xs
xsm
sm
md
lg

เฉพาะกาลรัฐธรรมนูญฉบับซือแป๋ “เฉพาะแป๊ะ” โดยเฉพาะ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สะเก็ดไฟ

คงจะลงล็อกกันได้สักที! หลังก่อนหน้านี้ขบเหลี่ยมกันนานสองนานระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในประเด็นบทเฉพาะกาล คานอำนาจการเมือง 5 ปี ว่าจะเอาอย่างไรกันแน่

เพราะนับจากตรงนี้อีกไม่กี่วันก็ครบเดดไลน์ 180 วัน เตรียมตัวเข้าสู่การทำประชามติ ไม่น่าจะมีใครอุตริเข้าไปเปลี่ยนแปลงเนื้อหาตอนเส้นยาแดงผ่าแปด ให้คนนินทาว่ายัดไส้ เหมือนตอนคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) อีก

ท่าที “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ที่เหมือนจะพออกพอใจแล้ว กับกลไกที่กรธ.ตอบสนองให้ แม้จะไม่ได้ครบทุกอย่าง แต่เป้าหมายหลักๆ อย่าง ส.ว.สรรหา 250 คน ก็มาตามนัด ผบ.เหล่าทัพเข้ามาโดยอัตโนมัติ 6 ตำแหน่งตามประสงค์ เอาไว้ข่มนักการเมืองในเวทีสภา แม้ กรธ.จะขอให้มี 50 คน มาจากการเลือกไขว้ที่เป็นสูตรใหม่ของ กรธ.เป็นการทดลอง แต่สุดท้ายทุกคนที่จะเข้ามาเป็นสภาสูงย่อมต้องฝ่าด่านการคัดเลือกของ คสช.อยู่ดี

ภาพรวมสิทธิ์เด็ดขาดยังให้ คสช. ซึ่ง กรธ.แค่ไม่ออกแบบตามตัวอักษรเป๊ะๆ เท่านั้น ที่ดูเหมือนจะมีการงัดง้างกัน น่าจะเป็นเรื่องของอำนาจ ส.ว. ที่ กรธ.กุดอำนาจไม่ให้ซักฟอก ซึ่งอาจจะขัดอกขัดใจแป๊ะอยู่บ้าง แต่ไม่ถือว่าหนักหนาสาหัสอะไร เพราะเป้าหมายสำคัญที่ต้องการให้ ส.ว.มีส่วนร่วมในการเปิดช่องให้มีนายกฯคนนอกนั้น คสช.สมใจอยากแล้ว

กระนั้นก็อย่าเพิ่งตายใจไป เพราะสิ่งที่ กรธ.เปิดเผยออกมาตอนนี้มันยังไม่ครบทุกลายลักษณ์อักษร บางทีอาจมีซ่อนเงื่อนซ่อนคำ เล่นลิ้นตามประสาพะยี่ห้อซือแป๋กฎหมายอย่าง มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.อีก เพราะที่เห็นออกมาตอนนี้จะว่าไปเขี้ยวเล็บยังไม่เยอะมากเท่าไหร่ แต่ถ้าหันไปดูจุดมุ่งหมายของ คสช.นั้น ชัดเจนว่าต้องการให้ ส.ว.เป็นพี่เบิ้มของรัฐสภา ชี้เป็นชี้ตายอนาคตประเทศได้

ทั้งนั้นทั้งนี้ สิ่งที่สะท้อนออกมาจากบทเฉพาะกาลดังกล่าว จะว่าไปมันถูกออกแบบมาเพื่อ คสช.เป็นเวลา 5 ปีโดยเฉพาะ เพราะองคาพยพทุกอย่างตามเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ มันคือการล็อกสเปกหน้าตาอำนาจฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติหลังการเลือกตั้งให้ออกมาในรูปที่แป๊ะอยากให้เป็น

ดังนั้น อย่าเรียกว่าประชาธิปไตยครึ่งใบเลย เพราะมันคือ แป๊ะธิปไตย

การเขียนเอาไว้แบบนี้ มันเป็นการบีบให้นายกฯ หลังการเลือกตั้ง ไม่ใช่คนในบัญชีรายชื่อของทุกพรรค แต่มาจากข้างนอก กลไกทุกอย่างที่เขียนเอาไว้ล้วนเป็นการปูทางรอ “นายกฯ คนนอก” โดยเจาะจง ตั้งแต่ระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมที่ไม่ให้พรรคใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ผูกขาดคะแนนอีกต่อไป จะเกลี่ยไปให้บรรดาพรรคเล็กพรรคน้อยอย่างสมน้ำสมเนื้อ

ประเภทที่พรรคเพื่อไทยจะชนะขาดแบบไม่เห็นฝุ่นจะไม่มีอีกแล้ว ซึ่งเมื่อชนะขาดไม่ได้ การจัดตั้งรัฐบาลในเวทีสภาผู้แทนราษฎรยิ่งยากเย็นขึ้น โดยเฉพาะเมื่อวันนี้พรรคขนาดกลางและพรรคขนาดเล็กที่เป็นตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคพลังชล ต่างมีกระแสว่าโดนเหล่าท็อปบูตกว้านไปอยู่ในคอนโทรลหมดแล้ว

หนำซ้ำยังมีสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคนที่พร้อมจะเล่นตามเกมของแป๊ะอีกด้วย โดยเฉพาะก๊ก กทม.ของเจ้าแม่วังทองหลาง “หญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่พยายามเปิดดีลคอนเนกชันกับ “บ้านวงษ์สุวรรณ” สร้างราคาให้ตัวเอง

แน่นอนเมื่อพรรคเพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เกมจะไหลไปเข้าทางพรรคอันดับสองอย่างพรรคประชาธิปัตย์ทันที แต่ปัญหาที่พรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผมยังลังเลกับสูตรนี้ คือ ถ้าเอาด้วยต้องทำใจกลืนเลือดลงคอว่านายกฯ จะไม่ได้มาจากคนของตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเหล่าท็อปบูตนั้นเข็ดแล้วกับการดันก้น “หล่อใหญ่” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่สุดท้ายเสียของ

นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมทุกวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ยังงอแงกับเรื่องนายกฯ คนนอกอยู่ นั่นเพราะรู้ว่าแม้ได้เป็นรัฐบาล แต่คงเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไม่มี นายกฯ คนนอกไม่ใช่คนของตัวเอง ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับท่าทีของ กปปส.ภายใต้การนำของ “ทิดเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ใครเป็นก็ได้ ขอแค่ไม่ใช่คนของ ทักษิณ ชินวัตร

จุดนี้ทำให้หลังการเลือกตั้ง ปัญหาเรื่องการเสนอชื่อนายกฯ ในเวทีสภาผู้แทนราษฎรจะหักเหลี่ยมเฉือนคมกันพอสมควร แม้แต่ละพรรคจะมีบัญชีรายชื่อนายกฯ ของตัวเองมาแล้วก็ตาม แต่บรรดาพรรคการเมืองจะเคลียร์กันไม่ลงตัว เพราะทั้งสองพรรคถูกบีบให้ต้องรับ “นายกฯ คนนอก” ถ้าจะยึดตามบัญชีรายชื่อตัวเองก็ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ เพราะบรรดาพรรคขนาดกลางและพรรคขนาดเล็กรับงานมาแล้วว่าจะเอาด้วยกับพรรคที่ยอมรับเงื่อนไขนี้ได้เท่านั้น

แล้วถ้าเจรจากันภายในแต่ยังไม่ได้ ที่สุดก็เข้าล็อกตามที่แป๊ะวางไว้ นั่นคือเสนอให้เปิดประชุมร่วมสองสภาระหว่างสภาผู้แทนราษฎรกับวุฒิสภาซึ่งมาจากการแต่งตั้งของ คสช. ซึ่งแน่นอนว่า ส.ว.ต้องร่วมโหวตเพื่ออนุญาตให้เสนอชื่อบุคคลที่อยู่นอกบัญชีรายชื่อพรรคการเมืองได้

ดังนั้น เชื่อหัวไอ้เรือง! นายกฯ คนนอกมาแน่แบเบอร์ แป๊ะยังไม่ไว้วางใจมากพอที่จะให้นักการเมืองมาเป็นนายกฯในช่วงเปลี่ยนผ่าน ส่วนจะชื่อ “บิ๊กตู่” หรือจะชื่อ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นไปได้ทั้งนั้น แม้กระทั่งคนที่ไม่ได้สวมชุดลายพรางก็มีโอกาส

เพราะถ้าชั่วโมงนั้นเศรษฐกิจย่ำแย่ ไม่เอื้อต่อการให้ท็อปบูตขึ้นมาบริหารประเทศ หวยอาจไปออกที่คนที่ได้รับการยอมรับในแวดวงธุรกิจก็เป็นได้ โดยเฉพาะในราย “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” หัวหน้าทีมเศรษฐกิจในปัจจุบัน ในขณะที่แก๊ง “3 ป.” ไปทำหน้าที่เป็นแบ็กอัพอยู่ข้างหลังแทน ทำเป็นเล่นไป ระยะหลังๆ มานี้ “สมคิด” พาเพื่อนนักธุรกิจเข้ามานั่งหารือในทำเนียบรัฐบาลบ่อยๆ ราวกับเป็นการฟอร์มทีมหรือแต่งตัวรอ เพราะ “สมคิด” เองก็ถือว่าได้รับความไว้วางใจจาก “บิ๊กป้อม” ไม่น้อย

ขณะที่ ส.ว.ลากตั้ง 250 คนนั้นไม่ต้องไปคิดให้เสียเวลา ให้จับตาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ชุดปัจจุบันนี่แหละ เมื่อมีการเลือกตั้งจะเปลี่ยนสถานะจาก สนช.มาเป็น ส.ว.เกือบค่อนสภากันทีเดียว ขณะที่ประธานสภาสูงก็ต้องเป็นคนที่ไว้วางใจที่จะให้คุมเกมในสภาได้เช่นกัน เพราะ ส.ว.ยุคเปลี่ยนผ่านมีอำนาจล้นฟ้า กำหนดชะตาการเมืองไทยกันได้เลย

เผลอๆ ไม่ต้องไปมองใครที่ไหน “พรเพชร วิชิตชลชัย” ประธาน สนช.คนปัจจุบัน ที่หากพ้น สนช.ก็ถือเป็นคนว่างงานเต็มตัว เพราะโดยธรรมชาติจะเอาท็อปบูตมานั่งนั้นคงไม่เหมาะแน่ เอาแค่คุมเกมอยู่ด้านล่างก็พอ

ถึงได้บอกว่า เฉพาะกาลนี้ เฉพาะแป๊ะโดยเฉพาะ!
กำลังโหลดความคิดเห็น