“ประยุทธ์” ประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตฯ ย้ำปราบโกงภาครัฐจริงจังให้เกิดธรรมาภิบาล เร่งเคลียร์คดีคอร์รัปชันค้างเก่าให้จบโดยเร็ว โดยเฉพาะคดีที่เจ้าหน้าที่ ละเลยจนใกล้หมดอายุความ ขณะเดียวกัน เปิดแคมเปญแอมบาสเดอร์ต้านโกง นำ “เมสซี่ เจ-สิงโต นำโชค-สุชาติ เดอะวอยซ์” เป็นพรีเซ็นเตอร์
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (28 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ภายหลังการประชุม พล.อ.ชาตอุดม ติตถะสิริ เลขานุการ คตช. และนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ร่วมแถลงข่าว
นายประยงค์กล่าวว่า ในส่วนของ ศอตช.ที่ประชุมมีข้อสั่งการเพิ่มเติม คือ 1. นายกฯ ให้นโยบายการแก้ไขปัญหาการทุจริต โดยมุ่งเน้นธรรมาภิบาลภาครัฐอย่างจริงจัง ดังนั้น ถ้ามีข้อสงสัยเรื่องการกระทำที่ไม่อยู่ในกรอบธรรมาภิบาล หรือสงสัยว่ามีการทุจริต หรือตรวจพบให้แจ้งต้นสังกัดทันที เพื่อไปตรวจสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่ว่ามีการทำผิดวินัยหรือไม่ 2. มาตรการการใช้การปกครองทางวินัย จากการรวบรวมหนังสือร้องเรียนแต่ละกระทรวง เพื่อนำเรียนต่อที่ประชุม มีทั้งหมด 35 แห่ง จำนวนที่มีการรายงานเข้ามา 894 เรื่อง ดำเนินการทางปกครองและวินัยไปแล้ว 71 เรื่อง ยุติแล้ว 56 เรื่อง อยู่ระหว่างการดำเนินการ 755 เรื่อง และที่ยังไม่ได้ดำเนินการ 12 เรื่อง โดยนายกฯ มีข้อสั่งการให้ไปติดตาม ซึ่ง ศอตช.จะดำเนินการติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุผลอย่างจริงจัง และเป็นการใช้วินัยทางการปกครอง เป็นเครื่องมือกระตุ้นให้เกิดธรรมาภิบาลในภาครัฐ
3. เรื่องศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต (ศปท.) ซึ่งขาดกำลังคน ทำให้งานไม่บรรลุผลเป็นรูปธรรม นายกฯจึงสั่ง ศอตช.ไปศึกษาแนวทางการแก้ไข โดยหารือร่วมกับสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เรื่องการกำหนดรูปแบบและเสนอขึ้นมาโดยเร็ว 4. ความคืบหน้าการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียนจากนักลงทุนต่างชาติ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ป.ป.ท.ได้ประสานสถานทูตโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียนแล้ว 6 ประเทศ โดยทางสถานทูตมีความพึงพอใจในการแก้ไขปัญหาการทุจริต และมีการตกลงว่าต่อไปนี้ระดับเจ้าหน้าที่จะมีการประสานการทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว โดยนายกฯ ได้มอบหมายว่า ในกรณีที่มีเรื่องร้องเรียนขอให้รีบดำเนินการแก้ไขทันที และนำเรียนให้นายกฯ ทราบเป็นระยะ
5. สำหรับคดีการทุจริตที่ค้างคาอยู่จำนวนมาก นายกฯ ให้เร่งตรวจสอบว่าแต่ละคดีมีข้อเท็จจริงอย่างไร โดยเฉพาะคดีที่เจ้าหน้าที่ละเลย จนทำให้หมดอายุความ ขอให้ไปดูข้อเท็จจริงและรีบดำเนินการแก้ไข และ 6. ที่ประชุมวันนี้มีมติแต่งตั้งอนุกรรมการเพื่อติดตามมติและกระตุ้นการดำเนินงาน โดยอนุกรรมการจะมีตนในฐานะที่เป็นเลขาฯ ศอตช. และประกอบด้วย ผู้แทนยุทธศาสตร์ 4 ป. คตร. กรมประชาสัมพันธ์ และกรมสารนิเทศ ทำหน้าที่ติดตามการทำงานในภาพรวมทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการแก้ไขกฎหมาย วันนี้ (28 มี.ค.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ได้สั่งการในฐานะประธาน ศอ.ตช.ให้นัดประชุมเรื่องการแก้ไขกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ที่ประชุม คตช.ได้มีการเปิดตัวแคมเปญแอมบาสเดอร์ต้านโกง โดยคัดเลือกจากบุคคลที่เป็นผู้มีชื่อเสียง ทั้งนักกีฬา นางงาม ศิลปินนักร้อง เพื่อเป็นแบบอย่างให้แก่เยาวชน และสังคม ในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ประกอบด้วย นายนำโชค ทะนัดรัมย์ หรือสิงโต นำโชค นักร้องและนักดนตรีที่ขับร้องเพลง “คนอย่างนี้ก็มีด้วย” นายสุชาติ แซ่เห้ง หรือสุชาติ เดอะวอยซ์ ที่ขับร้องเพลง “บ้านของเรา” ซึ่งทั้งสองเพลง เป็นเพลงที่แต่งขึ้นใหม่เพื่อในการใช้ประชาสัมพันธ์โครงการ น.ส.อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ หรือน้องแนท มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2558 และ ส.ต.ต.ชนาธิป สรงกระสินธ์ หรือเมสซี่ เจ นักฟุตบอลทีมชาติไทย
โดย ส.ต.ต.ชนาทิปกล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นตัวอย่างให้แก่เยาวชน เราต้องเริ่มจากตัวพวกเรา ตัวพ่อ แม่ ทุกครอบครัวที่ต้องสั่งสอนลูก ถ้าผู้ใหญ่มีความเป็นผู้นำที่ดี เป็นตัวอย่างที่ดี เด็กก็จะทำตาม ตนก็จะเป็นส่วนหนึ่ง เป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กๆ ได้ทำตาม ตนไม่อยากเห็นคนโกงได้อยู่ในประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีคนโกงเยอะ ต่อไปนี้เราต้องร่วมมือกันไม่ให้มีการโกงเกิดขึ้น เพราะคงไม่มีใครชอบการโกง ขอให้ทุกคนช่วยกัน