สะเก็ดไฟ
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. พยายามหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยชื่อ ได้แต่ขี่ม้าเลียบค่าย อ้อมไปอ้อมมา เพราะต้องรักษาภาพทหารเข้ามาห้ามมวย ไม่ใช่ขึ้นชกเสียเอง แต่วันนี้มาถึงจุดที่ต้องเอ่ยชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” กันออกอากาศแล้วว่า เป็นเบื้องหลังยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ แบบว่าไม่กั๊ก ไม่เก็บ ด่ากันซึ่งหน้าให้ได้ยินกันไปเลย
แต่จะว่าไป ก็ไม่มีอะไรตื่นเต้น เพราะเขารู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองมานานแล้ว
แม้แต่ตัว “บิ๊กตู่” เองก็เถอะ แต่ที่เลือกไม่พูดเพราะที่ผ่านมาเลือกพยายามติดตามความเคลื่อนไหวอย่างลับๆ มากกว่าว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร ไม่เอาออกมาโพนทะนาข้างนอก เรื่องนี้จึงไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่ที่น่าสนใจ คือ การออกมาสาวไส้ทักษิณออกไมค์ในช่วงนี้ มันสะท้อนชัดว่าขณะนี้มีเรื่องให้ผู้นำทหารปวดกบาล จนอยู่ในภาวะเครียด สังเกตหลายครั้งที่ผ่านมาเวลามีเรื่องอะไรมากวนใจ “บิ๊กตู่” มักจะเก็บอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ จะฟาดงวงฟาดงาออกมาเป็นประจำ
นั่นแสดงว่า การเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการที่ “เสี่ยไก่” วัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เล่นสงครามประสาท กรณีนักศึกษาออกมาลองของดาบอาญาสิทธิ์ หรือกรณีพรรคการเมืองวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญแบบชี้นำ มันทำให้ผู้นำเกิดอาการหวั่นไหวจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ด่ากราดทักษิณ แฉเลยว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์ ลดเครดิตประเทศ แถมยังขู่ถึงนักการเมืองที่มีชนักปักหลัง โดยเฉพาะคดีความต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาขององค์กรอิสระ
ขณะที่ทักษิณนั้นคาดการณ์ได้อยู่แล้วว่าต้องออกมาตอบโต้อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน เพราะโดยธรรมชาติก็ไม่ใช่พวกเก็บอารมณ์ได้เหมือน “บิ๊กตู่” ย้อนดูสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณก็เป็นจอมฟาดงวงฟาดงาคนหนึ่ง เหน็บแนม ประชดประชัน ด่ากราด พูดอะไรไม่ค่อยคิด อย่างวลี “โจรกระจอก” จนเกิดเรื่องเกิดราวในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้น ถ้าจะบอกว่า การออกมาด่ากลับแรงใส่ “บิ๊กตู่” เป็นเหมือนการเปิดศึก ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะเปิดมานานแล้ว ผ่านองคาพยพต่างๆ
อย่างตอนที่เจ้าหน้าที่เข้ายึดขันแดง ทักษิณก็ออกมาชยันโตทหารไปครั้งหนึ่ง ไม่ได้เก็บงำความรู้สึกอะไร เพราะประตูเจรจาผ่านตัวกลางในคอยดีล ล่มไปนานแล้ว อย่าง “เสี่ยไก่” ซึ่งรับรู้กันว่าที่ผ่านมาเป็นมือประสานกับฝ่ายอำนาจ ทุกวันนี้ก็โดนทหารจับเข้าไปปรับทัศนคติ ไม่มีประนีประนอมเกรงใจกัน
ขณะที่ร่างรัฐธรรมนูญก็ชัดว่า ต้องการบอนไซพรรคเพื่อไทยที่ผูกขาดการเลือกตั้ง ธงชัดมาเรื่อยๆ ว่าไม่ต้องการให้ตระกูลชินวัตร มีที่ยืนบนฟลอร์การเมืองหลังจากนี้
ไม่มีอะไรต้องแคร์อีกแล้ว สำหรับท็อปบูตกับทักษิณคือการล้มอีกฝั่งให้ได้เท่านั้น ที่จะมีผลจากการตอบโต้ครั้งนี้ก็น่าจะเป็นความรู้สึกของมวลชนของแต่ละฝั่ง ที่วันนี้ชัดแล้ว “บิ๊กตู่” คือ ผู้นำของฝ่ายไม่เอาทักษิณ
และ “ทักษิณ” คือ ผู้นำของฝั่งไม่เอาทหาร มันจะกระทบไปถึงการพิจารณาว่า จะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ในการทำประชามติครั้งนี้
ประชาชนจะไม่มองที่ว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร แต่ฝ่ายรับจะรับเพราะรักชอบผู้นำทหาร รังเกียจระบอบทักษิณ กับฝ่ายไม่รับ จะคว่ำเพราะต้องการไล่รัฐบาลทหาร
ประชามติจะกลายเป็นการเลือกข้าง มีความชอบ กับไม่ชอบ มาเป็นปัจจัยสำคัญ !
อีกประเด็นที่น่าสนใจจากคำตอบโต้ของทักษิณ คือ การระบุว่า “บิ๊กตู่” ไม่เคยโทษตัวเอง ตรงนี้จะเป็นการเปิดแผลให้มีการขยายปมต่อ เพราะจะว่าไป วันนี้รัฐบาลเองก็ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีเลย มีเรื่องฉาวเข้ามาเรื่อยๆ โดยเฉพาะประเด็นที่เริ่มโดนย้อนศรว่า ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เขวี้ยงงูไม่พ้นคอตัวเอง
อย่างกรณี “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม แต่งตั้ง นายปฏิพันธ์ จันทร์โอชา เข้าเป็นทหารติดยศร้อยตรี ที่โดนคนนินทาหมาดูถูกว่าเป็นระบบอุปถัมภ์ขนานแท้ ได้อภิสิทธิ์เหนือลูกชาวบ้าน แม้ตามระเบียบจะสามารถกระทำได้ แต่ในแง่เรื่องธรรมาภิบาล และจริยธรรม มันก็ไม่เหมาะไม่ควร
เพราะวันนี้ ลุงแท้ๆ กำลังเป็นนายกฯ และพ่อบังเกิดเกล้า กำลังเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ถามว่าแล้วคนที่มีความรู้ความสามารถตรงสาย เหตุใดจึงไม่มีโอกาสนี้ มันก็ปฏิเสธลำบาก
หรืออีกกรณี ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มี “บิ๊กกุ้ย” พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ อดีตลูกน้องคนสนิท “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. กำลังตุปัดตุเป๋ พิจารณาจะถอนฟ้องคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 อยู่ ก็ตอกลิ่มสิ่งที่ทุกคนระแวงมาก่อนหน้านี้ว่า เหตุใด “บิ๊กกุ้ย”จึงเหยียบเมฆลอยลำได้เป็นหัวหน้างานปราบโกง แบบสบายใจเฉิบ
เรื่องนี้อย่างไรก็มิวายจะจับถูกโยงไปถึงรัฐบาล เพราะ “บิ๊กกุ้ย”ก็เป็นอดีตรองเลขาธินายกรัฐมนตรี ของ “บิ๊กป้อม” และ “บิ๊กป๊อด” ก็เป็นน้องสุดที่เลิฟของ“บิ๊กป้อม” ย่อมโดนค่อนแคะว่า เป็นรายการที่รู้เห็นเป็นใจ เตรียมการกันไว้แล้ว ตั้งแต่เอาอดีตรักษาราชการแทน ผบ.ตร. มาเป็นประธาน ป.ป.ช.หรือไม่
สุดท้ายมันจะเข้าตัวว่าก่อนหน้านี้ที่ร้องแรกแหกกระเชอว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร วันๆ หนึ่งหาเรื่องแต่จะช่วยพี่ชาย เดี๋ยวนิรโทษกรรม เดี๋ยวแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่วันนี้ “บิ๊กป้อม” เองก็กำลังทำในสิ่งเหล่านี้ หรือมันจะจริงอย่างที่พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ เคยพูดเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน ตอนน้องชายถูก ป.ป.ช.ชี้มูล และถูก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เด้งเข้ากรุว่า คนบ้านวงษ์สุวรรณ จะไม่ยอมให้ใครรังแก
เรื่องฉาวๆ เหล่านี้มันจะทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลเอง ความชอบธรรมจะค่อยๆ หายไปเรื่อยๆ แม้ตัว “บิ๊กตู่” จะรู้เห็นเป็นใจหรือไม่รู้ เพราะพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์เป็นคนจัดแจงเอง แต่คนที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ ก็คือตัวนายกฯ ที่จะด่ากลับทักษิณได้ไม่เต็มปากเต็มคำเหมือนกัน
ขณะที่เรื่องปฏิรูปวันนี้ก็ยังยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก ถูกกระทุ้งจากคนกันเองทุกวันว่า ไม่ได้ขยับไปไหน อยู่มาตั้ง 2 ปี แล้วจะขออีก 5 ปีไปเพื่ออะไร ผลงานเรื่องเศรษฐกิจไม่ต้องพูดถึง วันนี้ยังโงหัวไม่ขึ้นเลย แม้จะเปลี่ยนทีมใหม่แล้วก็ตาม แล้วยังมามีเรื่องฉาวๆ แบบนี้ให้ประชาชนส่ายหน้า
ไม่สร้างภูมิต้านทานแล้วยังทำลายเสียเอง ทักษิณ ยิ่งไล่บี้ง่ายขึ้นอีกโข!!
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. พยายามหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยชื่อ ได้แต่ขี่ม้าเลียบค่าย อ้อมไปอ้อมมา เพราะต้องรักษาภาพทหารเข้ามาห้ามมวย ไม่ใช่ขึ้นชกเสียเอง แต่วันนี้มาถึงจุดที่ต้องเอ่ยชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” กันออกอากาศแล้วว่า เป็นเบื้องหลังยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ แบบว่าไม่กั๊ก ไม่เก็บ ด่ากันซึ่งหน้าให้ได้ยินกันไปเลย
แต่จะว่าไป ก็ไม่มีอะไรตื่นเต้น เพราะเขารู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองมานานแล้ว
แม้แต่ตัว “บิ๊กตู่” เองก็เถอะ แต่ที่เลือกไม่พูดเพราะที่ผ่านมาเลือกพยายามติดตามความเคลื่อนไหวอย่างลับๆ มากกว่าว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร ไม่เอาออกมาโพนทะนาข้างนอก เรื่องนี้จึงไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่ที่น่าสนใจ คือ การออกมาสาวไส้ทักษิณออกไมค์ในช่วงนี้ มันสะท้อนชัดว่าขณะนี้มีเรื่องให้ผู้นำทหารปวดกบาล จนอยู่ในภาวะเครียด สังเกตหลายครั้งที่ผ่านมาเวลามีเรื่องอะไรมากวนใจ “บิ๊กตู่” มักจะเก็บอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ จะฟาดงวงฟาดงาออกมาเป็นประจำ
นั่นแสดงว่า การเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการที่ “เสี่ยไก่” วัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เล่นสงครามประสาท กรณีนักศึกษาออกมาลองของดาบอาญาสิทธิ์ หรือกรณีพรรคการเมืองวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญแบบชี้นำ มันทำให้ผู้นำเกิดอาการหวั่นไหวจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ด่ากราดทักษิณ แฉเลยว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์ ลดเครดิตประเทศ แถมยังขู่ถึงนักการเมืองที่มีชนักปักหลัง โดยเฉพาะคดีความต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาขององค์กรอิสระ
ขณะที่ทักษิณนั้นคาดการณ์ได้อยู่แล้วว่าต้องออกมาตอบโต้อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน เพราะโดยธรรมชาติก็ไม่ใช่พวกเก็บอารมณ์ได้เหมือน “บิ๊กตู่” ย้อนดูสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณก็เป็นจอมฟาดงวงฟาดงาคนหนึ่ง เหน็บแนม ประชดประชัน ด่ากราด พูดอะไรไม่ค่อยคิด อย่างวลี “โจรกระจอก” จนเกิดเรื่องเกิดราวในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้น ถ้าจะบอกว่า การออกมาด่ากลับแรงใส่ “บิ๊กตู่” เป็นเหมือนการเปิดศึก ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะเปิดมานานแล้ว ผ่านองคาพยพต่างๆ
อย่างตอนที่เจ้าหน้าที่เข้ายึดขันแดง ทักษิณก็ออกมาชยันโตทหารไปครั้งหนึ่ง ไม่ได้เก็บงำความรู้สึกอะไร เพราะประตูเจรจาผ่านตัวกลางในคอยดีล ล่มไปนานแล้ว อย่าง “เสี่ยไก่” ซึ่งรับรู้กันว่าที่ผ่านมาเป็นมือประสานกับฝ่ายอำนาจ ทุกวันนี้ก็โดนทหารจับเข้าไปปรับทัศนคติ ไม่มีประนีประนอมเกรงใจกัน
ขณะที่ร่างรัฐธรรมนูญก็ชัดว่า ต้องการบอนไซพรรคเพื่อไทยที่ผูกขาดการเลือกตั้ง ธงชัดมาเรื่อยๆ ว่าไม่ต้องการให้ตระกูลชินวัตร มีที่ยืนบนฟลอร์การเมืองหลังจากนี้
ไม่มีอะไรต้องแคร์อีกแล้ว สำหรับท็อปบูตกับทักษิณคือการล้มอีกฝั่งให้ได้เท่านั้น ที่จะมีผลจากการตอบโต้ครั้งนี้ก็น่าจะเป็นความรู้สึกของมวลชนของแต่ละฝั่ง ที่วันนี้ชัดแล้ว “บิ๊กตู่” คือ ผู้นำของฝ่ายไม่เอาทักษิณ
และ “ทักษิณ” คือ ผู้นำของฝั่งไม่เอาทหาร มันจะกระทบไปถึงการพิจารณาว่า จะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ในการทำประชามติครั้งนี้
ประชาชนจะไม่มองที่ว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร แต่ฝ่ายรับจะรับเพราะรักชอบผู้นำทหาร รังเกียจระบอบทักษิณ กับฝ่ายไม่รับ จะคว่ำเพราะต้องการไล่รัฐบาลทหาร
ประชามติจะกลายเป็นการเลือกข้าง มีความชอบ กับไม่ชอบ มาเป็นปัจจัยสำคัญ !
อีกประเด็นที่น่าสนใจจากคำตอบโต้ของทักษิณ คือ การระบุว่า “บิ๊กตู่” ไม่เคยโทษตัวเอง ตรงนี้จะเป็นการเปิดแผลให้มีการขยายปมต่อ เพราะจะว่าไป วันนี้รัฐบาลเองก็ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีเลย มีเรื่องฉาวเข้ามาเรื่อยๆ โดยเฉพาะประเด็นที่เริ่มโดนย้อนศรว่า ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เขวี้ยงงูไม่พ้นคอตัวเอง
อย่างกรณี “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม แต่งตั้ง นายปฏิพันธ์ จันทร์โอชา เข้าเป็นทหารติดยศร้อยตรี ที่โดนคนนินทาหมาดูถูกว่าเป็นระบบอุปถัมภ์ขนานแท้ ได้อภิสิทธิ์เหนือลูกชาวบ้าน แม้ตามระเบียบจะสามารถกระทำได้ แต่ในแง่เรื่องธรรมาภิบาล และจริยธรรม มันก็ไม่เหมาะไม่ควร
เพราะวันนี้ ลุงแท้ๆ กำลังเป็นนายกฯ และพ่อบังเกิดเกล้า กำลังเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ถามว่าแล้วคนที่มีความรู้ความสามารถตรงสาย เหตุใดจึงไม่มีโอกาสนี้ มันก็ปฏิเสธลำบาก
หรืออีกกรณี ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มี “บิ๊กกุ้ย” พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ อดีตลูกน้องคนสนิท “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. กำลังตุปัดตุเป๋ พิจารณาจะถอนฟ้องคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 อยู่ ก็ตอกลิ่มสิ่งที่ทุกคนระแวงมาก่อนหน้านี้ว่า เหตุใด “บิ๊กกุ้ย”จึงเหยียบเมฆลอยลำได้เป็นหัวหน้างานปราบโกง แบบสบายใจเฉิบ
เรื่องนี้อย่างไรก็มิวายจะจับถูกโยงไปถึงรัฐบาล เพราะ “บิ๊กกุ้ย”ก็เป็นอดีตรองเลขาธินายกรัฐมนตรี ของ “บิ๊กป้อม” และ “บิ๊กป๊อด” ก็เป็นน้องสุดที่เลิฟของ“บิ๊กป้อม” ย่อมโดนค่อนแคะว่า เป็นรายการที่รู้เห็นเป็นใจ เตรียมการกันไว้แล้ว ตั้งแต่เอาอดีตรักษาราชการแทน ผบ.ตร. มาเป็นประธาน ป.ป.ช.หรือไม่
สุดท้ายมันจะเข้าตัวว่าก่อนหน้านี้ที่ร้องแรกแหกกระเชอว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร วันๆ หนึ่งหาเรื่องแต่จะช่วยพี่ชาย เดี๋ยวนิรโทษกรรม เดี๋ยวแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่วันนี้ “บิ๊กป้อม” เองก็กำลังทำในสิ่งเหล่านี้ หรือมันจะจริงอย่างที่พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ เคยพูดเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน ตอนน้องชายถูก ป.ป.ช.ชี้มูล และถูก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เด้งเข้ากรุว่า คนบ้านวงษ์สุวรรณ จะไม่ยอมให้ใครรังแก
เรื่องฉาวๆ เหล่านี้มันจะทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลเอง ความชอบธรรมจะค่อยๆ หายไปเรื่อยๆ แม้ตัว “บิ๊กตู่” จะรู้เห็นเป็นใจหรือไม่รู้ เพราะพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์เป็นคนจัดแจงเอง แต่คนที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ ก็คือตัวนายกฯ ที่จะด่ากลับทักษิณได้ไม่เต็มปากเต็มคำเหมือนกัน
ขณะที่เรื่องปฏิรูปวันนี้ก็ยังยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก ถูกกระทุ้งจากคนกันเองทุกวันว่า ไม่ได้ขยับไปไหน อยู่มาตั้ง 2 ปี แล้วจะขออีก 5 ปีไปเพื่ออะไร ผลงานเรื่องเศรษฐกิจไม่ต้องพูดถึง วันนี้ยังโงหัวไม่ขึ้นเลย แม้จะเปลี่ยนทีมใหม่แล้วก็ตาม แล้วยังมามีเรื่องฉาวๆ แบบนี้ให้ประชาชนส่ายหน้า
ไม่สร้างภูมิต้านทานแล้วยังทำลายเสียเอง ทักษิณ ยิ่งไล่บี้ง่ายขึ้นอีกโข!!
