวิทยาลัยเทคนิคลำพูน ได้รับเหรียญรางวัลหลายรายการ ผลงานทั้งหมดส่งเข้าระบบบัญชีสิ่งประดิษฐ์ไทย โดยสภาวิจัยแห่งชาติ แบบ Fast Track เพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ต่อไป
ทักษดา- ค่ะ เยาวชนเหล่านี้ต่อไปก็จะสามารถเติบโตขึ้น เป็นพลังที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กับประเทศเราได้ และอีกไม่กี่วันแล้วค่ะท่านนายกฯ จะถึงวันแรงงานแล้วค่ะ พี่น้องแรงงานไทยก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญให้กับประเทศไทยเหมือนกัน ท่านนายกฯ มีอะไรจะฝากถึงพี่น้องแรงงานไทยบ้างคะ
ประยุทธ์- ขอร่วมเป็นกำลังใจในการทำงานของแรงงานทุกคน ที่ช่วยกันสร้างชาติ และขอให้มีการพัฒนาตนอย่างสม่ำเสมอ พัฒนาฝีมือ เพื่อยกระดับให้มีรายได้ที่แตกต่างด้วยฝีมือ มากกว่าใช้แรงงานอย่างเดียว และมุ่งสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วย เพราะว่าวันนี้เราต้องพัฒนาตัวเองด้วยการเรียนรู้ก็พยายามปรับปรุงตัวเองให้มากขึ้น จะได้ติดตามวิวัฒนาการเทคโนโลยีของโลก เพื่อจะได้กำหนดตัวเองว่า เราจะไปอยู่ตรงไหนของโลกในอนาคต
ในการกำหนดมาตรฐานฝีมือแรงงาน เราได้ให้กระทรวงแรงงานได้มีการออกใบรับรองมาตรฐาน 22 สาขาอาชีพ ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรม และภาคบริการ ทั้งนี้ เราต้องเตรียมการในการรับสถานการณ์สังคมสูงวัยในอนาคตด้วยว่า จะมากขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และเราจะมีการขาดแรงงาน อีกอันก็คือเราจะต้องเตรียมการไปสู่สังคมเศรษฐกิจที่เรียกว่า ไทยแลนด์ 4.0 มีการลงทุน มีการใช้หุ่นยนต์ มีการใช้ปัญญาประดิษฐ์เยอะแยะไปหมด ผมพยายามพูดไปหลายครั้งแล้วนะครับ สิ่งที่สิ่งที่อยากจะเรียนก็คือว่า รัฐบาลดำเนินการหลายอย่าง อันแรกก็คือ ได้จัดทำแอปพลิเคชั่นด้านแรงงานให้การบริการ Smart Labour
2. ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย Smart job center หรือ Smart job mobile แอปพลิเคชั่นบนมือถือ 3. คือ การส่งเสริมแรงงานคนพิการให้โอกาสทุกคนที่เท่าเทียมกัน 4. การจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ
ทักษดา- ในช่วงนี้ประเทศเราก้าวเข้าสู่ AEC แล้วท่านนายกฯ คะ ในเรื่องของแรงงานต่างด้าว รัฐบาลไทยมีการดำเนินการอย่างไรในเรื่องนี้บ้างคะ
ประยุทธ์- แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ เป็นหลักก็คือ เมียนมา ลาว และกัมพูชา และก็อีกหลายประเทศที่เขาดำเนินการอยู่ เวียดนามก็มี กำลังดำเนินการเดินหน้าในเรื่องนี้อยู่ ได้มีการขึ้นทะเบียน Onestop Service ของเรา ที่ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวกว่า 1.6 ล้านคน รวมครอบครัว มีประเทศไทยใจดีมีครอบครัวผู้ติดตามประมาณอีก 1 แสนคน
ขั้นตอนต่อไปประเทศต้นทางแรงงานต่างด้าวต้องมีการตรวจสอบ มีการรับรองสัญชาติ ซึ่งที่ผ่านมานั้นก็ไม่ได้รับรองมาตั้งแต่ต้น ต้องจัดชุดมาพิสูจน์สัญชาติในประเทศไทย ซึ่งก็ช้า มันเลยมีการต่อทะเบียนไปเรื่อย ๆ ต่อใบอนุญาตไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นปัญหาหลายเรื่องด้วยกัน พวกที่ยังไม่ได้เป็นการถาวรยังพิสูจน์สัญชาติไม่ได้ เหล่านี้ก็ต้องมีการเคลื่อนย้ายไปที่นู้นที่นี่ มันอาจจะผิดกฎหมายต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย และอาจจะมีการเรียกรับผลประโยชน์ คนไทยต้องเรียนจริง ๆ ว่า คนไทยเราไม่ค่อยนิยมการใช้แรงงาน ก็ไม่เป็นไรหรอก แต่น่าจะไปสู่การเป็นหัวหน้าเขาให้ได้ และเราต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันอยู่แล้วแหละ แรงงานต่างชาติของเราก็ต้องดูแลซึ่งกันและกัน
ด้านเศรษฐกิจ เราต้องแก้ปัญหาว่า วันนี้เราขาดแรงงานจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการผลิตและบริการ ในส่วนของด้านความมั่นคงการค้ามนุษย์ ยาเสพติดก็เกี่ยวข้องมาด้วยเพราะว่าก็ยังมีคนที่แสวงหาผลประโยชน์ตรงนี้ ผมให้นโยบายว่า ก่อนจะเข้ามาประเทศไทยให้ประเทศต้นทางเขาได้มีการรับรองสัญชาติมาก่อนได้ไหม จะได้ไม่ต้องตามมาตรวจทีหลังแบบนี้ ของเก่ายังค้างหลายแสนคนนะ ยังค้างๆ อยู่ แต่มีบัตรชั่วคราวอยู่ใช่ไหม ทีนี้ถ้ามันควบคุมไม่ได้ อันนี้อันตราย ยาเสพติดบ้าง สังคม อาชญากรรม ด้านสวัสดิการสังคมเป็นภาระ เพราะว่าเป็นแรงงานที่ไม่ได้ระบุไว้ มันต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากขึ้น จากที่เคยประมาณการไว้นั้นแหละคือปัญหาของเรา
ทักษดา- เหตุผลหนึ่งของการเข้ามาบริหารประเทศของรัฐบาล และ คสช. ก็คือ การสร้างความมั่นคง และการปฏิรูปประเทศ ท่านนายกฯ มีวาระในการดำเนินงานอย่างไร เพราะว่าในการปฏิรูปบางเรื่องไม่ได้สั้น หรือทำง่าย หรือเสร็จสิ้นภายในปีสองปี ท่านนายกฯ วางแผนเรื่องนี้อย่างไรบ้างคะ
ประยุทธ์- ตั้งแต่เข้ามานี่ ผมได้เรียนไปแล้วว่า ผมก็มีโรดแมปของผม ก็คิดว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร อันที่ 1. คือ ขจัดความขัดแย้ง แก้ปัญหาเดิม ๆ ที่มันซ้ำซ้อนกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาไอเคโอ ปัญหาไอยูยู ประมงอะไรเหล่านี้ ก็คิดก็แก้ไปด้วย ขณะเดียวกันต้องมีการบริหารราชการแผ่นดินในเชิงบูรณาการก็คือว่า เอากลุ่มงานที่มันเกี่ยวข้องหลายกระทรวง หลายหน่วยงานมาทำพร้อมกัน ทำมาตลอดจนถึงวันนี้ เป็นงานที่หนักพอสมควร แต่ไม่เป็นไร คราวนี้เราก็มามองว่า สมมุติว่าเราอยู่ตามโรดแมปถึงสองปีโดยประมาณ จนถึงปี 60 ระยะที่ 1 เราจะสิ้นสุดปฏิรูปปี 60 ตามโรดแมป รัฐบาลใหม่เราปรับพื้นฐานไว้ให้ ก็คือ ยุทธศาสตร์ชาติ 60-79 20 ปี เราพูดถึงอนาคตเยาวชนอายุ 20 วันโน้น ก็มีคนรุ่นใหม่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 12 จะเริ่ม 60-64 จะเริ่มปฏิบัติตั้งแต่ ต.ค. 59
ทักษดา- สำหรับประชาชนเองจะต้องร่วมมือกับรัฐบาลด้วย เตรียมตัว เพื่อที่จะเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะก้าวไปพร้อมกับแผนปฏิรูปของรัฐบาล และเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ประเทศชาติจะเจริญก้าวหน้าได้ จะต้องมีการร่วมมือกันทั้งสามเสาหลัก คือ ความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยา ตอนนี้ด้านความมั่นคง ท่านนายกฯ อยากจะเล่าไหมคะว่า มีเรื่องอะไรที่รัฐบาลได้ทำสำเร็จไปแล้วบ้าง เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมที่จะก้าวพร้อมไปกับรัฐบาล
ประยุทธ์- นอกจาก 3 ด้านแล้ว ผมอยากให้เพิ่มด้านการต่างประเทศไปด้วย เพราะจะมีส่วนในการสร้างความเข้าใจในการที่จะให้ความร่วมมือกับต่างประเทศ เป็นด้านสาขาของเศรษฐกิจไง ความมั่นคงต้องร่วมมือในทุกมิติอยู่แล้ว ผมจึงให้ความสำคัญในด้านต่างประเทศด้วย จริง ๆ แล้วสำคัญทุกอัน เยอะกว่านี้อีก ทำทุกเรื่องนะครับ เรื่องการลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวพูดไปแล้ว ศูนย์ดำรงธรรมที่ตั้งมาแล้วเนี่ยเราให้บริการมากกว่า 2.6 ล้านเรื่อง ร้อยละ 97 เคยเรียนไปแล้ว
การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเชิงรุก ด้วยแผนปฏิบัติการแม่โขงปลอดภัยระยะเวลา 3 ปี 2559 - 2561 ร่วมกับชาติพันธมิตร 5 ประเทศ เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม จีน ทำลายตั้งแต่แหล่งผลิต ตัดวงจรสารตั้งต้น ตัดเส้นทางลำเลียง ในส่วนของประชาชนต้องฟื้นฟู ป้องกัน ป้องปราม ให้เขารักตัวเอง อย่าไปเสพเลย ยาเสพติดไม่เกิดประโยชน์ สุขภาพก็แย่ เงินทองก็หมดไปไม่เป็นประโยชน์
เรื่องของการปฏิรูปกองทัพ ตำรวจ ทหาร หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งจริง ๆ เขามีแผนอยู่แล้ว 10 ปี 15 ปี 20 ปี ของเขาอยู่แล้ว ซึ่งมันอยู่ในแผนของความมั่นคงของเขา ก็ในวันหลังจะเรียนให้ทราบต่อไป ในเรื่องของการปรับกำลัง ในการปรับหน่วยงานให้เกิดการบูรณาการมากขึ้น กองทัพเกิดความเข้มแข็งมากขึ้น มีขนาดเล็กลง แต่ต้องมีการพัฒนาการในเรื่องของเทคโนโลยี การใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย มันถึงจะลดคนได้ยังไง แล้วอย่างที่เรียนไปแล้วว่า บางครั้งเรามองอย่างต่างประเทศยังไม่ค่อยได้มากนัก เพราะว่าเรามีปัญหาเรื่องความขัดแย้งด้วย อะไรด้วยใช่ไหม แล้วเครื่องไม้เครื่องมือก็มีราคาแพง ซึ่งวันนี้ยังซื้อไม่ได้หลายอย่าง เมื่อซื้อไม่ได้ก็ต้องใช้คน ใช้ตา ใช้มือ ใช้แรงกายแรงใจ ของทุกคนช่วยกันทุ่มเทให้ประเทศเพราะฉะนั้นเรื่องการปฏิรูปกองทัพ และตำรวจอย่ากังวล ผมเข้าใจดี
เพราะฉะนั้นเราต้องไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน เพราะถ้าไม่มีทหารไม่มีตำรวจเลย มันคงอยู่ไม่ได้ ทุกประเทศในโลกอยู่ไม่ได้หมด เขามีทหารกันหมด ต้องเข้มแข็ง ไม่ได้มีไว้เพื่อรบมีไว้ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ แล้วดูแลเรื่องเศรษฐกิจ มันจะได้พูดจามีน้ำหนักมากขึ้นเท่านั้นเอง
เรื่องสำคัญอีกเรื่องคือการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เราได้มีการตั้งคณะกรรมการพูดคุยสันติภาพ มีการพูดคุยมาหลายครั้งแล้ว มีความก้าวหน้ามาตามลำดับ คราวนี้ไม่อยากจะใช้สิ่งเหล่านี้มาเป็นตัวกำหนดว่าจะเสร็จเมื่อไรอะไรยังไง ขอให้ทุกคนเข้าใจ ไม่ว่าจะสื่อหรือประชาชน เราทำไมจะไม่อยากให้มันจบล่ะ ใช่ไหม เพราะเราเสียดายชีวิตพ่อแม่พี่น้องชาวใต้ด้วย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 4 อำเภอ ทุกคนไทย-พุทธ ไทย-มุสลิม และเจ้าหน้าที่ ทุกคนมีครอบครัวมีลูกหลาน ทุกคนไม่อยากให้ใครบาดเจ็บสูญเสียทั้งสิ้น มันเสียเวลา เสียโอกาส เสียงบประมาณมากมาย ทหารก็ได้กลับบ้าน ก็เหลือแต่เฉพาะทหารในพื้นที่ได้ไหม ถ้ามันสงบลงแล้ว มันเหมือนกับจังหวัดอื่น ๆ ไง วันนี้ไม่ต้องเอากำลังไปเติม เพราะว่ามันดูแลไม่ทั่วถึง มันหลายที่ด้วยกัน ขอร้องแล้วกันฝากไปพวกที่ก่อเหตุต่าง ๆ ขอให้เลิกเถอะครับ เลิกเถอะ เรากลับมาเป็นคนไทย ร่วมพัฒนาชาติไทยด้วยกันดีกว่า เราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ และโอกาสของภาคใต้เยอะแยะ
ทักษดา- เรามองเห็นภาพของความมั่นคงแล้ว เป็นภาพกว้าง เมื่อขยับเข้ามาหน่อยจะเป็นมิติทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ความคืบหน้าทางด้านเศรษฐกิจที่ทางรัฐบาลได้ทำในช่วงนี้ มีอะไรที่จะบอกเล่าให้ฟังสู่พี่น้องประชาชนบ้างค่ะ
ประยุทธ์- จริง ๆ ด้านเศรษฐกิจเราต้องสร้างความเข้มแข็ง มีอยู่ 2 ประการ เป็นคำที่อาจจะต้องให้ความเข้าใจและก็คุ้นเคย อันแรกก็คือความเข้มแข็งของประเทศ อันที่สองคือการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เหล่านี้มันเป็นเครื่องจักรของประเทศเราที่จะทำให้เรากินดีอยู่ดี มีการลงทุน มีการประกอบการ ทุกคนมีอาชีพ มีรายได้ที่เพียงพอเหมาะสม
เพราะฉะนั้นในเรื่องแรกของการจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ต้องรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศให้ได้ สร้างความมีเสถียรภาพ เพื่อจะเรียกกลับความเชื่อมั่นฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากสถานการณ์ความไม่สงบทั้งหมดในประเทศภายในช่วงที่ผ่านมาหลายปีมาแล้ว แล้วก่อนปี 57 วันนี้หลายอย่างดีขึ้น ต้องขอขอบคุณทุกคน ประชาชนทุกคน ทุกพวกทุกฝ่ายนะครับ หลักการสำคัญคือ เราใช้หลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มานำในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจ ก็คือ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อันที่ 2 คือกลไกประชารัฐ เราจะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเป็นเครื่องมือเพิ่มเติมมาอีก ได้แก่ คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชที่เราตั้งมาแล้ว ที่เรียกว่า กรอ.แก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ มีส่วนกลาง จากส่วนกลางมีทั้งในกลุ่มจังหวัดด้วย เพราะว่ามีผู้ประกอบการทั้งภาคธุรกิจเอกชนอยู่ด้วย ร่วมกับคณะกรรมการของเรา ของรัฐบาล
อันนี้ก็เราก็ได้ตั้งไปแล้ว กรอ. อันที่ 2 ก็คือ เรื่องของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ อันนี้จะกำกับดูแลส่วนงานของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด อันที่สาม คณะทำงานประชารัฐ 12 คณะ มันจะได้เกาะเกี่ยวกันได้ทันที ที่เขาเรียกว่าบูรณาการ แล้วก็การบริการให้สะดวกรวดเร็วขึ้น เพื่อจะง่ายในการประกอบการธุรกิจก็ต้อง เราจัดตั้งศูนย์ One Stop Service เพื่อให้การบริการด้านธุรกิจด้วย มันมีตั้งหลายขั้นตอน ถ้าใครจะมาลงทุนบ้านเรา ไม่ใช่ชวนเขาเข้ามา มาเสร็จเขาก็ลงทุนไม่ใช่ เขาต้องดูก่อนว่ามั่นคงไหม เสถียรภาพไหม ระยะสั้นหรือระยะยาว เพราะเขาลงทุนไม่ได้ลงทุนแค่ปีเดียวสองปี มันต้องลงทุนครั้งแรก และมีการลงทุนช่วงต่อไป โน้นถึงลูกถึงหลานขยายกิจการ เปลี่ยนขนาดเครื่องจักรโรงงานเป็นอนาคต เขามอง 50 ปีข้างหน้า เราถึงต้องวางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีข้างหน้าไว้ยังไง ให้มันมั่นคง ปลอดภัย และก็สร้างการลงทุนต่าง ๆ ให้มากขึ้น หลายอย่างที่ยังค้างการดำเนินการอยู่ หลายอันเข้าไปสู่กระบวนการพิจารณาของ ครม.ไปแล้ว หลายอันรอ EA HA อยู่บ้าง แต่คราวนี้มันยังขับเคลื่อนไม่ได้เร็ว เพราะว่าอะไร เราไม่ได้ลดขั้นตอนอะไรเลยไง เพียงแต่มาทำให้มันสั้นลงเท่านั้นเอง ทำได้แค่นั้นล่ะ และในขณะเดียวกันมีการต่อต้านอยู่บ้างในส่วนของประชาชนที่ยังไม่เข้าใจ และในส่วนของ NGO ต่าง ๆ ซึ่งไม่เข้าใจเหมือนกัน ถ้าทุกคนต้องการอะไรทั้งหมด แล้วทุกคนไม่ให้ทำอะไร แล้วมันจะได้ไหมสิ่งต้องการใช่ไหม ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนนะครับ การปลดล็อก EA HA ไม่ใช้งดนะ นี้ไม่ต้องทำ ทำไปคู่ขนานให้มันเร็วขึ้น คู่ขนานคือการจัดหาผู้ประกอบการ เมื่อถ้ามันพร้อมมันก็ทำได้เลย เพราะว่าจะได้ลดเวลาลงไปบ้าง ไม่งั้นก็รอขั้นตอนนี้ขั้นตอนโน้นกลับไปกลับมาอยู่อย่างนี้ไม่เสร็จสักที
เรื่องที่ค้างอยู่ มีอยู่หลายเรื่อง โครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟทางคู่กำลังก่อสร้าง 2 สายใช่ไหม แก่งคอย - ฉะเชิงเทรา และ ถนนจิระ - ขอนแก่น ในอนาคตอีก 5 สายคือ มาบกะเบา - ถนนจิระ, นครปฐม - หัวหิน, หัวหิน - ประจวบฯ, ประจวบฯ - ชุมพร และ ลพบุรี - ปากน้ำโพ มูลค่า 1.3 แสนล้านบาท ก็เยอะนะ มันจะสร้างงานสร้างอาชีพได้พอสมควรถ้ามันเกิดได้นะ
อันที่ 2 คือ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ประกอบด้วย โครงการเร่งด่วน (วงเงิน 3,700 ล้านบาท) นะครับ แล้วก็ทำแผนแม่บท ในเรื่องการปรับโครงสร้าง ICT เหล่านี้ วงเงินประมาณ 15,000 ล้านบาท อันนี้ต้องทำให้มันทั่วประเทศไง
ทักษดา- ที่จะเป็นโครงข่ายยกระดับพื้นฐานอินเทอร์เน็ตทั้งทั่วประเทศใช่ไหมค่ะ
ประยุทธ์- มันต้องถึงทุกจุดที่มีความจำเป็นไม่ใช้ถึงทุกตารางนิ้วมันเป็นไปไม่ได้ ถึงทุกจุดที่มีความจำเป็นต้องใช้ แค่นี้ใช้เงินพอสมควร เงินที่ได้มาจากการประมูลบ้างอะไรบ้าง จากงบประมาณบ้าง ปัจจุบันต้องเร่งออกกฎหมายให้ได้โดยเร็วอีก 8 ฉบับทั้งหมด มันจะได้ทำงานได้ ไม่งั้นมันก็ติดกฎหมายนี้กฎหมายนั้น การออกกฎหมายไม่ใช่ว่าออกง่าย ๆ มันต้องไปพิจารณา 3 ขั้นตอน 3 วาระ อยู่ใน สนช. ด้วย เรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ภายใต้ยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุน 7 ปี (2558 - 2564) ระยะที่ 1 ครอบคลุม 5 จังหวัด ตาก สระแก้ว ตราด มุกดาหาร และสงขลา ใน 13 กลุ่มอุตสาหกรรม
ระยะที่ 2 อีก 5 จังหวัด คือ เชียงราย หนองคาย นครพนม กาญจนบุรี และ นราธิวาส
เรื่องที่ 3 คือ ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านการลงทุน OSS จะมีทุกเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่กล่าวไปเมื่อสักครู่ เพื่อจะได้สะดวกไง มาติดต่อที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางแล้ว หน่วยงานใหญ่แล้ว ไปในพื้นที่ก็ไปพอเขาที่โน้นจะมีเจ้าหน้าที่ให้รายละเอียด ให้คำชี้แจง พาไปดูสถานที่ด้วยก็มีหลายประเทศ หลายผู้ประกอบการเขาสนใจทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ไปดูแล้ว
อีกอันที่เราจะต้องเร่ง ก็คือ โครงการกระตุ้นและสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก คำว่าฐานรากก็คือ ประชาชนนั้นแหละ ที่อยู่ข้างล่างนั้นแหละ ซึ่งจริง ๆ ผมเรียกว่า ถ้ารากก็เป็นรากแก้วที่มั่นคงแข็งแรงต่อไปในอนาคต เรามีโคงการเหล่านี้กว่า 4 หมื่นล้าน ตอนนี้เบิกจ่ายไปแล้วมากกว่าร้อยละ 90 ได้แก่ โครงการ ตำบลละ 5 ล้านบาท ความเข้มแข็งของตำบลตามความต้องการของประชาชน โครงการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและคนยากจน มีการสร้างงานสร้างอาชีพด้วย ให้เขามีเงินใช้ด้วยจ้างงานนะ
โครงการสนับสนุนการจัดหาเครื่องจักรกลทางการเกษตรให้แก่กลุ่มสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร เพราะว่าวันนี้ใช้แรงอย่างเดียวไม่ได้ มันหมดสมัยแล้วต้องใช้เครื่องจักรเครื่องไม้เครื่องมือ คราวนี้ถ้าใช้เอกชนอย่างเดียว บางทีราคามันสูงไงเราเอาไปเทียบเคียงให้เขาว่า มันควรจะเท่าไร ถ้าเราลดต้นทุนการผลิตไม่ได้ ด้วยการลดราคาการจ้างเครื่องจักรไม่ได้ มันก็ประชาชน เกษตรกรก็เป็น มีหนี้สินตลอดไปนั่นแหละ เพราะฉะนั้นต้องดูจังหวัดต้นทาง
ทักษดา- ขออนุญาตสอบถามค่ะ ในช่วงที่ผ่านมา ท่านนายกฯ ได้พูดถึง Thailand 4.0 SME Matching แล้วก็ New Startup สิ่งเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไหมท่านนายกค่ะ
ประยุทธ์- ต้องมีซิ เพราะว่าที่พูดออกไปเพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่า โลกใบนี้มันมีการเปลี่ยนแปลงมาตามลำดับ เคยพูดไปว่า ระยะที่ 1 ก็ Thailand 1.0 ใช้แรงงานอย่างเดียว 2.0 ก็ใช้เครื่องจักรขนาดเบา ขนาดเล็กบ้างมาผสมผสานในการผลิต
ต่อไปยุด 3.0 เราต้องติดอยู่ที่ 3.0 นี้ก็คือที่ผ่านมาประมาณ 20-30 ปีมาแล้ว มีทั้งเครื่องจักรเบาเครื่องจักรหนักผสมแรงงานไปด้วย แต่จากนี้ไปมันจะไม่ทันเขา ถ้าเราไม่มีการพัฒนาตัวเองนะ 4.0 นั้นมันต้องเอา 3.0 มาดูว่า ที่ผ่านมามีปัญหาอะไรบ้าง ก็คือ ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียม มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่สมดุล หรือการสนใจในเรื่องของสังคมจิตวิทยาน้อยเกินไป เหล่านี้มันทำให้ประเทศเดินหน้าได้ไม่ค่อยเร็วนัก เลยทำให้ติดกับดักตัวเอง รายได้ปานกลาง เพราะฉะนั้นก็ต้องเดิน 3 อย่างด้วยกัน คือ Thailand 4.0
Startup ก็คือโลกให้ความสนใจเรื่อง SMEs คือธุรกิจขนาดเล็ก เพื่อสนับสนุนขนาดเล็กให้เป็นกลาง ขนาดกลางให้เป็นใหญ่ เพราะฉะนั้นในการประชุม UN หรือในการประชุมอาเซียน เขากล่าวถึงคำว่า SMEs ทุกประเทศ ประเทศไทยมีธุรกิจที่เราส่งออกที่เป็น SMEs กว่า 2 ล้านราย เรียกว่า 90% ขณะนี้เร่งรัดเรื่องการจดทะเบียน การให้ทุน การให้ความรู้ การจัดทำบัญชีเดียวอะไรเหล่านี้ ระบบการเสียภาษีทั้งหมด ก็ต้องเร่งทั้งหมดเลย เพราะว่าที่ผ่านมาไม่ค่อยได้ใส่ใจกับตรงนี้ วันนี้พยายามเร่งอยู่
อีกอันหนึ่งก็คือในเรื่องของ Startup กับ SMEs อันเดียวกัน เพียงแต่อันนี้เป็นคนรุ่นใหม่ จากที่เราพูดไปเรื่องของ 4.0 บ้าง พูดไปในเรื่องของการขับเคลื่อนประเทศไปอย่างไร และในอนาคต 4.0 คือการใช้ปัญญาประดิษฐ์ ใช้เครื่องจักรกลที่เป็นหุ่นยนต์บ้างอะไรบ้าง คือต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้ออกมาเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ เพราะว่าอันนี้ก็คือเรียกว่า New Startup เพื่อจะสนับสนุน S Curved New S Curved 5 อุตสาหกรรมหลักของประเทศในอนาคตเดิมมีอยู่ 5 บวกใหม่อีก 5 เพื่อจะรองรับโลกในวันข้างหน้าด้วยนะ วันนี้ทำทุกอย่าง
อันหนึ่งที่สำคัญก็คือว่าการเกษตร สินค้าการเกษตรมันตกต่ำประชาชนก็มีรายได้น้อย เกษตรกรก็จะผละอาชีพไปทั้งหมด น้ำก็แล้ง ทำนองนี้ เราก็มีการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ 882 แห่งของกระทรวงเกษตรในทุกพื้นที่ ศูนย์บริการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล ทั้งหมดจำนวน 7,110 ศูนย์ ด้วย ศบกต. แล้วก็มีวิสาหกิจชุมชน Social Enterprise Holding Company ซึ่งกำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ให้เห็นในหลายจังหวัดด้วยกัน เดี๋ยวผมจะไปพูดตอนนั้นอีกทีแล้วกัน เป็นการร่วมมือกันของภาคเอกชนที่จัดตั้งบริษัทขึ้นมาแล้วให้ประชาชนได้มีการบริหารกันเอง แล้วผลประโยชน์ก็ไม่ได้เอามาแบ่งปันให้เป็นเบี้ยเลี้ยง ค่าแรงของเจ้าหน้าที่ ผลกำไรก็เก็บมา เพื่อจะเอาไปขยายต่อของเขาเอง เป็นทางเลือกของเขา จะได้แข่งขันกับพ่อค้าคนกลางได้บ้าง แล้วก็สนับสนุนความร่วมมือจากธุรกิจขนาดใหญ่ของเขา มาช่วยกันรับซื้อแบ่งเบาภาระไปบ้าง วันนี้เกิดขึ้นหลายพื้นที่แล้วนะ อีกอันที่สำคัญก็คือปัญหาเรื่องน้ำ ใช่ไหม ถ้าเราไม่มีการโซนนิ่งพื้นที่เกษตรกรรม จะเป็นปัญหา การโซนนิ่งพื้นที่การใช้น้ำเหล่านี้จะได้ไม่มีปัญหาไปทั้งหมด แล้วก็การปลูกพืชที่มันเกินความต้องการ
เพราะฉะนั้นวันนี้ก็ให้ทางกระทรวงเกษตรจัดทำ Agri-Map คงจะได้ยินแล้ว ไปดูซิครับว่า ผมให้ทำทั้งประเทศเลยนะ แล้วกระทรวงเกษตรก็ทำออกมาเป็นผลสำเร็จ ผมชื่นชมเขานะ ผมบอกอยากให้มันชัดเจนขึ้น เขาก็ทำมาแล้ว Agri-Map ก็คือทุกคนจะรู้ว่าในพื้นที่ของตัวเอง จังหวัดของตัวเอง บ้านตัวเอง มันมีน้ำเท่าไหร่ ตรงไหน ดินเป็นยังไง อากาศเป็นอย่างไรเหมาะสมปลูกพืชชนิดไหน ก็เป็นการแนะนำเขาและต่อไปก็จะให้ความรู้เพิ่มเติมอีกเป็นแบบ Intelligent Map ให้เขาเรียนรู้ว่าถ้าเขามีที่ 5 ไร่ 10 ไร่ 20 ไร่ 30ไร่ ถ้ามันพื้นที่ตรงกับใน Agri Map เขาควรจะบริหารอย่างไร ปลูกอะไร ทำอะไรที่มันจะเกิดรายได้ วันนี้นอกจากที่ทำใส่เข้าไปในระบบไอทีแล้ว ตามช่องทาง G News มีอีกเยอะแยะเลยที่ให้ไปเป็นเล่มไปอ่านกันเอง แล้วให้ไปติดต่อกันเอง ที่ไหนสำเร็จไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
วันนี้โซนนิ่งพื้นที่เกษตรกรรมไปแล้ว 150 ล้านไร่ คือทำเป็นเกษตรแปลงใหญ่ 263 แปลง แปลงขนาดใหญ่ 500 ไร่บ้าง 1,000 ไร่บ้าง เพื่อจะจัดสรรพื้นที่จัดสรรน้ำให้มันเหมาะสม แล้วมีการตลาดที่เพียงพอ และให้ความสำคัญกับอุตสากรรมใหม่ไปด้วยอันนี้ก็จะเป็นว่ามีสถิติการลงทุนใหม่ในประเทศไทยมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา และในช่วงต้นปีที่ผ่านมาสูงขึ้น แต่ขณะนี้เขารอดูนิดนึงว่า สถานการณ์เราเป็นอย่างไร บ้านเมืองสงบเรียบร้อยไหม ผมอยากจะฝากทุกคน เราอย่าไปขัดแย้งกันอีกเลย สิ่งเหล่านี้กำลังจะเกิดกับเราสิ่งดีๆ และพี่น้องเราจะได้หายจากความลำบากยากแค้นสักที ผมสงสารเขา อันนี้เป็นสิ่งสำคัญ
ทักษดา - ท่านนายกฯ คะ ดูเหมือนว่าช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ภัยแล้งจะเป็นอุปสรรคสำคัญในการก้าวหน้าทางด้านเกษตรกรรม ของประเทศ แต่ท่านนายกฯ ได้จัดตั้งคณะกรรมการบริการจัดการน้ำ ไว้เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง อยากให้ท่านนายกฯ ได้เล่าให้ฟังถึงว่าการทำงานของคณะบริหารจัดการน้ำมีความคืบหน้าไปแค่ไหนแล้ว บ้าง อย่างไรค่ะ
ประยุทธ์- เราได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ตั้งแต่ตอน คสช.เข้ามานะ ตอนนี้มีการปรับเข้ามาสู่ระบบบริหารราชการแล้ว ต้องเข้าสู่กระทรวง หน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้มีการประชุมมาหลายครั้งเป็นการภายใน เพื่อจะปรับแก้แผนทั้งหมด เป็นแผน 15 ปีมั้ง
ทักษดา- ค่ะ เป็นแผนระยะยาว
ประยุทธ์- ระยะยาว คราวนี้เราจะทยอยทำไปตามลำดับ ตามแผนที่วางไว้ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ยาก เพราะว่าเราประเมินสถานการณ์ล่วงหน้ามากนักไม่ได้ ไม่รู้ฝนจะตกแบบปีที่แล้วหรือเปล่าทำนองนี้ ปีหน้าโลกเปลี่ยนแปลงง่ายไง ตอนนี้ทั้งโลกมีปัญหาหมด เดี๋ยวมีพายุลูกเห็บขนาดใหญ่บ้าง มีหิมะตกไม่ตก ต่างประเทศเขาก็เป็น ประเทศไทยมีอย่างเดียงฝนไม่ตก ตกน้อยเกินไป เราไม่ใช่ว่า ตกน้อยในรอบ 40 ปี มันเลยทำให้น้ำต้นทุนเราที่มีอยู่อย่างจำกัดในเขื่อนลดลง
อันที่ 2 คือการทำการเกษตรนอกเขตชลประทานต้องดูแลอีก วันนี้เร่งรัดให้เขาทำความชัดเจนให้เกิดขึ้นว่าเราทำอะไรไปแล้วบ้าง อยากจะเรียนว่าข้อมูลความคืบหน้าทั้งหมด 12 กิจกรรม มีระยะเวลาในการทำโครงการต่างกัน เน้นทั่วถึง กระจายทั่วประเทศ ยกตัวอย่างก็เช่น น้ำบาดาลช่วยภัยแล้งระยะเร่งด่วน ผมก็ปรับงบประมาณมาตลอด บางทีมันไม่พอเอายังไง ก็ต้องปรับเอาที่ต้องทำคราวหน้ามาใส่ครั้งนี้ก่อน ประชาชนเดือดร้อน ทั้งหมดมีเป้าหมายทั้งหมด 3,086 แห่ง นะ เราทำเสร็จแล้วประมาณสักครึ่งหนึ่ง ร้อยละ 51 ก็เร่งอยู่นะ
อันที่ 2 คือน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร อันนี้ 12 ปี นี่เราทำเป้าหมายไว้ทั้งหมด 18,559 แห่ง ไม่เคยทำมากเท่านี้มาก่อน ทำแล้ว ร้อยละ 12 ขุดสระน้ำในไร่นา 13 ปี ระยะยาวนะครับ เป้าหมาย 331,750 สระ ทำแล้วร้อยละ 34 นี่ไง เยอะไหมล่ะโครงการน่ะ ต่อไปเรื่องประปาหมู่บ้าน 4 ปี เป้าหมายทั้งหมด 7,490 หมู่บ้าน ที่ยังไม่มีแหล่งน้ำประปา คือทำประชาหมู่บ้านไม่ได้ ทำแล้วประมาณร้อยละ 75 ขณะนี้นะ สำหรับประปาโรงเรียนต้องดูอีกนะ ระยะยาว 7 ปี เป้าหมายทั้งหมด 6,132 แห่ง ทำไปแล้ว ร้อยละ 18
ต่อไปเรื่องการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 ปี เป้าหมาย 2,922 แห่ง ทำแล้ว ร้อยละ 56 แล้วก็การช่วยเพิ่มปริมาณน้ำเพื่อการเกษตร เข้าสู่ระบบ เติมน้ำอะไรทำนองนี้นะ 1,178 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 14 ทำไปแล้ว สำหรับเป้าหมาย 12 ปี ต้องทำให้ได้น้ำเพิ่มขึ้น 8,250 ล้านลูกบาศก์เมตร
หลักการก็คือว่า ทำยังไงประชาชนหรือเกษตรกรจะเข้าถึงแหล่งน้ำ ไม่ว่าจะอุปโภค บริโภค หรือน้ำเพื่อการเกษตร อุตสาหกรรม น้ำเพื่อระบบนิเวศด้วย 3-4 อัน เน้นการเรื่องการเข้าถึง การเตรียมแหล่งน้ำ เพื่อจะรองรับฝนหน้านี้ ผมก็ปรับระยะยาวกลับมาใส่ตรงนี้ เพราะเราคาดหวังว่าปรากฏการณ์เอลนินโญ จะเกิดไง ในเดือนพฤษภาฯ มิถุนาฯ นะ พายุฤดูร้อนกำลังเข้ามาตอนนี้ น่าจะมีฝนตก ก็คาดหวังไว้ แต่เราก็เตรียมแหล่งน้ำไว้รองรับฝนหน้าไว้พอสมควรนะ เรื่องต่อไปก็คือเราจะต้องยกระดับคุณภาพชีวิต ของประชาชนให้ดีขึ้น เพราะเวลาแล้งแล้วไม่มีความสุข
ทักษดา- ดูหดหู่ไปหมดเลยนะคะ
ประยุทธ์ - เราขึ้นเครื่องบินไป เรานั่งรถไป อะไรต่ออะไร เห็นแล้งๆ แล้วเราก็สงสารเขา ไม่รู้จะหาเงินได้จากตรงไหน ลูกหลานก็ต้องไปทำงานนอกพื้นที่ ความอบอุ่นในครอบครัวก็หายไป ทำไงเขาจะมีความเข้มแข็งในพื้นที่ของเขา ในภูมิภาคของเขา ในจังหวัดของเขา ผมก็ได้อธิบายทางด้านอื่นไปแล้ว ให้มันสอดคล้องกัน
ในส่วนของการบริหารจัดการน้ำเพื่อ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ปี 60 นี่ เราใช้ไปทั้งหมด 99,356 ล้านบาท นะ สำหรับกรณีที่มีเรื่องทุจริตอะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเมื่อไรก็ตามนะโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรัฐบาลนี้เข้ามา คสช. เข้ามาจะไม่ปล่อยปละละเลยนะ เพราะบางครั้งนี่การตรวจสอบโครงการเหล่านี้ บางทีตรวจสอบไม่ได้ทั้งหมดในเวลาเดียวกัน ต้องทยอยตรวจสอบไป ใช่ไหม แต่เราจะไม่ปล่อยปละละเลย ที่ใครแจ้งมา อะไรมา ก็รีบเร่งตรวจสอบก่อน ตอนนี้ก็มีข่าวอยู่นี่ ก็เราจะไม่ปล่อยปละละเลยนะ เมื่อชี้มาก็ต้องตรวจสอบ ลงโทษ เราจะไม่ปล่อยให้ทุกคนไม่มีความผิด ลอยนวล เกิดขึ้นไม่ได้ เราจะเร่งนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมนะ ให้ความเป็นธรรม เป็นเงินภาษีประชาชน เพราะฉะนั้นอย่ามาพูดว่ารัฐบาลนี้ก็มีเหมือนกัน ทุจริตเหมือนกัน ไม่ใช่อยู่ที่ทุจริตแล้ว จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ก็ไม่ใช่หยุดทั้งหมด ไม่ใช่หยุด ไม่ทำเลย ไม่ได้ก็ต้องต่อไป คนทำผิดก็เอาออกไป ลงโทษ ติดคุกอะไรไป ปลดอะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ ลงโทษทางวินัยบ้าง อะไรบ้าง แต่การทำงานต้องทำต่อเนื่องใช่ไหม
ทักษดา- ท่านนายกฯ พูดถึงมาแล้ว 2 ด้านนะคะ ด้านความมั่นคง แล้วก็ด้านเศรษฐกิจนะคะ ต่อไปเป็นมิติทางด้านสังคมจิตวิทยาบ้างค่ะ ว่า คสช. ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาสังคมอย่างไรบ้างคะ
ประยุทธ์- ย้อนกลับไปดูก่อน 22 กับ หลัง 22 พฤษภาฯ ไปดูเรื่อง คิวมอเตอร์ไซต์ รถตู้ ทางเท้า ชายหาด รถแท็กซี่ รถเมล์ รถต่างๆ เยอะไปหมดนะ ก็ทำไปก็สำเร็จ พอว่างเว้น พอไปทำตรงอื่นก็เริ่มกลับมาอีกแล้ว คือนี่เป็นสิ่งที่ผมอยากขอร้องทุกคนนะ ก็รู้ว่าจนนะ แต่ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย ไม่งั้นก็ไม่เท่าเทียม คนทำผิดกฎหมายก็ขายไม่ได้ยังไง เพราะว่าเคารพกฎหมาย คนไม่เคารพกฎหมายก็ขายได้ แล้วบอกว่าจน แล้วจะเท่าเทียมไหมในกิจการแบบเดียวกันนะ เพราะคนไทยทั้งคู่ ผมต้องการให้คนในกลุ่มเดียวกันนี่ เคารพกฎหมาย ไม่เคารพกฎหมาย ร่วมมือกัน เผื่อแผ่แบ่งปันกันบ้าง เดี๋ยวรัฐบาลก็จะไปหาที่ขายให้ ก็หลายๆ ที่นะย้ายไปก็ดีขึ้นนะ คลองถม เห็นเขาบอกว่าขายดีขึ้น ใหม่ๆ ก็ธรรมดา เคยชินมาเป็น 10-20 ปี ก็ขอร้องอย่ากลับมาที่เดิมแล้วกัน
อันที่สองเรื่องผืนป่านะ ที่ถูกบุกรุก จริงๆ แล้วผมไม่อยากใช้คำว่าทวงคืนนะ แต่มันเป็นเรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมายนะ เราจะต้องรักษาผืนป่าให้สมบูรณ์ไว้ได้ประมาณร้อยละ 40 ของประเทศ ก็คือประมาณ 128 ล้านไร่ ใน 10 ปีนะ เราจะต้องเอากลับมา 128 ล้านไร่ ใน 10ปี ไม่ใช่ปีนี้จะเอากลับมาได้128 ล้านไร่ เป็นไปไม่ได้ 10 ปี เพราะว่าเอาคืนมาก็ต้องหาที่ให้คนเหล่านี้ทำกิน เพราะว่าประชาชนเข้าไปบุกรุกอยู่ในนั้น ต้องสร้างความเข้าใจ หาที่ดินให้เขา เพราะงั้นป่าไม้ที่มีการบุกรุก เอากลับมาก็ต้องมาดูซิว่าเออ เป็นป่าต้นน้ำ ป่าอุทยานหรือเปล่า หรือป่าที่เสื่อมสภาพแล้ว ถ้าเสื่อมสภาพแล้วก็จัดให้เขาทำกิน เหมือนที่เราไปมอบมาหลายๆ ครั้งมาแล้ว คือเขาจะได้สบายใจ เขาบุกรุกอยู่แล้ว บุกรุกมาหลายปีแล้ว แล้วป่าก็หมดสภาพป่า แต่ผมไม่ให้บุกรุกใหม่นะ ของเก่าก็บริหารจัดการให้ได้ ใครยังไม่มีก็มาเติม หาที่อยู่ที่ไม่บุกรุกป่า เพราะเข้าไปในป่าต้นน้ำ ป่าอุทยานไม่ได้ แล้วก็สร้างป่าชุมชน กับป่าเศรษฐกิจให้เขาด้วย จะได้ใช้ได้ จะได้หาอาหารได้ในพื้นที่ป่าชุมชน เป็นธนาคารอาหาร Food Bank ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
การดำเนินการเรื่องนี้ได้มีการดำเนินคดีไปแล้วประมาณสัก 1 แสนไร่ คิดเป็นร้อยละ 45 และอยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิ 4.6 ล้านไร่ ก็สรุปว่าแล้วเสร็จไปประมาณร้อยละ 20 สำหรับป่าที่เหลือก็ให้เจ้าหน้าที่ร่วมกับชุมชนดูแลร่วมกัน รวมอีก 101 ล้านไร่ อันนี้เรื่องนี้เสร็จทั้งหมดนะ
ในเรื่องของการทวงคืนพื้นที่ป่าไม้ที่บุกรุกปลูกยางพารา มีการบุกรุกมากจนปลูกจนเกิน เกินปริมาณความต้องการในประเทศ และต่างประเทศต้องมาแก้ด้วยการนำสู่การผลิตในประเทศยังไง ใช้ในประเทศให้มากขึ้น วันนี้ที่จะต้องทวงคืนมาก็ 5.5 ล้านไร่ แล้วเสร็จไปแค่ 1.2 แสนไร่
ประการแรกผมอยากให้ทุกคนรู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด จากนั้นการถูกหรือผิดก็จะต้องไปหาวิธีการบริหารจัดการที่ดีทั้งรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ ว่าจะทำยังไงแก้ไขปัญหาให้เขาได้ไหม ถ้าเขาไม่ยากจน ถ้าเขาไม่มีที่ทำกิน ที่เพียงพอ เขาก็จะต้องเป็นอยู่อย่างนี้ เราถึงต้องไปมองมิติอื่นด้วยยังไง อาชีพอื่นๆ ที่มาเสริม ที่พูดไปเมื่อกี้ เรื่องอุตสาหกรรม ที่จะต้องควบคู่กันไปในท้องถิ่นด้วย อย่าคัดค้านกันมากนักเลย
วันนี้จัดสรรที่ดินที่ผมพูดไปแล้วคือ มี คณะกรรมการ คทช. เป้าหมายปี 2559 เราก็จะทำทั้งหมด 80 พื้นที่ 47 จังหวัด 325,205 ไร่ ล่าสุดวันก่อนผมไป จ.เชียงใหม่นะ ก็ได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์-อยู่อาศัย ลักษณะ แปลงรวม ขายไม่ได้ไม่ให้กรรมสิทธิ์ เพราะอยู่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่เป็นป่าที่เสื่อมโทรมแล้วนะ เช่น ป่าแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ 3,878 ไร่ ป่าลุ่มน้ำแม่ฝาง 2,308 ไร่
ต่อไปก็คงเป็นเรื่องของการปราบปรามการทุจริต ใช่ไหม เชื่อมโยงกันหมด ประเทศไทยปัญหาเยอะไง เพราะการปล่อยปละละเลย ในปี 2556-2558 แล้วก็ต่อๆ ไปนี่ผมก็ไม่ละเว้นนะ นำเข้าสู่ขบวนการยุติธรรม จะผิดจะถูกก็ไปสู้คดีกันเอาเอง คดีทุจริตมีมูลค่าความเสียหายรวม มากกว่า 5 แสนล้านบาท เสียดายไหมล่ะ 5 แสนล้านทำอะไรได้เยอะแยะนะ ทำรถไฟ ทำรถไฟฟ้าได้เส้นหนึ่งนะ
สถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยในปี 2558 ถึงแม้จะดีที่สุดในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา ผมก็ไม่พอใจต้องเร่งรัดให้มากขึ้นกว่านี้ เราพยายามกำหนดมาตรการสำคัญเยอะแยะนะ อันที่หนึ่งคือการตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.)
อันที่สองก็ตั้งคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) อันที่สาม พ.ร.บ.การอํานวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 แล้วก็เรื่องของการใช้สัญญาคุณธรรม ระบบ COST มีระบบร้องเรียน มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด มีการตรวจสอบทั้งก่อน และหลังการทำโครงการ บางครั้งนี่ตรวจก่อนไม่ได้เพราะตอนแรกเขาเร่งดำเนินการกันไง เพราะเป็นแสนๆ โครงการ แต่ก็ต้องทำ ตรวจสอบยังไม่เสร็จบางอันก็ต้องมาตรวจต่อ ตรวจสอบต่อ เขาก็ต้องทำไปก่อน ทีนี้พอทำเสร็จแล้วเจอที่พูดไปเมื่อกี้นี้ ก็ต้องลงโทษนะ
ทักษดา- การปฏิรูปการศึกษาของรัฐ
ประยุทธ์ - ทุกคนก็ต้องมองว่าการปฏิรูปเป็นเรื่องสำคัญที่สุดนะ การปฏิรูปการศึกษา เพราะเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ผมก็เห็นด้วยนะ แต่คราวนี้เราจะทำอย่างไรล่ะ เราไม่ได้ว่าระบบเราเหลวแหลก ล้มเหลวไปทั้งหมด ไม่งั้นมันอยู่ไม่ได้หรอกประเทศนะ ที่นี้ทำยังไงจะดีขึ้น ดีขึ้นก็คือว่าผลิตคนที่ตรงความต้องการของประเทศ แล้วประชาชนมีการเรียนรู้มากกว่าเรียน เพื่อจะรับปริญญา หรือเพื่อจะเลื่อนวิทยฐานะ ไม่ใช่ ต้องเรียนรู้ทั้งในภาคการศึกษา แล้วก็สอนให้คนมีคุณธรรม ไม่ทุจริตอะไรต่างๆ เหล่านี้ เป็นอนาคตทั้งนั้นแหละ การศึกษาที่เราเร่งมากที่สุดคือว่า ทำอย่างไรจะมีการบูรณาการระหว่าง 5 แท่งให้ได้ ผมก็จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 นะ ในการที่จะ แก้ไขปัญหา ไม่ใช่ยุบนะ เพียงแต่ว่ามีคณะกรรมการบูรณาการมา ไม่งั้นทุกแท่งต้องทำงานกันเองหมด พ.ร.บ.ตัวเอง งบประมาณตัวเอง คณะรัฐมนตรีก็สั่งอะไรไม่ได้มากนัก เพราะแบ่งงานให้รัฐมนตรีช่วยไปหมด นั่นคืออดีตนะ วันนี้ผมให้รัฐมนตรีว่าการฯ รับผิดชอบแต่ผู้เดียว ข้างบน แล้วก็สั่งการลงมา มีรัฐมนตรีช่วย ช่วยกัน และขับเคลื่อนคณะกรรมการขับเคลื่อนบูรณาการด้านการศึกษา ซึ่งมี 5 แท่งอยู่ตรงนั้น มีหัวหน้าหน่วยงาน 5 แท่ง มันก็จะได้สร้างไปข้างล่าง สั่งไปข้างล่าง ให้มันต่อกัน วันนี้หลายอย่างมันเกิดขึ้นมาใหม่แล้วนะ มันอาจจะไม่ทันใจมากนักหรอก เพราะว่ามันติดกฎหมายไว้เยอะ หลายตัวเหลือเกิน จริงๆ ถ้าไม่จำเป็นผมก็ไม่ใช้อยู่แล้ว เกี่ยวกับเรื่องการศึกษา แต่มันจำเป็นจริงๆ นะ วันนี้ก็มีจัดตั้งเขตการศึกษาใหม่ 18 เขต แล้วก็ให้การมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่นมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด อะไรต่างๆ ก็ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย การศึกษา อปท. อะไรต่างๆ เหล่านี้ แต่อย่าเพิ่งไปโอนให้ใครเลย ผมว่าวันนี้ทุกคนมาร่วมมือกันทำให้การศึกษาในท้องที่มันดีขึ้น วันนี้คณะกรรมการ 12 คณะของเราก็มาดูเรื่องการศึกษาด้วย ก็มีการจัดทวิภาคีด้วย อะไรด้วย ก็หลายอย่างมันเสริมกันหมด หลายอย่าง ให้ติดตามแล้วกัน
อันที่สองก็คือการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ อันนี้ก็คือเรียน และเรียนรู้ เรียนเพื่อปริญญา เรียนเพื่อตัวเอง ต่อไปก็ต้องเรียนรู้เพื่อสังคมด้วย จะต้องอยู่กันอย่างไรไม่ขัดแย้ง อันที่ 2-3 พูดรวมกันไปแล้วกัน อันที่ 4 คือโครงการโรงเรียนคู่ ทวิภาคี โรงเรียนนี้กับโรงเรียนโน้น พี่จูงน้อง เพื่อนจูงเพื่อน ไปด้วยกัน แล้วทั้งสองโรงเรียนก็จะเป็นคู่กันในการพัฒนาร่วมกัน มันจะได้ลดความแตกต่างในด้านมาตรฐานการสอน บางทีมันต่างคนต่างสอน ไม่ได้ดูกัน วันนี้ต้องดูกันแล้วก็พัฒนาตัวเองให้มันเท่าเทียมกัน คนได้ประโยชน์คือใคร คือเด็กใช่มั้ยล่ะ คือครูใช่มั้ย ประเทศชาติใช่มั้ย อันที่ 5 คือการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มไว้ มันนานแล้วนะ วันนี้เราก็สามารถทำได้ทั้งหมดแล้ว ประมาณ 15,000 กว่าโรงเรียน เพื่อสนองแนวพระราชดำริ ก็กำลังปรับปรุงทุกอย่างให้มันดีขึ้นๆ ไปเรื่อยๆ และจะไปสู่เรื่อง Digital Academy ด้วยไง
ต่อไปเรื่องที่ 6 คือโรงเรียนประชารัฐ เราก็มีความมุ่งหมายว่าทำยังไงเราจะทำให้มีการมีส่วนร่วมในโรงเรียนเหล่านี้ ในการประสานความร่วมมือในภาคประชารัฐ ในภาคประชาชน ภาครัฐบาล ภาคประชาสังคม มาร่วมมือกันในโรงเรียนด้วย เป้าหมายระยะแรกกำหนดไว้ 1 ตำบล 1 โรงเรียน ต้นแบบ ก็คือ 7,424 แห่ง แต่ละตำบล ต่อไปก็ขยายลงมาจากตำบลก็ไปเป็นพื้นที่ๆ เล็กลงไปกว่านั้น
ทักษดา- เข้าไปถึงหมู่บ้านเลยนะคะ
ประยุทธ์- ต้องดูกันนะ ต้องฝากครู ฝากบุคลากรทางการศึกษาช่วยดูกันด้วย ดูแลด้วย ถ้าเราไม่ทำตามนี้มันไปไม่ได้หรอก ต่างคนต่างเรียน ต่างคนต่างขับเคลื่อนกันไป การวิจัยการพัฒนานี่สำคัญ เพราะเราบางทีรัฐลงทุนไม่ได้มากนักหรอก มันก็ต้องไปร่วมมือกับใครล่ะ ของรัฐก็มี ของ สวทช. ของภาคเอกชน ทุกบริษัทใหญ่ๆ เขามีหมดล่ะ สถาบันวิจัยของเขาเอง เราก็ไปร่วมมือกับเขาสิ อันที่สาม ก็ร่วมมือกับสถานศึกษาของเรา ตามมหาวิทยาลัยมีเยอะแยะ เรื่องวิจัยเนี่ย ตอนนี้รัฐบาลกำลังรวม Grouping ทั้งหมด แล้วมาดูซิว่าเราจะจัดระเบียบต่อจากนี้อย่างไร ทุนการศึกษา เฉพาะในสิ่งที่เราต้องการเป็นหลัก อันที่สองก็คือ ตามอิสระ มันต้องจัดการอย่างนี้นะ ถ้าเพียงแต่ทุนๆๆ แล้วกลับมาหรือเปล่าไม่รู้ ไปไหนก็ไม่รู้ อย่างนี้ไม่ได้ วันนี้ก็ให้รวบรวมมาได้แล้วนะ ประเทศไทยมีจบปริญญาเอกเท่าไหร่รู้มั้ย 30,000 กว่าคน
ทักษดา- เป็นด็อกเตอร์ทั้งนั้นเลยนะคะ
ประยุทธ์- ด็อกเตอร์ 30,000 กว่าคน ต้องทำให้ด็อกเตอร์ 30,000 กว่าคน ทำให้คนไทยฉลาดขึ้นให้ได้ แล้วก็ทำให้คนไทยเลิกความขัดแย้ง ให้เข้าใจว่าโลกภายนอกเขาเป็นอย่างไร มันมองตัวเองคนเดียวไม่ได้แล้วนะ ต้องแก้ไข เรื่องการพัฒนาระบบไอซีทีให้ทั่วประเทศ นี่พูดไปแล้ว ตัวอย่างที่เห็นเร็วๆ ตอนนี้ก็คือการสร้างพลังประชารัฐจากพลังเยาวชน ผ่านกลไกสภานักเรียน ซึ่งผมเห็นกระทรวงศึกษาฯ เขาทำอยู่ นี่มีประโยชน์และมีความก้าวหน้ามากขึ้น ผมคิดว่าสิ่งนี้มันจะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในอนาคต กระทรวงศึกษาฯ นะ
ทักษดา- เท่าที่เห็นทุกๆ ปีสภานักเรียนจะมายื่นข้อเสนอกับท่านนายกฯ ทีนี้ฝันของสภานักเรียนจะเป็นจริงแล้วใช่มั้ย
ประยุทธ์- ก็ต้องเป็นจริง แต่ปัญหาบางอย่างมันเป็นปัญหาที่ทับซ้อน มันต้องแกะออกมา มันต้องแกะปัญหาออกมาเป็นปัญหาย่อย ปัญหาเล็กน้อย แล้วเราก็แก้ทีละปัญหา ปัญหาใหญ่มันถึงจะจบ อะไรที่แก้ได้เลย ก็แก้เลย กระทรวงศึกษาฯ เขาแก้เลย ผมถึงให้อำนาจเขาไง เพราะฉะนั้นจะต้องให้ทำงานร่วมกันกับกระทรวงศึกษาฯ กับสภานักเรียน ให้ครอบคลุมปัญหาต่างๆ ในสังคม วันนี้ก็เห็นเขามีความสุขขึ้นนะ ตัวแทนมาพบรัฐมนตรีศึกษาฯ ก็บอกว่าพอใจ ศธ.เขาจะเป็นตัวกลางเชื่อมสภานักเรียน กับกระทรวงยุติธรรม ในเรื่องของยาเสพติด เชื่อมกับกระทรวงทรัพย์ฯ เรื่องการบุกรุกป่า น้ำ ขยะ กระทรวงวัฒนธรรม เรื่องการเสพสื่อโซเชียล เหล่านี้ ก็ต้องเร่งทุกวัน กระทรวงศึกษาฯ กำลังทำอยู่ แล้วก็ต้องนำเรื่องของการปลูกฝังประชารัฐ ฟังเสียงเยาวชน ร่วมสร้าง กำหนดอนาคต เพื่อจะสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ 20 ปีข้างหน้าด้วย
ทักษดา- ท่านนายกฯ คะ ทราบว่ารัฐบาลมีแผนยุทธศาสตร์ 10 ปี ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชน แผนนี้จะเริ่มในปีนี้เลยใช่มั้ยคะ และมีโครงการอะไรบ้าง
ประยุทธ์- อันนี้ก็มีหลายหน่วยงานที่ผมได้สั่งการไปแล้ว ไม่ว่าจะกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ แล้วก็กระทรวงเกี่ยวกับความมั่นคง กระทรวงกลาโหม เพราะเราต้องดูแลไปถึงข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหารด้วย ระดับเด็กๆ รายได้น้อย และประชาชนที่ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ต้องวางแผนยาว 2559-2568 เพราะฉะนั้นก็จะเน้นผู้มีรายได้น้อย ไม่มีกรรมสิทธิ์ที่ดินที่อยู่อาศัยประมาณ 2.7 ล้านครัวเรือนในขณะนี้ จากทั้งหมด 4.6 ล้านครัวเรือน อันนี้แผนระยะยาวยังได้แค่ 2.7 เลย ทั้งหมดมัน 4.6 ที่เราต้องการ แล้วระหว่างนี้กำลังสร้างๆๆ คนใหม่อีกเท่าไหร่ล่ะ มันต้องมากกว่านี้ อันหนึ่งก็คือ จะมีที่อยู่อาศัยในอนาคต อันที่สองช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการก่อสร้างเหล่านี้ ปัญหาก็คือ มีเสียงกลับมาว่า บางครั้งไม่เข้ากติกา เขาต้องมีกติกาสิ ไม่งั้นหนี้มันจะเป็น NPL กู้เขามานี่ บางคนก็เคยมีกรรมสิทธิ์บ้านหลังอื่นมาก่อน เพราะเขาเขียนบ้านหลังแรกไง ก็กำลังให้เขาดูอยู่ว่าจะทำยังไง อายุมากเกินเกณฑ์กำหนดนี่ก็อีกอัน เขากำหนดมา เขาก็ต้องแคปเหล่านี้ไว้ด้วย บ้านพร้อมที่ดินราคามากกว่า 1.5 ล้าน ผมก็บอกว่าไปหาบ้านที่ราคาถูกได้มั้ย บ้านประกอบน่ะ น็อกดาวน์ ผมเห็นรูปเยอะแยะไป ทำไมไม่เอามาคิดกันล่ะ บ้านบางครั้งก็ไม่กี่แสน แสน สองแสนเอง การปลูก/ซ่อมแซมบ้านบนที่ดินของคนอื่น เหล่านี้มันเป็นปัญหาทั้งสิ้นที่เราต้องไปแก้ตามต่อ ไม่ใช่คิดจะทำแล้วก็ทำได้เลย มันติดหมด ก็ให้กระทรวงการคลัง กระทรวง พม. กระทรวงกลาโหม เป็นแม่บ้าน ไปช่วยกันดูแลคณะกรรมการขับเคลื่อนนะ ความสามารถในการผ่อนชำระ ภาวะหนี้สินล้นพ้นตัว ซึ่งถ้าเราปล่อยไปมากๆ มันจะหนี้เสีย NPL มันจะมากขึ้น สถาบันการเงินเขาจะมีปัญหา เพราะฉะนั้นเราต้องประเมินผลโครงการระยะยาว ช่วยเหลือแท้จริง แก้ปัญหาผู้อยากร่วมแต่ร่วมไม่ได้ จะทำยังไง กำลังให้พิจารณามาตรการอยู่ ขอให้ระมัดระวังหน่อยนะ การใช้เงิน การมีหนี้โดยไม่จำเป็น ใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย ให้สำรวจหนี้สินตัวเองซะก่อน ฟังรัฐบาลชี้แจง อย่าไปทำหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
อีกอันหนึ่งก็คือเรื่องของข้าราชการ ก็ดูแลเขา ก็ต้องไปดูว่าที่ของกรมธนารักษ์ ที่ราชพัสดุ มันสามารถจะทำได้มั้ย เพื่อจะให้ข้าราชการที่ไม่มีบ้านอยู่ ข้าราชการที่ยังไม่เกษียณ
ทักษดา- ก่อนเกษียณอายุ
ประยุทธ์- ก่อนเกษียณ เช่าอยู่ได้ ระยะสั้น ระยะยาว แล้วก็มีอีกส่วนหนึ่งที่สามารถจะเช่าซื้อได้เพื่อเป็นอนาคตเมื่อเขาเกษียณไปแล้ว ความมั่นคงนี่สำคัญนะ ลูกหลานจะอยู่กันยังไงวันหน้า ต้องคิดให้เขา ปัญหาก็คือระยะเวลา ปัญหาคืองบประมาณ ปัญหาคือความขัดแย้ง เดี๋ยวจะมีข้อมูลให้ทราบต่อไป บางอย่างก็รัฐจะทำ บางอย่างก็เอกชนสร้างบ้างอะไรบ้าง ร่วมมือกันภาครัฐ ภาคเอกชน
ทักษดา- ทั้งนี้ที่ทำก็เพื่อช่วยเหลือข้าราชการชั้นผู้น้อย เพื่อให้เขามีบ้านพัก มีที่อยู่อาศัย
ประยุทธ์- ก็ตามสิทธิ์เขานะ เขาต้องได้บ้านพักนะ มีค่าเช่า บ้านพัก อะไรเยอะแยะไปหมด เอาตรงนั้นมาทำตรงนี้ได้มั้ย จะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่าบ้านให้เขา ก็เป็นการลงทุนบ้านให้เขาไปเลย บางอันก็เช่า พอเกษียณอายุหรือย้ายออกไป คนอื่นก็อยู่แทน อีกอันเช่าซื้อตอนเกษียณ อยู่ตอนเกษียณ คนรุ่นใหม่ที่จบมาก็พยายามติดตามกันนะ ที่ยังไม่ได้เริ่มทำหนี้ เป็นหนี้อย่างนี้ดีกว่า มันมีมูลค่า วันหน้าถ้าไม่พอใจ มันเล็กลง เล็กเกินไป ก็ขายซะ ไปซื้อบ้านใหม่ซะ นี่ไม่มีทรัพย์สิน มีแต่หนี้ มันจะทำได้มั้ยล่ะ ก็ต้องแก้ไขนะ
ด้านต่างประเทศก็เหมือนกัน ก็ต้องทำต่อทั้งหมด จะถามใช่มั้ย เราก็หลายอย่างนะ เรื่อง จี77 เรื่องการประชุม การวางยุทธศาสตร์ร่วม ด้านการต่างประเทศ กับแต่ละประเทศต้องชัดเจน รัฐบาลไทยทำทั้งหมด เชิงรุก แสดงบทบาทนำในเชิงพฤตินัย สร้างความเชื่อมโยงให้ได้
ทักษดา- นอกจากนั้นแล้วยังมีด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมอีก ซึ่งทราบว่าทางรัฐบาลก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และแก้ไขปัญหาและออกกฎหมายเพิ่มมาเป็นจำนวนหลายร้อยฉบับแล้ว
ประยุทธ์- จริงๆ แล้วกฎหมายต้องเป็นสากล ทันสมัย กฎหมายที่ไม่จำเป็นก็ยกเลิก ทีนี้ถ้าจะบอกว่ายกเลิกกฎหมาย 5 พันฉบับ มันคงไม่ใช่อย่างนั้นนะ เป็นการพูดตัวเลขเฉยๆ กลมๆ แค่ยกตัวอย่าง ไม่ใช่ว่าจะยกเลิก 5 พันฉบับ มันเลิกไม่ได้ทั้งหมดอยู่แล้ว มันไม่มีเวลาหรอก ก็ไปดูกฎหมายแรกๆ ที่เราจะแก้ไขก็คือที่ยังไม่เป็นสากล ที่จะต้องเพิ่มเติมให้มันทันสมัย อะไรที่ยังออกไม่ครบ เช่น ประมง อะไรต่างๆ เหล่านี้ มันจะต้องออกให้ครบ หลายอย่าง แล้วก็กฎหมายที่ไม่จำเป็นแล้ว บางทีออกมาตั้งแต่เรายังไม่เกิดเลย ไม่ได้ใช้ ก็จะต้องยกเลิก อันนี้รวมความไปถึง ... ไม่ใช่ว่าจะยกเลิกกฎหมาย ไม่ใช่ ยกเลิกกฎหมาย กฎกระทรวง พ.ร.บ.เยอะแยะไปหมด ระเบียบอะไร กฎหมายทั้งสิ้น มันพันกันไปหมด แก้อันนี้ไปกระเทือนอันโน้น วันนี้กฎหมายใหม่ออกมาต้องออกกฎหมายลูกอีก แก้กฎหมายลูกอีก กฎกระทรวงทั้งหมด มันก็จะต้องเสียเวลาพอสมควร ลดเวลาของกระบวนการศาลเขาไปอีก อันนี้ต้องเร่งดำเนินการนะ เท่าที่ทำได้ ที่เราเหลือเวลา จะทำให้ได้มากที่สุด เอาที่จำเป็นก่อนนะ ได้มั้ย ต้องร่วมมือกัน
ทักษดา- แล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ท่านนายกฯ ได้ลงพื้นที่ไปที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อไปติดตามการบริหารราชการแผ่นดิน แล้วก็ติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตามแนวนโยบายของรัฐบาล แล้วก็ไม่ทราบว่ามีเรื่องใดบ้างที่ประสบความสำเร็จแล้ว ในเรื่องนี้
ประยุทธ์- สำเร็จหลักๆ ก็คือการแก้ปัญหาหมอกควันระยะแรก ผมก็เน้นไปว่าต้องหาความร่วมมือกับเพื่อนบ้านด้วย เพราะมันเกิดทั้งสองฝั่ง เอาของเราที่เราทำได้ผลไปแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเขา ต้องช่วยกัน เพราะมันกระเทือนทั้งหมด ไม่ใช่เราคนเดียว การมอบที่ดินทำกินอย่างที่กล่าวไปแล้ว มีการบูรณาการทุกหน่วยงาน และได้ติดตามเรื่องศูนย์สั่งการเบ็ดเสร็จ Single Command ของการแก้ปัญหาหมอกควันไง มันต้องเป็น Single Command นะ มีหลายหน่วยงานอยู่ในที่เดียวกัน แล้วสั่งการพร้อมกัน เพื่อจะแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน แล้วก็ประสานไปต่างประเทศด้วย
ในเรื่องของอาเซียน เราก็จัดทำโรดแมป อาเซียนปลอดหมอกควันภายในปี 2563 ดำเนินการขณะนี้ลดฮอตสปอตไปได้ 47 เปอร์เซ็นต์ แล้วนะ โครงการชุมชนก็ไปเกิดในหลายที่ ร่วมกับป่า ดูแลรักษาป่า ฟื้นฟูป่า 2 ร้อยหมู่บ้าน 58 ทำไปแล้ว 450 59 สองร้อยหมู่บ้าน ทำไปแล้ว 178
ทักษดา- ตอนนี้ก็มาถึงช่วงท้ายของรายการ ท่านนายกฯ มีสิ่งดี ๆ หรือมีกิจกรรมอะไรดีๆ ฝากถึงพี่น้องประชาชนบ้างไหม
ประยุทธ์- เอาย่อๆ แล้วกันนะ พูดไปเยอะแล้ว นานแล้ว เดี๋ยวคนก็ไม่อยากฟังอีก นี่เห็นมั้ยล่ะ พูดยังไม่จบเลย นี่ผมย่อไปตั้งเยอะแล้วนะ ที่ทำมาเยอะกว่านี้อีก ไม่ใช่อวดอ้าง แต่บางอันมันยังไม่เสร็จ คนก็รอว่าเมื่อไหร่เสร็จ แล้วก็บอก เสร็จแล้วก็รีบไป หลายคนพูดแบบนี้นะ
สรุปสั้น ๆ วันนี้ก็เริ่ม STARTUP วันก่อนผมไปเปิดงาน น่าพอใจ สำหรับเศรษฐกิจใหม่ก็จะเป็นการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ เพื่อจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เอาคนรุ่นใหม่มาทำ แล้วก็พี่จูงน้อง เพื่อนจูงเพื่อน บริษัทใหญ่ จูงบริษัทเล็ก อะไรอย่างนี้ เพื่อจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ให้ได้ แล้วใช้ระบบ ICT ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม ใช้ปัญญาประดิษฐ์ มาตรการยกเว้นภาษี ต่างๆ ยกให้เขา ดูแลให้เขา ขั้นเริ่มต้นนี่นะ มีการเปิดเวทีพบปะ แลกเปลี่ยน สร้างแรงบันดาลใจ จากกูรู ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา จาก 10 ประเทศ สร้างความคิดเชิงธุรกิจ นักวิเคราะห์ มีเกือบ 200 บริษัท สตาร์อัพ มาออกบูธ น่าชื่นใจนะ
นักเรียนนอก หลายคนกลับมาพัฒนาประเทศ หลายคนจบปริญญามา ไปทำอาชีพอื่น เลิก กลับมาบริหารธุรกิจแล้ว เพราะเห็นรัฐบาลนี้สนับสนุนจริงจัง ก็กลับมา มาฟังมาหาเงิน หากองทุนแล้วก็หาพี่ๆ มาดูแล ก็ชี่นชม มีพี่ ๆ ของมหาวิทยาลัย จุฬา ธรรมศาสตร์ แล้วมหาวิทยาลัยเอกชนอื่น ๆ หลายคนเขามาที่งานนี้ด้วย เขาก็ส่งเสริมรุ่นน้องเขา หลายคนที่มีศักยภาพ ไปประกอบการนี่โน่น ผมก็เลยฝากไว้ บอกว่าทำไมนักศึกษาดี ๆ เราก็มากมาย มาดูแลรุ่นน้อง มาผลิตผลงานออกมา บางคนทำไมไม่ค่อยเรียบร้อย ก็ฝากสถาบันไปดูแลด้วย หลายคนเรียนไม่จบสักทีไง แล้วก็สร้างความวุ่นวาย เสียชื่อสถาบัน คนเขาสร้างความดีมากมายไป นักศึกษาช่วยผมด้วยแล้วกันนะ ผมรักทุกคน ก็คือลูก คือหลานผมทั้งนั้น ไม่ว่าจะดี ไม่ดี ก็ลูกหลานผม แต่ผมไม่อยากให้เขาทำให้บ้านเมืองสับสนวุ่นวายไปมากกว่านี้ เรื่องเหล่านี้ไปสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1313 นะ
เรื่องงานการศึกษาสร้างชาติ ตลาดคลองผดุงสร้างสุข สัญจร ช่วง 11 - 13 พฤษภาคมนี้ จะเปิด ก็ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ สัญจร ลดค่าใช้จ่าย ต่อยอดตลาดคลองผดุงไปที่ต่างจังหวัดด้วยยังไง ผมบอกแล้ว ไม่ได้เกิดแต่ในกรุงเทพฯ
จำหน่ายเครื่องแบบ อุปกรณ์การเรียน คุณภาพดี ราคาถูกกว่าท้องตลาด กว่า 40 เปอร์เซ็นต์ สินค้าผลิตภัณฑ์ของนักเรียนและประชาชน ให้เขามาขาย ศูนย์บริการสร้างซ่อม (Fix it Center) การแสดงของนักเรียนนักศึกษา, การจัดนิทรรศการเปิดโลกอาชีพ สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรมใหม่ ที่ได้รับรางวัลในระดับภาค ที่พูดมาเหนื่อยไหม ฟังแล้วเหนื่อยไหม พูดก็เหนื่อย ทำก็เหนื่อยกว่า ถ้าคิดแล้วพูด ไม่ต้องทำนี่ ไม่เหนื่อยหรอก นี่เหนื่อย เหนื่อยใจด้วย แรงกดดันก็สูง ต้องทำให้สำเร็จไง ประชาชนเดือดร้อน เห็นแววตาเขาก็ไม่รู้สิ ผมก็เต็มตื้นทุกที เวลาเจอคนจน เวลาพูดถึงเขาผมไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก เสียเวลามามากแล้ว
ขอให้ทุกคนร่วมมือกับรัฐบาล กับ คสช. หลายอย่างที่เป็นกฎหมายก็เชื่อฟังกฎหมายก็ไม่เกิดความขัดแย้ง อย่าบิดเบือนกันอีกต่อไปเลย เลือกที่จะเชื่อ เลือกที่จะฟังบ้าง เลือกที่จะอ่านบ้าง อะไรที่สร้างความขัดแย้งมาก ๆ ก็อย่าไปเชื่อมากนักเลย บางที่ก็มีจุดประสงค์อย่างอื่น เจตนาไม่บริสุทธิ์ไง ผมนี้เจตนาบริสุทธิ์ ถ้าดูหัวใจผมได้ก็จะให้ดูว่าผมให้ทุกอย่างไว้แล้ว ชีวิต จิตใจ ผมให้หมดแล้ว ขอขอบคุณในความร่วมมือ ขอบคุณในการที่เราจะมองอนาคตร่วมกัน อย่างที่เราวาดหวังไว้ใน 20 ปีข้างหน้า ไปพร้อม ๆ กัน สวัสดีครับ
ทักษดา- ค่ะในสัปดาห์นี้นะคะ ท่านนายกฯ ได้เผยให้เห็นมิติของความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม นะคะ ที่พวกเราจะต้องก้าวเดินไปด้วนกันนะคะ เพื่อสร้างประเทศไทยของเราให้มั่นคง และเข้มแข็ง สำหรับรายการคืนความสุขให้คนในชาติวันนี้นะคะ ขอลาไปก่อนค่ะ แล้วพบกับท่านนายกฯ ได้ใหม่ในสัปดาห์หน้าค่ะ สวัสดีค่ะ