xs
xsm
sm
md
lg

มีอำนาจแต่ขาดคุณธรรม : บ่อเกิดแห่งอธรรม

เผยแพร่:   โดย: สามารถ มังสัง

“วโส อิสฺสริยํ โลเก อำนาจเป็นใหญ่ในโลก” นี่คือพุทธพจน์ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสเกี่ยวกับอำนาจ

โดยนัยแห่งพุทธพจน์บทนี้ เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า อำนาจคือความยิ่งใหญ่ในโลก

ดังนั้น อำนาจจึงเป็นที่ต้องการของปุถุชนคนมีกิเลส เนื่องจากเป็นเหตุดลบันดาลให้ประสบสิ่งที่ตนต้องการ ทั้งในทางที่ดีและไม่ดี ด้วยเหตุนี้ผู้มีอำนาจจึงต้องมีคุณธรรมกำกับการใช้อำนาจ คือปัญญาเพื่อให้รู้ว่า จะใช้อำนาจเมื่อใด ใช้กับใคร และใช้อย่างไรจึงจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและสังคมโดยรวม

ตามนัยแห่งวิชาปรัชญา อำนาจเกิดจากปัจจัย 3 ประการคือ

1. เกิดจากเงิน (Money Power) หมายถึงผู้มีเงินมากก็มีอำนาจ โดยการใช้เงินดลบันดาลให้เกิดสิ่งที่ตนเองต้องการได้ ทั้งในทางที่ดีและทางที่เลว

ส่วนว่าจะใช้ในทางใดนั้น ขึ้นอยู่กับมีและไม่มีคุณธรรม ถ้าผู้มีอำนาจขาดคุณธรรม ก็จะใช้อำนาจในทางที่เป็นอกุศล เช่น แสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบ เป็นต้น และการใช้อำนาจในทางที่ไม่ดี สุดท้ายอำนาจนั้นก็จะทำให้ประสบหายนะ ดังที่ปรากฏให้เห็นในโลกแห่งความเป็นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักการเมืองผู้ใช้อำนาจเงินเพื่อก้าวขึ้นสู่อำนาจรัฐ และสุดท้ายจบลงด้วยการเป็นทั้งจำเลยทางสังคม และจำเลยทางกฎหมายไร้แผ่นดินอยู่

2. เกิดจากตำแหน่งหน้าที่ (Authority Power) หมายถึงตำแหน่งหน้าที่ซึ่งมีอำนาจในการให้คุณ และให้โทษ ทั้งเอื้อประโยชน์ในการแสวงหาผลตอบแทน ทั้งที่เป็นตัวเงินและผลตอบแทนทางสังคม อันได้แก่ชื่อเสียง เป็นต้น

ดังนั้น อำนาจประเภทนี้ จึงเป็นที่ต้องการของปุถุชนคนมีกิเลส เพราะสามารถดลบันดาลให้ผู้มีอำนาจได้ทั้งชื่อเสียง และทรัพย์สินเงินทอง ทั้งในทางชอบธรรม และไม่ชอบธรรม ส่วนจะเป็นในทางใดนั้น ขึ้นอยู่กับการมีคุณธรรมและไม่มีคุณธรรมของผู้มีอำนาจนั้น

3. เกิดจากการอ้างอิง (Reference Power) หมายถึงการที่บุคคลซึ่งมีความรู้ ความสามารถ และมีคุณธรรมเป็นที่ยอมรับนับถือของคนทั่วไป จึงกลายเป็นที่อ้างอิงเพื่อให้เกิดความเชื่อถือ ในทำนองเดียวกันกับอ้างตำราหรือคัมภีร์

อำนาจอันเกิดจากปัจจัย 3 ประการนี้ ประการที่ 1 และประการที่ 2 เป็นอำนาจที่ก่อให้เกิดผล ทั้งในดีและทางเลว ส่วนประการที่ 3 ขึ้นอยู่กับภาวะของผู้ซึ่งเป็นที่อ้างอิงนั้น แต่ส่วนใหญ่มุ่งผลในทางดี

ดังนั้น ผู้ที่มีอำนาจในประการที่ 1 และประการที่ 2 จึงควรระวังการใช้อำนาจ ทั้งนี้เนื่องจากว่าในความเป็นจริง เงินซื้อทุกอย่างไม่ได้ เช่น เงินซื้อไม่ให้เจ็บไม่ให้แก่ และซื้อไม่ให้ตายไม่ได้ เนื่องจากว่าสิ่งเหล่านี้อยู่เหนืออำนาจเงิน จะเห็นได้จากการที่คนมีเงินมาก แต่ก็ยังประสบความทุกข์อันเกิดจากความแก่ ความเจ็บ และความตาย นี่เองคือเหตุให้เศรษฐีร้องไห้ และทุรนทุรายเพราะความทุกข์ที่ว่านี้ ทั้งยังเห็นความเศร้าโศกเสียใจในยามที่คนอันเป็นที่รักจากไป

ส่วนอำนาจอันเกิดจากการมีตำแหน่งหน้าที่ ก็ทำนองเดียวกันคือวันใดพ้นจากตำแหน่งอำนาจที่เคยมีก็หมด และวันที่ต้องพ้นจากตำแหน่งเกิดขึ้นแน่นอน จะด้วยพ้นเพราะหมดเทอม หรือพ้นเพราะเกษียณหรือพ้นด้วยเหตุอื่นๆ ก็ตาม เมื่อวันนั้นมาถึง อำนาจก็หมดและที่เป็นเช่นนี้ ก็ด้วยเหตุที่ว่า อำนาจอันเกิดจากเงิน และเกิดจากการมีตำแหน่งทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎแห่งอนิจจัง หรือความไม่เที่ยง และเป็นไปตามโลกธรรม 8 คือมีได้ เสื่อมได้ ไม่คงที่ เช่น มีลาภเสื่อมลาภ เป็นต้น

อีกประการหนึ่ง ที่ผู้มีอำนาจต้องสังวรก็คือ การเสพติดอำนาจและทำให้เกิดการหลงตัว เข้าทำนองที่โบราณบอกไว้ว่า หลงตัวลืมตาย หลงกายลืมแก่ เป็นต้น โดยมีตัวอย่างให้เห็นจากข่าวที่ว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ได้ออกมาให้ข่าวการจัดตั้งกองกำลังที่ 3 โดยอ้างว่ามีสมาชิกเกินกว่า 10 ล้านคน เพื่อนำมาขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาของประเทศ ได้อ่านข่าวนี้แล้วทำให้นึกถึงอาการหลงกายลืมแก่ของผู้เสพติดอำนาจ ไม่ยอมปล่อยวาง แม้ในวัยที่ควรปล่อยวาง เนื่องจากยังยึดติดอำนาจอยู่ นี่ก็คือความทุกข์อันเกิดจากความอยากดีอยากเป็น ทั้งๆ ที่โอกาสที่จะมี จะเป็นได้ล่วงเลยมาแล้ว แต่ก็ยังอยู่กับความหวังซึ่งมีอยู่น้อยหรือไม่มีเลย

ในเรื่องของการยึดอำนาจ แม้หมดอำนาจแล้วได้มีเรื่องเล่าขำขันเกี่ยวกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ได้เกษียณอายุราชการ และเช้าวันรุ่งขึ้นได้เขียนสั่งงานคนใช้ ในทำนองเดียวกันกับสั่งลูกน้องเช่นที่เคยทำทุกวัน เนื่องจากยังปล่อยวางไม่ได้ ทั้งๆ ที่ความมีและความเป็นเจ้านายได้จบลงแล้วตั้งแต่วันเกษียณ แต่ก็ยังทำใจยอมรับไม่ได้ นี่คือตัวอย่างคนที่ไม่ปล่อยวาง

โดยสรุป การมีอำนาจอันเกิดจากเงิน และเกิดจากตำแหน่ง สุดท้ายก็จะหมดอำนาจเมื่อปัจจัยแห่งการเกิด อำนาจคือเงิน และตำแหน่งหมดไป แต่ผลของการใช้อำนาจในทางที่ผิดหรือถูก ยังคงเป็นเรื่องที่อยู่ในความทรงจำของคนทุกคนที่ได้รับผลของการใช้อำนาจนั้น ทั้งในทางดีและทางเลว ดังนั้นทั้งเสียงสรรเสริญ และเสียงนินทาจะยังคงอยู่ตลอดไป

สุดท้ายขอจบด้วยกลอนบทนี้

วัวควาย ตายแล้ว เหลือเขาหนัง
คนดียัง เหลือดีไว้ ให้กล่าวขาน
คนชั่ว เหลือชั่วไว้ ให้ประจาน
ก่อนสิ้นปราณ จงทำ แต่กรรมดี
กำลังโหลดความคิดเห็น