xs
xsm
sm
md
lg

กกต.คลอดข้อห้าม ประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เท็จ-ก้าวร้าว-หยาบคาย-ปลุกระดม โดนหมด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เผยร่างประกาศ กกต. กำหนด 6 ข้อทำได้ แสดงความเห็นใช้ถ้อยคำที่สุภาพ ข้อมูลชัดเจน ไม่กำกวม 8 ข้อ ห้ามเด็ดขาด ความเท็จ ก้าวร้าว รุนแรง หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่ จัดเสวนาปลุกระดม ใส่เสื้อ ติดป้าย หรือสัญลักษณ์ แจกเอกสาร ใบปลิว พบสื่อรายงานข่าว - จัดรายการปลุกระดม โดนด้วย แม้แต่ให้คนคล้อยตาม พบเห็นกระทำความผิดแจ้งพนักงานสอบสวนได้ทันที

วันนี้ (29 เม.ย.) นายธนิศร์ ศรีประเทศ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงว่า ที่ประชุม กกต. มีมติเห็นชอบร่างประกาศ กกต. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการแสดงความคิดเห็นในการออกเสียงประชามติ ซึ่งคาดว่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลใช้บังคับในสัปดาห์หน้า โดยมีข้อกำหนด สิ่งที่ประชาชนทำได้ 6 ข้อ คือ

1. ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ และประเด็นเพิ่มเติมให้เข้าใจอย่างครบถ้วน จากเว็บไซต์ หรือสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการแสดงความคิดเห็นของตน

2. แสดงความเห็นโดยใช้ถ้อยคำที่สุภาพ

3. แสดงความเห็นด้วยข้อมูลที่มีความชัดเจน ไม่กำกวม อันอาจทำให้บุคคลอื่นเห็นว่าเป็นการบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริง

4. การนำเสนอหรืออ้างอิงงานวิจัยตามหลักวิชาการ เพื่อประกอบการแสดงความคิดเห็น ให้ผู้มีสิทธิออกเสียงบุคคลนั้น ควรตรวจสอบความถูกต้องและแสดงที่มาของงานวิจัยนั้นด้วย

5. การสัมภาษณ์ผ่านสื่อเพื่อแสดงความคิดเห็นพร้อมเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่งของตน

6. การนำเข้าข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นพร้อมแสดงเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่งของตน ในเว็บไซต์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือการส่งต่อข้อมูลดังกล่าว โดยไม่มีการแสดงความเห็นเพิ่มเติม

ส่วนที่ทำไม่ได้มี 8 ข้อ ได้แก่

1. การสัมภาษณ์ผ่านสื่อด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือมีลักษณะก้าวร้าว รุนแรง หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่

2. การนำเข้าข้อมูล อันเป็นเท็จหรือมีลักษณะก้าวร้าว รุนแรง หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่ ในเว็บไซต์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือส่งต่อข้อมูลในลักษณะดังกล่าว

3. การทำ หรือส่งสัญลักษณ์ หรือเครื่องหมาย อันมีลักษณะก้าวร้าว รุนแรง หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่

4. การจัดเวทีสัมมนา อภิปราย โดยกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ที่ไม่มีหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา องค์กรสื่อมวลชนตามกฎหมายเข้าร่วม และมีเจตนาเพื่อปลุกระดมทางการเมือง

5. การชักชวนให้ใส่เสื้อ หรือติดป้าย เข็มกลัด ธง ริบบิ้น หรือเครื่องหมายที่แสดงสัญลักษณ์ความเห็นอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือการขาย การแจกจ่ายสิ่งของดังกล่าว ในลักษณะรณรงค์ทั่วไป เพื่อนำไปสู่การปลุกระดมทางการเมือง

6. การใช้เอกสาร ใบปลิว หรือแผ่นพับ ที่มีข้อความอันเป็นเท็จ หรือมีลักษณะก้าวร้าวรุนแรงหยาบคาย หรือปลุกระดมทางการเมือง

7. การรายงานข่าว หรือการจัดรายการของสื่อมวลชนที่นำไปสู่การปลุกระดม หรือสร้างความวุ่นวายในสังคม

8. การรณรงค์เพื่อให้เกิดการคล้อยตามของคนในสังคม เพื่อให้ออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง มีลักษณะการปลุกระดมหรือขัดขวางการออกเสียง

ส่วนกรณีสื่อมวลชน สามารถรายงาน หรือเสนอข่าวด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ด้วยความรับผิดชอบ เป็นกลาง คำนึงถึงความเท่าเทียมและไม่ขัดต่อกฎหมาย

ทั้งนี้ กกต. อาจจะออกประกาศเพิ่มเติม ถ้ามีกรณีใดเกิดขึ้นหลังจากนี้อีก เพื่อให้เกิดความชัดเจน กรณีการกระทำในเรื่องอื่น ที่ กกต. อาจเขียนบอกว่าสามารถทำได้ ซึ่งการออกประกาศของ กกต. ยืนอยู่บนพื้นฐานพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ แต่การกระทำอาจจะผิดกฎหมายอย่างอื่น เช่น พ.ร.บ. รักษาความสะอาด, พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์, ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยประชาชนพึงระวังความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย

โดยประชาชนหากพบเห็นการกระทำผิดสามารถร้องพนักงานสอบสวนได้เลย ไม่ต้องร้องผ่าน กกต. เพราะกฎหมายไม่ได้เขียนให้อำนาจ กกต. เป็นผู้เสียหายที่จะวินิจฉัยความผิดเบื้องต้นได้ เหมือนการออกเสียงประชามติเรื่องปี 2550 รวมทั้งกฎหมายไม่ได้เขียนเรื่องความปรากฎต่อ กกต. ที่ กกต. จะสามารถมีมติแล้วไปแจ้งความ ถ้าเป็นกรณี กกต. แต่ละคนพบเห็นก็สามารถแจ้งความได้เป็นรายบุคคล และพนักงานสอบสวนจะเรียกบุคคลนั้นไปให้ปากคำ และ กกต. เตรียมเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มาทำความเข้าใจ เพื่อให้การปฏิบัติงานเรียบร้อย แต่รอให้ร่างประกาศมีผลบังคับใช้ก่อน


กำลังโหลดความคิดเห็น