พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วยกับคำถามพ่วงประชามติที่ให้ ส.ว.ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี นั้น เชื่อว่า การรับได้ หรือรับไม่ได้ในคำถามพ่วงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ต้องถามคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะประชาธิปไตยต้องฟังเสียงคนทั้งประเทศ
ทั้งนี้ รัฐบาลจะช่วยสนับสนุนตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร้องขอมา เช่น เรื่องการชี้แจงทำความเข้าใจในสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญและประเด็นคำถามพ่วงว่ามีเนื้อหาสาระอย่างไร โดยสนับสนุนผ่านช่องทางการสื่อสาร เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลของร่างรัฐธรรมนูญ และความหมายของคำถามพ่วงประชามติ
ส่วนที่มีบางฝ่ายตั้งข้อกังวลว่าหากกระบวนการทำประชามติไม่เป็นธรรม จะก่อให้เกิดการคัดค้าน และเกิดความรุนแรงตามมานั้น พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า มันจะไม่เป็นธรรมในส่วนใด กกต. จะเป็นผู้ดำเนินการจัดเวทีต่าง ๆ ซึ่ง กกต.ย่อมรู้ว่าควรทำอย่างไรให้ครอบคลุม โดยมีหลายฝ่ายที่มีความคิดเห็นในทิศทางต่าง ๆ เข้ามาร่วมด้วย เพื่อให้ประชาชนรับฟังข้อมูลที่หลากหลาย ดังนั้น ด้วยหลักการและกระบวนการเหล่านี้ จึงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะเป็นไปตามที่หลายฝ่ายแสดงความกังวล ขณะเดียวกันการรณรงค์คัดค้านหรือสร้างความวุ่นวายในช่วงการทำประชามตินั้น ก็มีกฎหมายกำกับดูแลอยู่แล้ว ย้ำว่าทุกคนต้องเดินตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย จะเป็นฝ่ายใดก็แล้วแต่ หากออกนอกกฎหมายก็ต้องดำเนินการ ทั้งนี้กฎหมายมีบทลงโทษที่รุนแรงอยู่แล้ว
ทั้งนี้ รัฐบาลจะช่วยสนับสนุนตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร้องขอมา เช่น เรื่องการชี้แจงทำความเข้าใจในสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญและประเด็นคำถามพ่วงว่ามีเนื้อหาสาระอย่างไร โดยสนับสนุนผ่านช่องทางการสื่อสาร เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลของร่างรัฐธรรมนูญ และความหมายของคำถามพ่วงประชามติ
ส่วนที่มีบางฝ่ายตั้งข้อกังวลว่าหากกระบวนการทำประชามติไม่เป็นธรรม จะก่อให้เกิดการคัดค้าน และเกิดความรุนแรงตามมานั้น พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า มันจะไม่เป็นธรรมในส่วนใด กกต. จะเป็นผู้ดำเนินการจัดเวทีต่าง ๆ ซึ่ง กกต.ย่อมรู้ว่าควรทำอย่างไรให้ครอบคลุม โดยมีหลายฝ่ายที่มีความคิดเห็นในทิศทางต่าง ๆ เข้ามาร่วมด้วย เพื่อให้ประชาชนรับฟังข้อมูลที่หลากหลาย ดังนั้น ด้วยหลักการและกระบวนการเหล่านี้ จึงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะเป็นไปตามที่หลายฝ่ายแสดงความกังวล ขณะเดียวกันการรณรงค์คัดค้านหรือสร้างความวุ่นวายในช่วงการทำประชามตินั้น ก็มีกฎหมายกำกับดูแลอยู่แล้ว ย้ำว่าทุกคนต้องเดินตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย จะเป็นฝ่ายใดก็แล้วแต่ หากออกนอกกฎหมายก็ต้องดำเนินการ ทั้งนี้กฎหมายมีบทลงโทษที่รุนแรงอยู่แล้ว
