รองปลัด มท.แจงสั่ง อปท.ระงับเงินอุดหนุนวัด เหตุ สตง.ทักท้วง ไม่ใช่ภารกิจในอำนาจหน้าที่ ปัดห้าม แต่พบมีช่องแสวงหาประโยชน์ รอระเบียบที่กำลังพิจารณามีผลบังคับใช้ก่อน ยันจะมีความโปร่งใสขึ้น ฉะมีผู้ไม่หวังดีโยงให้เป็นความขัดแย้งทางศาสนา
วันนี้ (27 เม.ย.) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่กระทรวงมหาดไทย มีหนังสือแจ้งให้จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกแห่งทราบ เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการตั้งงบประมาณรายจ่ายหมวดเงินอุดหนุนของ อปท.เพื่อสนับสนุนวัด โดยให้ อปท.ระงับการเบิกจ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนให้แก่วัดไว้ก่อนจนกว่ากระทรวงมหาดไทยจะได้ออกระเบียบกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติที่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้รับหนังสือทักท้วงจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบการใช้งบประมาณ โดยได้มีข้อทักท้วงถึงการตั้งงบประมาณอุดหนุนให้แก่วัดของ อปท.ว่า เป็นโครงการที่ไม่ใช่ภารกิจที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ และวัดยังไม่มีระเบียบหลักเกณฑ์ หรือข้อบังคับเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการควบคุมการใช้จ่ายเงินอุดหนุนที่ได้รับจาก อปท.อย่างมีประสิทธิภาพ
รองปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า เจตนารมณ์ของหนังสือฉบับดังกล่าวนั้นไม่ได้ห้าม อปท.สนับสนุนกิจกรรมของวัด แต่เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบพบว่ากระบวนการใช้จ่ายเงินยังมีปัญหาในทางปฏิบัติ เช่น ไม่สามารถควบคุมการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นช่องทางแสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบได้ จึงมีความจำเป็นต้องระงับการใช้จ่ายเงินของ อปท.ไว้เป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยก็ได้ยกร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ... เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การตั้งงบประมาณ การเบิกจ่าย การตรวจสอบและติดตามผลการใช้จ่ายเงินอุดหนุนของ อปท. เพื่อให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะนี้ระเบียบกำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย ในวันพุธที่ 4 พ.ค. เมื่อระเบียบมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายจะแจ้งให้แต่ละจังหวัดทราบต่อไป พร้อมกันนี้ได้มีหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดทำความเข้าใจแก่ อปท.ทราบและถือปฏิบัติ และมีหนังสือถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อให้นำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมกรรมการมหาเถรสมาคมทราบแล้ว
นายสุทธิพงษ์กล่าวว่า หลังระเบียบมีผลบังคับใช้ การใช้จ่ายงบของ อปท.จะมีความโปร่งใสมากขึ้น แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีผู้ไม่หวังดีนำเรื่องนี้มาโจมตีพยายามชี้นำผ่านสื่อออนไลน์ว่าวัดจะไม่ได้งบสนับสนุนจาก อปท.อีก และมีความพยายามทำให้เป็นความขัดแย้งทางศาสนา จึงขอให้ผู้ไม่หวังดีหยุดการกระทำอันนำมาสู่ความแตกแยกในสังคม และขอให้ผู้รับฟังข่าวสารใช้สติตรึกตรองก่อนเสพข่าวที่ไม่เป็นความจริง