“สุวพันธุ์” ประชุม กขร.ติดตามการใช้งบประมาณ เตรียมขอคืนเงินที่เหลือมาบริหารจัดการใหม่ พร้อมเผยนายกฯ เห็นชอบปฏิรูประบบบริการประชาชนของตำรวจ ส่วนการปฎิรูปโครงสร้าง ก.ตร.ไม่คืบ ข้อเสนอ สปท.ยังไม่ถือเป็นข้อสรุป ต้องคุยนายกฯ ก่อน
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ 3/2559 ว่า เป็นการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีต้องการให้เร่งรัดการเบิกจ่าย หากสิ้นเดือน มี.ค.แล้วงบฯ ส่วนใดที่ยังไม่ได้ก่อหนี้ผูกพันจะขอคืนมาเพื่อบริหารจัดการใหม่ โดยสำนักงบประมาณรายงานว่าจนถึง 18 มี.ค.นี้การใช้จ่ายในภาพรวมเกินกว่าเป้าที่กำหนดไว้ เบิกจ่ายไปแล้วทั้งสิน 54.20 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่งบลงทุน 57 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าการเร่งรัดที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากราชการเป็นอย่างดี
ส่วนมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบลขณะนี้ก่อหนี้แล้วร้อยละ 85 นับว่าตำบลละ 5 ล้านบาทได้มีการเร่งรัดและเกิดผล ส่วนโครงการกองทุนขนาดเล็กร้อยละ 97 และกองทุนหมู่บ้านร้อยละ 72
นายสุวพันธุ์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินงานปฏิรูปของวิป 3 ฝ่ายว่า นายกฯ เห็นชอบให้มีการขับเคลื่อนการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะตำรวจในเรื่องการปรับปรุงระบบการให้บริการประชาชนผ่านการสอบสวน และการแจ้งความ ตนได้ลงนามในหนังสือแจ้งไปยังฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนการปฏิรูปแล้ว ทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และ ผบ.ตร.ได้ขับเคลื่อนต่อไป
ขณะเดียวกัน นายกฯ ยังเห็นชอบการขับเคลื่อนการปฏิรูปเศรษฐกิ ในการออกร่าง พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. ... ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะตรวจร่างกฎหมายดังกล่าวเสร็จสิ้นภายในเดือน มี.ค. และต้นเดือน เม.ย.จะเดินหน้าได้
นอกจากนี้ ที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายมีมติให้มีการขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านพลังงาน เรื่องการใช้ประโยชน์ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยส่วนใหญ่ สปท.และกระทรวงพลังงานเห็นตรงกัน ส่วนประเด็นที่ยังไม่เห็นตรงกันเช่น เพดานกองทุนว่าควรมีหรือไม่ แต่เชื่อว่าปัญหาเหล่านี้จะหารือกันได้ จากนั้นจะนำเรียนนายกฯเพื่อขอความเห็นชอบ และส่งเรื่องไปยังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เร่งรัดขับเคลื่อนต่อไป
นายสุวพันธุ์กล่าวว่า สำหรับการปฏิรูปโครงสร้างคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่ สปท.เสนอมานั้น ยังไม่ถือเป็นข้อสรุป เพราะต้องดูในส่วนของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) เช่นกัน ซึ่งเรื่องปฏิรูปตำรวจอาจต้องหารือกับนายกฯ อีกรอบ เพื่อจะนำแผนปฏิรูปตำรวจของแต่ละฝ่ายมาดูในภาพรวมทั้งหมด
