“ประวิตร” ยันประชามติผ่านไม่ผ่านก็มีเลือกตั้ง ชี้หลักสูตรอบรมคัดแต่คนคุยไม่รู้เรื่องเข้า

รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม บอกดีแล้ว “ชวลิต” เลิกแถลงข่าว แต่ยันไม่เคยพูดจะทำให้ข้าราชการเดือดร้อน เชื่อคิดไปเอง ยันถ้าประชามติผ่านไม่ผ่านก็มีเลือกตั้ง ระบุมีแผนแล้วไม่ต้องห่วง เผยหลักสูตรผู้นำชาติอย่างสร้างสรรค์คัดพวกที่พูดไม่รู้เรื่องไปอบรม 7 วันพร้อมเช็กผล คาดไม่ใช้ช่วงประชามติ ปัดละเมิดสิทธิมนุษยชน ขออย่าทำสิ่งที่ก่อให้เกิดความแตกแยก เผยไม่ฟัน “แม้ว” จ้อเพราะอยู่นอก

วันนี้ (4 เม.ย.) ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ยกเลิกการแถลงข่าวที่บ้านพักปิ่นประภาคมโดยให้เหตุผลอาจทำให้ข้าราชการในพื้นที่เดือดร้อนว่า คิดว่าดีแล้วที่ท่านยกเลิกการแถลงข่าว อีกทั้งตนไม่เคยพูดว่าจะทำให้ข้าราชการในพื้นที่เดือดร้อน ถ้าท่านคิดเช่นนั้นท่านก็คิดไปซึ่งคิดว่าดีเหมือนกันที่ท่านยกเลิกการแถลงข่าว เพราะท่านก็ออกมาพูดหลายครั้งแล้ว ขณะเดียวกันอะไรที่ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบก็อยากให้ช่วยกันทำ เพราะอีกไม่นานก็จะมีการเลือกตั้งแล้ว อีกทั้งร่างรัฐธรรมนูญก็จะเข้าสู่กระบวนการทำประชามติ เพราะฉะนั้นขอร้องอย่าไปพูดย้อนไปย้อนมา เพราะตอนนี้ประเทศกำลังเดินไปข้างหน้า ถ้าลงประชามติผ่านก็มีการเลือกตั้งแล้ว และถ้าลงประชามติไม่ผ่านก็ต้องมีการเลือกตั้ง ซึ่งขอย้ำว่าไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่านต้องมีการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า ทางรัฐบาลและ คสช.จะมีมาตรการรองรับอย่างไรหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “เรามีมาตรการรองรับไว้แล้ว ดังนั้นไม่ต้องห่วง เพราะ คสช.เขาระบุชัดแล้วว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2560 ส่วนแผนรองรับจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับ คสช.เป็นผู้ดำเนินการว่ารัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร เพื่อไปสู่กระบวนการเลือกตั้ง ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วง”

รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยังกล่าวถึงหลักสูตรอบรมผู้นำสร้างชาติอย่างสร้างสรรค์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ตอนนี้หากใครเข้าเกณฑ์รับการอบรมก็สามารถดำเนินการได้ทันที ซึ่งทางเลขาธิการคสช.เป็นผู้รับผิดชอบ โดยหลักสูตรดังกล่าวจะคัดเลือกคนที่เหมาะสม ไม่ใช่ไปคัดเลือกทุกคน หากใครที่แสดงความคิดเห็นแบบที่ไม่เจตนา และพูดกันรู้เรื่องก็ไม่ต้องเข้ารับอบรมตามหลักสูตรนี้ แต่ใครที่พูดไม่รู้เรื่องจะต้องเข้ารับการอบรม 7 วัน ส่วนหลักสูตรดังกล่าวเป็นมาตรการรองรับไม่ให้มีการแสดงความคิดเห็นในช่วงการลงประชามติต่อร่างรัฐธรรมนูญนี้หรือไม่นั้น ตนคิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะนักการเมืองก็รู้ๆ กันอยู่ ขณะเดียวกัน ระยะเวลา 7 วันที่อบรมจะมีผลออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องรอดูกันอีกที หากอบรมไม่ได้ผลขอยืนยันว่าจะไม่ขยายเวลาการอบรม เพราะใช้แค่นี้ก็โดนวิพากษ์วิจารณ์พอสมควรแล้ว และขอย้ำว่าหลักสูตรดังกล่าวไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน อีกทั้ง คสช.ไม่เคยไปละเมิดสิทธิมนุษยชนใคร

เมื่อถามว่า จากที่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเห็นด้วยกับการใช้หลักสูตรดังกล่าว ทำให้ คสช.มั่นใจว่าจะเดินหน้ามาตรการดังกล่าวหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่เป็นไร คงไม่ทำให้เสียหาย เมื่อถามว่า มาตรฐานการเข้ารับการอบรมระหว่างพลเรือนกับอดีตนายทหารจะแตกต่างกันหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทำอะไร อย่าไปสมมติ ถ้าเป็นคำถามเช่นนี้ตนขอไม่ตอบ

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีที่นักการเมือง จ.น่าน แจกขันแดงให้กับประชาชนว่า คิดว่าไม่มีอะไร สิ่งใดที่ทำให้เกิดความแตกแยกอย่างชัดเจนก็อย่าไปทำเลย ทั้งนี้การไปแจกขันแดงถือเป็นการเช็กคะแนนเสียงประชาชนหรือไม่นั้น ตนคิดว่าคงไม่ใช่ เพราะไม่สามารถทำได้

เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้ต้องคำพิพากษาศาลฎีกา ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์อินสตาแกรมกรณีที่มีการลงโทษคนการเมืองที่แจกขันก็สามารถมาเอาผิดต่อนายทักษิณ ได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกับคนที่อยู่ต่างประเทศ ทำแค่ในประเทศให้เรียบร้อยก็พอ