“สุริยะใส” จี้ คสช.บอกทำอย่างไรหลังประชามติไม่ผ่าน ให้ชาวบ้านตัดสินง่ายขึ้น

รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต ชี้ ก่อนลงประชามติเริ่มเห็นสถานการณ์การเมืองชัด เห็นเจตจำนง คสช. ตามลำดับ จี้ ประกาศทำอย่างไรหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน ชาวบ้านจะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น เตือนคิดใช้เลือกตั้งเป็นตัวประกันไม่ดี ทำสังคมรู้สึกถูกเล่นการเมือง ไม่เห็นปฏิรูปจริงจัง ห่วงปัญหาเกิดใหม่มาเรื่อย ๆ

วันนี้ (10 เม.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต กล่าวว่า ตนเห็นว่าสถานการณ์การเมืองช่วงก่อนลงประชามติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้เราเห็นสภาพการณ์และแนวโน้มการเมืองได้ชัดขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะเจตจำนงทางการเมืองของ คสช. เริ่มปรากฏชัดขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่การผลักดันให้ ส.ว. มาจากการสรรหา 5 ปี ในร่างรัฐธรรมนูญ ต่อเนื่องมาถึงคำถามพ่วงประชามติของ สนช. ที่ให้ ส.ว. ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีได้ในวาระ 5 ปีแรก แต่จะชัดเจนมากกว่านี้ ถ้า คสช. จะประกาศให้ชัด หรือแก้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ว่า ถ้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชามติ และคำถามพ่วงไม่ผ่านประชามติ คสช. จะนำรัฐธรรมนูญฉบับใดมาใช้ และหรือกระบวนการได้มาของร่างรัฐธรรมนูญจะได้มาอย่างไร จะเอารัฐธรรมนูญฉบับใดเป็นตัวตั้งหรือร่างหลัก เพราะในขณะนี้ไม่มีใครรู้ว่าโหวตโนแล้วจะได้อะไรตามมา

“โพลหลายสำนักก็บอกว่า ประชาชนสนับสนุนคำถามพ่วง และ สปท. สนช. รวมทั้ง คสช. ก็ดูมั่นใจมาก ว่า ประชาชนจะสนับสนุน จึงน่าประกาศให้ชัดเจน หรือไปให้สุดทางกันเลย ไหน ๆ คสช. ก็มาไกลขนาดนี้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอำพรางอะไร ประชาชนก็จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น ไม่คลุมเครือไม่สับสน และรู้ด้วยตัวเองว่าโหวตแบบไหนแล้วจะได้อะไร” นายสุริยะใส กล่าว

นายสุริยะใส กล่าวว่า ถ้า คสช. จะประเมินแค่ว่าอย่างไรเสียประชามติก็ผ่าน เพราะนักการเมืองก็ไม่ค้านจริงจังและอยากเลือกตั้งนั้น วิธีคิดแบบนี้ไม่เป็นผลดีกับส่วนรวม และสังคมจะรู้สึกว่าเล่นการเมืองกันโดยเอารัฐธรรมนูญมาเป็นเกมการเมืองและสุดท้ายก็ไม่เห็นการปฏิรูปก่อนเลือกตั้งจริง ๆ จัง ๆ ถึงตอนนั้นแม้มีเลือกตั้งได้รัฐบาลใหม่ก็ใช่ว่าจะเป็นคำตอบอาจทำให้ปัญหาเดิม ๆ กลับมาอีก ช่วงเวลาก่อนจะมีการลงประชามติ คสช. จึงควรทำให้เกิดความชัดเจนมากกว่านี้ประชามติพ่วงแต่คำถาม แต่ไม่พ่วงคำตอบ จะเป็นประชามติที่พ่วงปัญหาเข้ามาไม่รู้จบ แล้วก็เกิดปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ