xs
xsm
sm
md
lg

“ประวิตร” ถก GBC เขมร รับชายแดนสงบ เข้มหลบหนีคดี รอความชัดเจนพระวิหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม(แฟ้มภาพ)
“บิ๊กป้อม” แถลงร่วม “เตีย บัญ” ประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ยินดีครบรอบสัมพันธ์การทูต 65 ปี ซาบซึ้งพระมหากุรณาธิคุณ “สมเด็จพระเทพฯ” เรื่องสาธารณสุข-การศึกษา เผยปฏิบัติหน้าที่ชายแดนตามที่กำหนด ทำให้เกิดความสงบ ไม่มีมาตรการเพิ่ม เข้มพรมแดนที่เป็นช่องหลบหนีคดี ยังไม่คุยเรื่องพระวิหาร รอความชัดเจน ย้ำสัมพันธ์ยังดี เขมรยันไม่ปิดกั้นนักท่องเที่ยวเยี่ยมชม

วันนี้ (24 มี.ค.) ที่โรงแรมคอนราด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม และ พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังเป็นประธานร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 11 และยังเป็นครบรอบในโอกาสสถานปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 65 ปี โดยกระทรวงกลาโหมไทยเป็นเจ้าภาพ โดยมี พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผบ.เหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมประชุม

โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ในที่ประชุมได้แสดงความยินดีที่เราครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 65 ปี พร้อมกันนี้ได้แสดงความซาบซึ้งในพระมหากุรณาธิคุณ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระกรุณาให้การสนับสนุนความร่วมมือด้วยสาธารณสุขและพัฒนาการศึกษาระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้รับทราบถึงความก้าวหน้าความร่วมมือพื้นที่ชายแดนและทบทวนผลความร่วมมือต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายจากการประชุมจีบีซีครั้งที่ 10 ที่ผ่านมา

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ที่ประชุมสรุปว่าที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนและตามแนวทางมาตรการต่างๆ ที่กำหนดไว้ในบันทึกการประชุมครั้งที่ผ่านมาทุกประการ ส่งผลให้พื้นที่ตามแนวชายแดนทั้งสองประเทศมีความสงบสุข มีความมั่นคง และรับการพัฒนาร่วมกัน อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น สำหรับการประชุมจีบีซีครั้งที่ 12 ทางกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพ

เมื่อถามว่าความร่วมมือในการดูแลตามแนวชายแดนมีมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มีมาตรการเพิ่มเติม แต่เราได้ใช้ทุกมาตรการที่มีอยู่ร่วมมือกัน เช่น การดูแลปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง ยาเสพติด การสัญจรระหว่างประเทศ การค้าขายตามแนวชายแดน เราทำทุกอย่างให้เกิดความสงบ และเกิดความร่วมมือระหว่างประเทศ เราดำเนินการทุกเรื่อง

พล.อ.ประวิตรกล่าวอีกว่า ในส่วนการดูแลที่เป็นพรมแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติที่หลบหนีของนักโทษคดีการเมืองและอาญานั้น ถือว่าเป็นช่องทางที่หลบหนีได้ตลอดเวลา แต่ทั้งสองประเทศได้เข้มงวดโดยให้กองกำลังทั้งสองฝ่ายเพิ่มความกวดขัน เมื่อทางกัมพูชาจับได้และพบว่าเป็นนักโทษหนีคดีก็ส่งตัวให้ประเทศไทย เช่น กรณีมือระเบิดแยกราชประสงค์ เป็นต้น

พล.อ.ประวิตรกล่าวอีกว่า ส่วนการพัฒนาพื้นที่รอบเขาพระวิหารร่วมกันนั้น ยังไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ ต้องรอให้ทุกอย่างเกิดความชัดเจนก่อน ยืนยันว่าขณะนี้เรามีความสัมพันธ์ที่ดี และต่อไปจะพูดคุยต่อไปเรื่อยๆ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือของสองประเทศต่อไป

ขณะที่ พล.อ.เตีย บัญ กล่าวว่า ทางกัมพูชาไม่ได้ปิดกั้น และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมประสาทพระวิหาร ขณะนี้ทางกัมพูชาได้ดำเนินการตามรูปแบบที่กำหนดไว้ สำหรับช่องทางที่จะขึ้นไปนั้นเราได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ในส่วนช่องทางที่นักท่องเที่ยวเคยใช้ในช่องทางตรงจากฝั่งไทยไปยังปราสาทพระวิหารขณะนี้กำลังพูดคุยเพื้อหาข้อยุติร่วมกัน ส่วนช่องทางผามออีแดงทั่งสองฝ่ายกำลังพูดคุยกันและยังไม่ได้ข้อยุติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับในที่ประชุมได้แสดงความยินดีในโอกาสครบรอบ 65 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กัมพูชา และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงให้การสนับสนุนความร่วมมือด้านสาธารณสุข และพัฒนาด้านการศึกษาระหว่างไทย-กัมพูชา โดยทรงขยายเวลาความช่วยเหลือในการควบคุมโรคมาลาเรีย ไข้เลือดออก และโรคอื่นๆ ที่มียุงเป็นพาหะ รวมทั้งยังทรงสนับสนุนการจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีกำปงสปือ เพื่อเป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาด้านปศุสัตว์การเกษตรให้แก่เยาวชนกัมพูชา และได้เสด็จพระราชดำเนินวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559

อย่างไรก็ตาม การประชุม GBC ไทย-กัมพูชาครั้งนี้เป็นไปตามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือชายแดนไทย-กัมพูชา โดยทั้งสองฝ่ายจะได้พิจารณาทบทวนผลการดำเนินงานโครงการความร่วมมือต่างๆ เช่น จุดผ่านแดนและการสัญจรข้ามแดน ความร่วมมือด้านแรงงาน การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน ความร่วมมือด้านการเกษตร สาธารณสุข รวมทั้งความร่วมมือด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต การศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพและหน่วยงานความมั่นคงไทย-กัมพูชามากขึ้น ยังส่งผลต่อพัฒนาการความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและประชาชน ทั้งสองประเทศ ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งความสงบสุข ความมั่นคง การค้า การลงทุน และการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ร่วมกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น