สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ แก้ไขให้ทันสมัย เพิ่มโทษให้หนักขึ้น ฟันพวกส่งข้อมูลโดยไม่เปิดช่องให้ผู้รับปฏิเสธ ปรับไม่เกิน 2 แสน สร้างข้อมูลเท็จจนคนแตกตื่นชาติเสียหาย รวมถึงภาพลามกเจอคุก 5 ปี ปรับ 1 แสน ใครตัดต่อภาพโดย 3 ปี ปรับ 2 แสน พวกยอมให้ใช้คอมพ์โดนด้วย พร้อมตั้งกรรมการเปรียบเทียบปรับในคดีที่โทษปรับ คือคุกไม่เกิน 2 ปี ชำระครบไม่ต้องไปจบที่ศาล ด้านสมาชิกปรามพวกน่ารำคาญไม่น่าให้จ่ายแพง ห่วงห้ามข้อมูลขัดต่อศีลธรรมเขียนกว้างไป ก่อนโหวตรับหลักการเอกฉันท์ 160 เสียง
วันนี้ (28 เม.ย.) ที่รัฐสภา การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ตามที่ ครม.เสนอ เพื่อแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ให้ทันต่อรูปแบบการกระทำผิดที่ซับซ้อนมากขึ้นตามพัฒนาการทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จำนวน 19 มาตรา โดยมีสาระสำคัญ คือ เพิ่มเติมฐานความผิดและกำหนดโทษแก่ผู้กระทำความผิดตามร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ให้หนักขึ้น อาทิ กรณีการส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้อื่น โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับสามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการตอบรับได้ อันเป็นการก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้รับ ต้องระวางโทษไม่เกิน 2 แสนบาท หรือกรณีการนำเข้าสู่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือการเผยแพร่ ส่งต่อข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ตลอดจนข้อมูลลักษณะลามก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
ส่วนกรณีการตัดต่อภาพผู้อื่นอันทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 2 แสนบาท รวมถึงเพิ่มเติมโทษแก่ผู้ให้บริการคอมพิวเตอร์ที่ร่วมมือ ยินยอม หรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความดูแลของตน นอกจากนี้กรณีความผิดตามร่างกฎหมายฉบับนี้ที่มีโทษปรับสถานเดียวหรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี ให้มีคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับจำนวน 3 คน ที่รัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้ง เมื่อได้ชำระค่าปรับแล้ว ให้ถือว่าคดีนั้น สิ้นสุดลง โดยไม่ต้องนำคดีไปศาล
ทั้งนี้ สมาชิกส่วนใหญ่อภิปรายให้ความกังวลกรณีการส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ในลักษณะสร้างความน่ารำคาญนั้นจะเกณฑ์กำหนดอย่างไร เพราะระดับความรำคาญของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อีกทั้งการส่งข้อมูลในลักษณะสร้างความรำคาญ ไม่น่าจะทำให้เกิดผลเสียหายถึงขั้นมีโทษถูกปรับเงิน 2 แสนบาท รวมทั้งข้อห้ามเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน ถือเป็นความหมายกว้างมาก และมีความเปราะบาง อาจถูกตีความไปในลักษณะละเมิดสิทธิมนุษยชนได้ หลังจากที่สมาชิก สนช.อภิปรายจนครบทุกคนแล้ว ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์รับหลักการร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนน 160 ต่อ 0 เพื่อพิจารณาในวาระ 2 และ 3 ต่อไป
