ศาลปกครองกลางไม่รับคำขออดีตเลขาฯ กกต.ขอระงับประกาศ กกต.ที่ให้พ้นตำแหน่ง เหตุยังไม่มีมูล แต่รับพิจารณาคำฟ้อง กกต.แล้ว และมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้
วันนี้ (20 เม.ย.) ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำขอกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาของนายภุชงค์ นุตราวงศ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ขอให้ศาลสั่งระงับประกาศ กกต.ลงวันที่ 8 ธ.ค. 2558 ที่ให้นายภุชงค์พ้นจากตำแหน่งไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา โดยศาลให้เหตุผลว่า การที่ศาลจะมีคำสั่งดังกล่าวได้นั้นจะต้องได้ความว่าคำฟ้องของนายภุชงค์มีมูล และมีเหตุเพียงพอที่จะนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราวตามที่ขอนั้นมาใช้ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ทั้งต้องคำถึงถึงความรับผิดชอบของหน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ และปัญหาอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้นแก่การบริหารงานของรัฐประกอบด้วย ซึ่งศาลได้ตรวจคำฟ้องแล้วเห็นว่า คำฟ้องมีมูลที่จะรับไว้พิจารณาพิพากษาได้ และได้มีคำสั่งรับฟ้องไว้พิจารณาแล้ว แต่จากข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง กกต.ได้ทำสัญญาเมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2555 ว่าจ้างนายภุชงค์ปฏิบัติงานตำแหน่งเลขาธิการ กกต. มีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. 2555 - 12 มี.ค. 2560 แต่ กกต.ได้มีประกาศลงวันที่ 8 ธ.ค. 2558 ให้นายภุชงค์พ้นจากตำแหน่งโดยอ้างว่าได้พิจารณาการประเมินผลการปฏิบัติงานของนายภุชงค์ประจำปี 2558 แล้วปรากฏว่าผลการประเมินมีระดับผลงานไม่บรรลุเป้าหมายจึงมีมติเลิกจ้างและให้นายภุชงค์พ้นจากตำแหน่งในวันเดียวกัน ซึ่งหากนายภุชงค์เห็นว่า กกต.บอกเลิกสัญญาจ้างไม่ชอบด้วยกฎหมายทำให้ตนเองได้รับความเสียหาย ก็มีสิทธิเรียกร้องให้ กกต.ชดใช้ค่าเสียหายจากกรณีดังกล่าวได้ จึงถือว่าไม่มีเหตุสมควรที่ศาลจะกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวสั่งระงับประกาศ กกต.ที่ให้นายภุชงค์พ้นจากตำแหน่งตามที่ขอ
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวนายภุชงค์ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สำนักงาน กกต. เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-2 ขอให้ศาลเพิกถอนประกาศ กกต.ที่ให้ตนเองพ้นจากตำแหน่ง และให้ กกต.ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 7,060,380 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี