“ประยุทธ์” ย้ำไม่คิดลัดขั้นตอน EIA - EHIA แค่ทำคู่ขนานกัน บ่นทำคนเสียประโยชน์เลยโดนบิดเบือน ขอประชาชนอย่าตกเป็นเครื่องมือของใคร ลั่นถ้าอยากสืบทอดอำนาจแค่ไม่จัดเลือกตั้งก็จบ ฟุ้งต่างชาติยอมรับไทย 90% ขาดแค่การเลือกตั้ง ระบุสำรวจนิตยสารหัวนอกยกไทยเจ๋งทุกด้าน เบอร์ 1 เอเชีย สวมบท “ติ่งเกาหลี” ดันซีรีย์ “จุงกิ” ไม่เลิก บอกคนไทยต้องดู
วันนี้ (18 มี.ค.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยตอนหนึ่งถึงคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 9/2559 ที่อนุญาตให้เปิดประมูลโครงการต่าง ๆ ที่ยังไม่ผ่านการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (EHIA) ได้ ว่า เป็นหนึ่งในมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล และ คสช. ที่ต้องการปลดล็อกเงื่อนเวลาที่เป็นอุปสรรคในการเดินหน้าโครงการต่าง ๆ ของประเทศ หลายโครงการล่าช้า 5 ปี 10 ปีมาแล้ว จนต้องยกเลิกและสร้างความเดือดร้อน เพราะความไม่เข้าใจ และความขัดแย้งของประชาชน คำสั่งที่ออกมาก็เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เร็วขึ้น โดยไม่ได้ละเลยสุขภาพอนามัยประชาชน หรือผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด
“ไม่ใช่ว่าเรายกเลิกการศึกษาผลกระทบ EIA หรือ EHIA เพียงแต่เราไม่ต้องรอผลพวกนั้น แต่เราสามารถจะเริ่มต้นทำโครงการ เริ่มหาผู้ร่วมลงทุน การร่าง TOR ไว้ก่อน สัญญาจ้างรอไว้ ใครสนใจก็เข้ามา ห้ามเซ็นสัญญาโดยเด็ดขาด จนกว่าจะผ่าน EIA หรือ EHIA เป็นการทำคู่ขนานกันไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาล และ คสช. กำลังแก้ปัญหาในทุกๆด้าน ซึ่งที่ผ่านมาเป็นสิบ ๆ ปี ไม่ได้รับการแก้ไข เรื่องไหนสำคัญกว่าก็ทำก่อน เรื่องไหนที่สำคัญน้อยกว่าก็ทำคู่ขนานกันไป หลายเรื่องผู้บริหารประเทศมีการโยนความผิดให้ข้าราชการ ทั้งที่ผู้บริหารต้องบริหารด้วยธรรมาภิบาล อย่าอ้างแต่ประชาธิปไตย อ้างแต่ประชาชน อ้างสิทธิมนุษยชน แล้วก็ไม่รับผิดชอบใด ๆ ที่ผ่านมาโครงการที่ออกมา ส่วนใหญ่ก็มีผลประโยชน์ ไม่มีการวางโครงสร้างชัดเจน วันนี้ตนทำทุกอย่าง เพื่อจะวางรากฐานของประเทศให้เข้มแข็ง รับฟังความเห็นข้าราชการ เชื่อว่าข้าราชการมีกำลังใจในการที่จะทำงานกับตน เราไม่อยากให้ความผิดไปตกอยู่กับข้าราชการอีกต่อไป ต้องแก้ไขและอย่าไปเคยชินกับการใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง
“วันนี้ คสช. เข้ามาก็มีผู้เสียประโยชน์ ที่เคยมี เคยได้ เรียกร้องมา บิดเบือนกันไป ข้อเท็จจริง ก็เลยถูกบิดเบือนทั้งหมด ขอให้ประชาชนช่วยกัน อย่าตกเป็นเครื่องมือของใครอีกต่อไป” หัวหน้า คสช.กล่าว
นายกฯกล่าวถึงข้อวิพากษ์วิจารณ์จากบางฝ่าย ที่ระบุว่า คสช. ต้องการสอบทอดอำนาจด้วยว่า ขอตำหนิผู้ที่พูดเรื่องที่ไม่จริง บิดเบือน ไปพูดให้กับคนที่ทำผิดกฎหมาย กำลังพิจารณากฎหมายมาเอาผิดฐานสนับสนุนการกระทำความผิด จึงอยากขอให้ระมัดระวังอาจจะต้องถูกดำเนินคดี และอยากให้พิจารณาข้อเท็จจริงว่า หากรัฐบาล และ คสช. ต้องการอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด ก็ไม่จะต้องให้มีการเลือกตั้ง อยู่ในอำนาจต่อไป วันนี้ตนก็มีอำนาจเต็มอยู่แล้ว ซึ่งเท่าที่พูดคุยต่างประเทศก็ถามถึงแค่การเลือกตั้งเท่านั้นเอง แต่นักการเมืองขยายความทุกเรื่อง แล้วก็เน้นเรื่องไม่เป็นประชาธิปไตย สืบทอดอำนาจ
“ขอให้ทุกอย่างเดินหน้าไปให้ได้ วันนี้ต่างประเทศมองเรา 90% แล้ว ด้วยความเชื่อมั่นในผม ในรัฐบาล แต่ก็มีอย่างเดียวก็คือการเลือกตั้ง ก็ขอให้รัฐบาล คสช. รักษาสถานการณ์ ให้สงบ ปลอดภัย ทุกประเทศคาดหวังอย่างนั้น มีเสถียรภาพแบบนี้ตลอดไปคนจะรับรองต่อจากผมก็คือรัฐบาลต่อไป เพราะฉะนั้นกรุณาทำความเข้าใจในเรื่องของรัฐธรรมนูญ ประชามติ เลือกตั้ง ปฏิรูป ยุทธศาสตร์ชาติ แผนสภาพัฒน์ฯ นโยบายความมั่นคงว่าควรจะต้องทำอะไรต่อไป ให้เชื่อมโยงและอธิบายให้ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า มีการประเมินและจัดลำดับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งชี้วัดความก้าวหน้าในการทำงานของรัฐบาล เกือบ 2 ปีที่ผ่านในสายตาชาวต่างชาติ ล่าสุด นิตยสาร U.S. News & World Report ได้จัดอันดับ ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 21 จาก 60 ประเทศที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2559 ด้วยการเก็บข้อมูลจาก 16,000คนทั่วโลก ที่สำคัญเราได้เป็น 1 ใน 10 อันดับแรกใน 4 หมวดจากทั้งหมด 9 หมวด ได้แก่ อันดับ 4 ในหมวดการขับเคลื่อน อันดับ 4 ในหมวดการผจญภัย ที่วัดจากความสุข ความสะดวกสบาย ความเป็นมิตร เป็นเมืองแห่งรอยยิ้ม และมีแหล่งท่องเที่ยว ธรรมชาติ ทัศนียภาพดึงดูดใจชาวต่างชาติ อันดับ 8 ในหมวดมรดกของชาติ และอะนดับ 10 ในหมวดความเปิดกว้างในการทำธุรกิจ เหมาะแก่การลงทุน นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายหน่วยงาน - องค์กร ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ได้ประเมินประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 1 - 10 ของโลกในหลาย ๆ ด้าน เช่น ปี 58 กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ชาวต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยว เป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากกรุงลอนดอน และเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย เช่นเดียวกับด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ - สิ่งทอ - อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่เราเป็นผู้ผลิตอันดับ 1 ใน 10 ของโลกด้วย
หัวหน้า คสช. กล่าวอีกว่า สิ่งที่รัฐบาลและ คสช. อยากเห็นก่อนมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง คือ การเริ่มต้นวางพื้นฐานในประเด็นกิจการที่สำคัญนะครับ ระยะแรกคือในปีงบประมาณ 59-60ให้ได้ เช่นในเรื่องของการศึกษา การวิจัยพัฒนา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่เป็นรูปธรรม การปฏิรูประบบราชการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ เป็นธรรม ไม่มีสองมาตรฐาน ปรับโครงสร้างการบริหารงาน ปฏิรูปหน่วยงานตนเองจากภายใน ไปสู่ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน รวมไปถึงการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ รายได้ประเทศกับโครงสร้างการเกษตร ให้เชื่อมโยงกันทั้งหมด
พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวย้ำอีกถึง ภาพยนตร์ซี่รี่ย์เกาหลีชื่อ เดรสสิเดน ออฟ เดอะ ซัน (Descendants of the Sun) ด้วยว่า ที่ได้ติดตามเนื่องจากประทับใจการเขียนบท และเนื้อหาของเรื่องที่มีความทันสมัย เกี่ยวกับความรักแต่อยู่ในกรอบประเพณี ไม่ต้องเปลืองตัวอย่างที่เห็นเหมือนทุกวันนี้ รวมทั้งการนำดารายอดนิยมมาร่วมแสดง สอดแทรกไปด้วยความมีจรรยาบรรณในวิชาชีพของแต่ละคน ผู้ชายเป็นทหาร ผู้หญิงเป็นหมอ แล้วต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ถึงจะรักกัน แต่ไม่ไปก้าวก่ายงานของแต่ละคน จึงอยากลองไปดูกัน
“ผมไม่ได้ไปชื่นชมมอะไรเขาเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพียงแต่ผมอยากให้ท่านดู แล้วคิดดูซิว่า ทำไมเขาคิดอย่างนี้ได้ ทำไม่เราคิดอย่างนี้ไม่ได้ เราก็คิดแต่เพียงว่า ตีกันซักหน่อย สองครอบครัวตีกัน แย่งเงิน ทรัพย์สิน เจ้าของบ้าน ทะเลาะกับทายาท มรดก พินัยกรรม กว่าจะจบก็ต้องมีใครตาย ร้องห่มร้องไห้กัน น้ำตาเป็นเผาเต่า ผมว่าไม่ใช่ คือดูหนังดูละคร เขาทำให้มีความสุข อย่าไปอินมากขนาดนั้น มันไม่ใช่เรื่องจริง เรื่องนิยาย นิยายที่จะต้องสอดคล้องกับความเป็นจริง” นายกฯระบุ
คำต่อคำ : รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” วันที่ 18 มีนาคม 2559
สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน วันที่ 22 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันอนุรักษ์น้ำโลก ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในความท้าทายของโลกในปัจจุบัน เพื่อจะได้สร้างความตระหนักรู้ร่วมกัน ถึงการใช้ทรัพยากรน้ำของมนุษย์อย่างประหยัดและยั่งยืนนะครับ ทั้งโลกขณะนี้มีความกังวลในสถานการณ์น้ำในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลแหล่งน้ำ ผืนป่าต้นน้ำ การเข้าถึงแหล่งน้ำธรรมชาติ น้ำใต้ดิน แหล่งน้ำสะอาด การปนเปื้อนแหล่งน้ำจากสารเคมี โรงงานอุตสาหกรรม ขยะมูลฝอย การขับถ่ายของเสียเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในขณะนี้ ซึ่งล้วนมีผลกระทบเชื่อมโยงต่อภาคการผลิตทั้งเกษตรกรรม และอุตสาหกรรม โดยเฉพาะน้ำกินน้ำใช้ ที่สำคัญที่สุดต่อชีวิตประจำวันของสิ่งมีชีวิตทั้งมนุษย์ สัตว์ และพืช
เพราะฉะนั้นผมอยากให้นึกถึงนะครับ ปวงชนชาวไทยเราโชคดีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีสายพระเนตรอันยาวไกล ทรงเป็นห่วงเป็นใยดูแลพสกนิกรชาวไทย และประเทศไทย ที่เราเป็นประเทศเกษตรกรรมเสมอมา ดังพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ใจความตอนหนึ่ง สรุปได้ว่า พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ พระราชินีจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ และพระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ พระราชินีจะสร้างป่าต้องนึกถึงคำเหล่านี้ ที่ทรงพระราชทานไว้ ซึ่งเป็นที่มาของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และพระราชกรณียกิจนานัปการของล้นเกล้าล้นกระหม่อมของปวงชนชาวไทย ทั้ง 2 พระองค์ เช่น โครงการฝนหลวง โครงการแก้มลิง โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนคลองท่าด่าน เขื่อนขุนด่านปราการชล โครงการป่ารักน้ำ ฝายขนาดเล็ก ซึ่งในวันนี้เราเรียกว่า ฝายประชารัฐ โครงการน้ำดีไล่น้ำเสีย การบำบัดน้ำเสียด้วยผักตบชวา กังหันน้ำชัยพัฒนา โครงการปลูกป่า อนุรักษ์ป่า โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ โครงการอนุรักษ์พันธุ์พืชและสัตว์ป่า โครงการธนาคารอาหารชุมชน เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ทรงพระราชทานไว้แล้ว
วันนี้เราต้องร่วมกันแสดงความรับผิดชอบปลูกจิตสำนึกว่า นอกจากการอนุรักษ์น้ำ ด้วยการประหยัด และใช้น้ำอย่างคุ้มค่าแล้ว เราคงต้องรักษาความสะอาดแหล่งน้ำไว้ด้วย โดยไม่ทิ้งขยะ สิ่งปฏิกูล สารพิษลงสู่แม่น้ำลำธาร รวมทั้งช่วยกันปลูกป่ารักษาต้นน้ำลำธาร ไว้ให้ลูกหลาน สร้างความยั่งยืนให้กับชนรุ่นหลังด้วย ในส่วนของรัฐบาลได้มีการปฏิรูปแนวทางบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการทั้งระบบ จัดทำยุทธศาสตร์ 10 ปี และทำไปเรื่อย ๆ ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ไม่ได้ผูกพันงบประมาณไว้ทั้งหมดเช่นที่ผ่านมา เราจะขยายผลจากแนวทางของทั้ง 2 พระองค์ ทรงพระราชทานไว้ จะให้ครอบคลุม 1. การฟื้นฟูป่าต้นน้ำ 2. การแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค ในเรื่องของการจัดทำประปาหมู่บ้าน โรงเรียนต่าง ๆ ชุมชน ชนบท ให้ครบ
3. การแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำภาคการผลิต ด้วยการพัฒนาแหล่งน้ำ น้ำบาดาล สระน้ำชุมชน ฝายประชารัฐ
4. การป้องกันอุทกภัยด้วยการฟื้นฟูทางน้ำ ขุดลอกคูคลอง การจัดทำผังเมืองที่สอดคล้อง โดยไม่สร้างถนนให้ขวางทางน้ำ หรือสร้างชุมชนใหม่ขวางทางน้ำเหล่านั้น
5. การจัดการคุณภาพน้ำ แม่น้ำลำธาร และการบริหารจัดการเพื่อรักระบบนิเวศ ผลักดันน้ำเค็ม
6. การบริหารจัดการน้ำ ทั้งนอก และในเขตชลประทาน ด้วยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วย อย่างไรก็ตาม ทรัพยากรน้ำนั้นมีอยู่อย่างจำกัด น้ำต้นทุนจำกัด จำนวนประชากรเราเพิ่มขึ้นทุกปี การปลูกพืชต่างๆ นั้นใช้น้ำมากขึ้นทุกปี แล้วก็ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลเข้าไปอีก ประกอบกับภาวะโลกร้อนด้วย ทำให้เกิดภัยทางธรรมชาติที่รุนแรง ทั้งน้ำท่วมและภัยแล้ง เชื่อมโยงกับวงจรน้ำของประเทศและของโลกทั้งสิ้น
7. การบริหารจัดการที่ดินแบบบูรณาการ ที่เราทำในรัฐบาลนี้ เพื่อให้ประชาชนผู้ยากไร้ ได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินอย่างมีความเท่าเทียมและเป็นธรรม เป็นการแก้ไขการบุกรุกป่าได้อย่างยั่งยืน เรากำลังเร่งปรับแผนให้สอดคล้องกับวันนี้ ซึ่งแล้งมากขึ้น และพี่น้องเกษตรกรเดือดร้อนเข้าไปอีก
ฉะนั้น เราได้มีการประมาณการไว้ล่วงหน้าแล้ว 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลนี้ก็ชี้แจงมาโดยตลอด และแจ้งเตือนไว้ล่วงหน้าแล้ว ขอให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจว่า ทำอย่างไรเราจะทำให้บ้านของเรา เมืองของเรา ประชาชนของเรามีน้ำไว้ใช้มากขึ้นในวันนี้มันอาจจะเป็นไปได้ยากนะครับ เพราะว่าทุกคนทราบดีว่า น้ำต้นทุนมีน้อย ป่าเราถูกบุกรุกมาก ป่าต้นน้ำก็น้อยลงฝนตกน้อย แหล่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ กลาง เล็ก เพื่อการเก็บกักน้ำฤดูฝนที่ผ่านมามีไม่เพียงพอ ซึ่งต่อเนื่องมาจากก่อน ๆ หน้านั้น ระบบส่งน้ำบางส่วนที่ทำกันมายังไม่ตรงกับพื้นที่ที่ต้องการใช้น้ำ ไม่มีการจัดระเบียบพื้นที่ใช้น้ำ
เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องหามาตรการลดความเสี่ยงในวันข้างหน้า โดยร่วมมือกันในเรื่องต่อไปนี้นะครับ 1. ประชาชน เกษตรกรต้องร่วมมือกันทั้งการใช้น้ำอุปโภค - บริโภค ในภาคการผลิตทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการรักษาระบบนิเวศ โดยเราต้องให้ความสำคัญเร่งด่วนกับน้ำกินน้ำใช้ไว้ก่อนนะครับ ต้องรักษาไว้ให้ได้ถึงฤดูฝนหน้า ดังนั้น ภาคการเกษตรต้องปรับพฤติกรรมในการปลูกพืช เช่น การปลูกพืชใช้น้ำน้อย แต่มีมูลค่าผลผลิตสูงทดแทนการปลูกแบบเดิม
2. การเร่งขุดลอกคูคลอง สร้างแก้มลิง ฝายประชารัฐ สำหรับเก็บน้ำไว้ใช้ให้กระจายทุกพื้นที่รอรับน้ำฝนฤดูฝนหน้า
3. การปฏิรูประบบเศรษฐกิจ และรายได้ของประเทศใหม่ทั้งหมด โดยปรับสัดส่วนรายได้ไม่ให้มาจากการส่งออกทางภาคเกษตรแต่เพียงอย่างเดียว หรืออื่น ๆ ด้วย มันฝากไว้อย่างเดียวไม่ได้แล้วตอนนี้
4. เร่งการวิจัยและพัฒนา สร้างนวัตกรรม ผลิตเอง แปรรูป เพิ่มมูลค่า ผลิตใช้ในประเทศก่อนตามความต้องการ ที่เหลือเราก็ส่งออกนะครับ รวมถึงการลดต้นทุนการผลิต เพื่อสามารถแข่งขันราคาได้ในตลาดโลก
5. การปฏิรูปโครงสร้างการเกษตร โดยจะต้องคำนึงถึง ความต้องการ การผลิตที่เรียกว่าดีมานด์ ซัปพลายนะครับ ในประเทศ ลดการส่งออกพืชผลทางการเกษตร ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา ในลักษณะวัตถุดิบ แต่เพียงอย่างเดียว ไม่ได้แล้ว เพราะต้นทุนเราสูงกว่า การผลิตใช้น้ำมากกว่า ราคาขายเราก็ไปลดราคาแข่งขันกับต่างประเทศไม่ได้ ก็ทำให้เกิดการขาดทุน แล้วก็คนไม่สนใจที่จะซื้อของจากเราเพราะราคามันสูง ถ้าขายราคาต่ำ เกษตรกรก็ไม่มีรายได้นี่มันพันกันไปทั้งหมด
ผมไม่อยากให้พี่น้องเกษตรกรลำบากในระยะต่อไป ถ้าเราเข้าใจกันในประเด็นนี้ มันก็จะดีขึ้นนะครับ เพราะถ้าหากเราไม่แก้ไขแล้ว จะกระทบรายได้ของประเทศ รายได้ของประชาชน เกษตรกร จากผลกระทบจากภัยแล้ง แล้วก็สภาพลมฟ้าอากาศโลกเปลี่ยนแปลง ในทศวรรษต่อไป เรื่องเหล่านี้เป็นความท้าทายของประเทศไทย คนไทยว่าเราจะผ่านปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไรหรือไม่ เราจะมาต่อต้าน ขัดแย้ง แย่งน้ำกันใช้ วันนี้ไม่ได้แล้วนะครับ ทุกคนต้องการน้ำ มากๆ เพื่อจะเพาะปลูกอย่างเดียว คงไม่ได้แล้ว เดี๋ยวน้ำประปา น้ำบริโภค อุปโภค ไม่มีอีกจะทำยังไง ทุกอย่างมีผลกระทบกับคนทั้ง 70 ล้าน ทั้งคน ทั้งสัตว์ ทั้งพืชด้วย
เพราะงั้นเรามีหลากหลายสาขาอาชีพนะครับ ก็ต้องเผื่อแผ่แบ่งปันกัน และทุกคนอาจจะต้องนำน้ำ ที่ใช้แล้ว มาปรับปรุง แล้วก็นำมาใช้ใหม่ วันนี้ก็ช่วยกันทั้งหมดอยู่แล้วนะครับ ขอบคุณ
เรื่องที่ผมอยากสร้างความเข้าใจในวันนี้เพิ่มเติม เรื่องที่ 1 คือ กลุ่มกลุ่มสหพันธ์ธุรกิจรักษาความปลอดภัยที่มีการยื่นเรื่องขอให้ชะลอการบังคับใช้ พ.ร.บ. ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 ซึ่งมีผลตามกฎหมายเมื่อ 5 มี.ค.59 ที่ผ่านมา เหตุผลนั้นเราจะต้องมีการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจ รปภ. จำนวนมาก แต่มีมาตรฐานที่แตกต่างกันเพื่ออนาคตด้วย เพื่อจะให้การบริการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน เอกชนต่าง ๆ นั้น มีประสิทธิภาพ เพราะว่ามีความใกล้ชิดเกี่ยวข้อง แล้วก็ทำให้ประชาชนไว้วางใจนะครับ ในการใช้ รปภ. เหล่านี้ในด้านการรักษาความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน รวมทั้งส่งผลต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม
เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องกำหนดมาตรฐานของบริษัท เสริมสร้างศักยภาพของพนักงาน รปภ.ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการและสังคมโดยรวม ผมไม่มีเจตนาสร้างความลำบากแก่ผู้ประกอบการ หรือพนักงาน รปภ. ขอความร่วมมือเป็นภาระเพิ่มเติมเล็กน้อย แต่มีประโยชน์ระยะยาว ประเด็นสำคัญคือ 1.บริษัท รปภ. ต้องจดทะเบียนให้ถูกต้อง มีใบอนุญาต ปฏิบัติตามมาตรฐานการ รปภ. ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ด้วย
2. คือพนักงาน รปภ. ต้องมีสัญชาติไทย จบ ม.3 อันนี้เป็นประเด็นใหญ่นะครับ ซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับตามที่กฎหมาย วันนี้ยังมีคนที่มีระดับการศึกษาต่ำกว่า ม.3 ต้องมาดูกันว่าจะทำอย่างไร แต่อนาคตมันน่าจะต้องเป็นอย่างนั้น วันนี้อาจจะต้องมาทบทวนกันตรงนี้อีกนิดหนึ่ง ขอให้บริษัทต่าง ๆ ได้ผ่อนผันให้ทำงานตรงนี้ไปก่อน และเดี๋ยวกระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายความมั่นคงจะหารือกันอีกทีว่าตรงนี้จะทำกันอย่างไร อย่าให้ใครเดือดร้อน แต่ทุกคนต้องปรับปรุงตัวเองด้วย อาจจะต้องมีหลักสูตรอบรม รปภ. เพิ่มเติม และมีใบรับรอง ใบอนุญาตสำหรับผู้ที่ทำงานอยู่แล้ว แต่ยังไม่เข้าเกณฑ์ที่กำหนดใหม่ๆ จะทำกันอย่างไร คนมาใหม่จะทำอย่างไร มีเวลาเปลี่ยนผ่านเท่าไรตรงนี้สำคัญที่สุดเลยนะครับ ที่สำคัญก็คือว่าจะต้องไม่มีประวัติอาชญากรรมในคดีร้ายแรง มีลักษณะต้องห้าม ติดยาเสพติด วิกลจริต เหล่านี้เป็นต้น ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไปดูแลใครไม่ได้อยู่แล้ว ไม่อยากให้ทุกคนขัดแย้ง หรือเข้าใจผิดรัฐบาล เราต้องการยกระดับมาตรฐาน ทุกอย่างมันต้องยกหมด ทุกอย่างมาตรฐานเราค่อนข้างต่ำนะครับ ทุกเรื่องเลยวันนี้เราพยายามทำให้ดีขึ้น แต่แน่นอนต้องมีปัญหาก็แก้ไขกันไปสิครับ วันนี้ผมรับฟังทุกอันอยู่แล้ว วันนี้อยากจะทำให้เกิดการยอมรับ ผมทราบดีว่า พนักงาน รปภ.เป็นกลไกหนึ่งในการป้องกันอาชญากรรม และสนับสนุนงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจ ซึ่งไม่สามารถจะไปดูแลได้ทั้งหมดอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เรามีบทยกเว้นบางเรื่องไว้แล้ว และเราจะดูแลในมาตรการต่างๆ เพื่อจะช่วยเหลือในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านนี้ ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง บริษัทต่าง ๆ ก็ขอว่าอย่าเพิ่งไล่ใครออก เดี๋ยวผมจะให้ตรวจสอบด้วย เราจะต้องพิจารณาหามาตรการในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านนี้ให้ได้ ขอให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย
เรื่องที่ 2 การขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ รัฐบาล และ คสช.ได้มีการปลดล็อกเงื่อนเวลาที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินหน้าโครงการต่างๆ ของประเทศ มีหลายโครงการล่าช้า 5 ปี 10 ปีมาแล้ว ทำไม่ได้สักอย่าง บางอย่างต้องพับโครงการไป และวันนี้ก็เดือดร้อนกันหมดเพราะไม่ได้ทำไง เพราะความไม่เข้าใจ เพราะความขัดแย้งของประชาชน โดยการบิดเบือนอะไรก็แล้วแต่ เราต้องสามารถทำอย่างไรให้สามารถดำเนินการได้ เพื่อจะรองรับสิ่งที่จะเกิดผลกระทบในระยะใกล้ ระยะไกลได้ด้วย ไม่ใช่ว่าเรายกเลิกการศึกษาผลกระทบ EIA หรือ EHIA ไม่ใช่เลย คือเพียงแต่ว่าเราไม่ต้องรอผลตรงนั้น แต่เราจะสามารถเริ่มต้นทำโครงการ เริ่มทำหาผู้ร่วมทุน การร่าง TOR ไว้ก่อน สัญญาจ้างรอไว้ ใครสนใจก็เข้ามาอะไรก็แล้วแต่ห้ามเซ็นสัญญาโดยเด็ดขาด จนกว่าจะผ่าน EIA หรือ EHIA ก็ตาม ทำคู่ขนานกันไป มันจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เร็วขึ้น ผมละเลยไม่ได้อยู่แล้วสุขภาพอนามัยของประชาชน หรือรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด เพราะว่าต่างประเทศเขาก็มีกฎหมายเหล่านี้อยู่ เพียงแต่ว่าเราลดเวลาให้ได้ยังไง ไม่อย่างนั้นมันสร้างไม่ได้ ทำไม่ได้แล้วทำยังไง ไม่ว่าจะเป็นระบบพื้นฐาน อ่างเก็บน้ำ โครงการใหญ่ๆ ติดไปทั้งหมดเลย ติดทั้งการทำสัญญา ติดทั้งการทำโครงการ ติดตั้งทำ EIA ทำกลับไปกลับมาแล้วก็ทำไม่ได้ วันนี้ทำคู่ขนานกันไปได้ไหมครับ แล้วท้ายที่สุดแล้วถ้าผ่าน EIA เมื่อไร EIA เป็นบวกเมื่อไร เราก็ดำเนินการได้เลย เซ็นสัญญากันได้เลย แล้วทุกคนได้มาช่วยด้วย มาช่วยทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ได้ทำแล้วจะทำยังไง เทคนิค เทคโนโลยี บางทีฝ่ายรัฐไปพูดคนเดียว ไม่เชื่อ ไม่ฟังหรอก ก็ต้องให้ผู้ที่ได้รับในการที่อนุมัติโครงการไปแล้ว ไปชี้แจงในเทคนิคของตัวเองด้วย ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ทุกอย่างเข้าใจกันได้มากขึ้น
เราจะต้องพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น มีโครงการเมกะโปรเจกต์ ด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ชลประทาน ที่อยู่อาศัย โรงพยาบาล การป้องกันสาธารณภัย วันนี้เราต้องทำให้กระบวนการขั้นตอนนั้นมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว คู่ขนานกันไป แล้วก็ไม่ต้องให้เกิดการทุจริตขึ้นมาอีก ที่ผ่านมาทำไม่ได้หลายอย่าง มีปัญหาในเรื่องของความสมบูรณ์ของการรายงาน ใช้เวลานานมากเลย ถ้าท่านเข้ามาอยู่อย่างผมท่านจะทราบว่าปัญหาเยอะมาก พอเยอะก็ทำไม่ได้ ทำไม่ได้ก็ต่อว่ารัฐบาล ว่าทำไมทำไม่ได้ ให้ใช้อำนาจ ผมใช้ได้ไหม ในเรื่องเหล่านี้เพราะเป็นเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศด้วย เป็นเรื่องของสุขภาพประชาชนด้วย สิ่งเหล่านี้ ความพึงพอใจด้วย แต่ทุกคนต้องร่วมมือกัน มากบ้างน้อยบ้าง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ส่วนได้ต้องมาก ส่วนเสียก็นิดหน่อย ส่วนเสียนี่จะดูแลยังไง จะเยียวยายังไง จะหาอาชีพ รายได้ให้เขาอย่างไร มันจะต้องศึกษาทั้งหมด แล้วก็ไปกันให้ได้ไม่งั้นพอไม่ได้ ส่วนใหญ่เสีย ส่วนน้อยได้อยู่ตรงนี้ ไม่ได้หรอกครับ ทุกอย่าง อยากให้ทำให้เร็ว ต้องร่วมมือกัน เข้าใจกัน สร้างความเข้มแข็งจากภายใน ด้วยการผลักดันมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย มาตรการกระตุ้นการลงทุน การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ วันนี้ 1 ล้านกว่าล้าน ยังใช้ไม่ได้เลย เพราะว่าอะไร ต่อต้านขัดแย้งกันทั้งหมด
เพราะฉะนั้นถ้าผ่านได้ต้องไปเสียเวลาทำสัญญา ร่าง TOR อะไรกันใหม่ หาผู้ประกอบการ มันเสียเวลาไปอีกเท่าหนึ่ง เหมือนเดิม ก็ลดเวลาให้ลดลงเท่านั้นเอง แต่ขั้นตอนต่าง ๆ นั้นต้องมีประสิทธิภาพ ที่ทำ EIA ต่าง ๆ เหล่านั้น ก็กรุณานะครับ คณะกรรมการต่าง ๆ ผู้ทรงคุณวุฒิต่าง ๆ ต้องช่วยกันตรงนี้ ถ้ายังคงเอาหลายเรื่องมาขัดแย้งทำไม่ได้ทั้งสิ้น แล้วอนาคตเราจะเป็นยังไง บ้านเมืองจะเกิดอะไรขึ้นนะครับ ก็จะซ้ำเติมพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน เพราะกระทบทั้งสิ้น ห่วงโซ่เดียวกัน เรื่องน้ำก็เกี่ยวกับการเกษตร ถ้าเกี่ยวกับสาธารณูปโภคพื้นฐาน เกี่ยวกับพี่น้อง การสัญจรไปมา การคมนาคม การเจริญเติบโตของบ้านเมืองทุกอย่างมันพันกันไปหมด เศรษฐกิจก็ตามไปด้วย ไม่อยากให้มันเป็นเพียงแค่พิธีกรรม ต้องทำให้มีประสิทธิภาพ รัฐบาลมีหน้าที่ปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดคุณค่าสูงสุด ใช้งบประมาณ เวลา ให้คุ้มค่า รักษาผลประโยชน์ประชาชน โดยรวมของประเทศ
เรื่องที่ 3 มีผลต่อเศรษฐกิจด้วยในเรื่องของการต่างประเทศ การเจรจาทางการค้า หรือการจัดทำพันธสัญญาในประชาคมโลก มีปัญหามากมายนะครับ ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ เราพร้อมหรือยัง ในเรื่องของการเร่งเปิดตลาดใหม่ การเจรจา FTA RCEP วันนี้เราคืบหน้าไปหลายประเทศแล้ว ในขณะนี้ซึ่งที่ผ่านมาไม่ค่อยได้ทำ ไม่ตามเรื่องการศึกษาเรื่อง PPP อะไรที่ตกลงกันได้ ไม่ใช่ 90% แล้ว เหลืออีก 10% ยังไม่ได้ ก็ทำ 90%ไปก่อนได้ไหม อีก 10 % ทำทีหลังได้ไหม วันนี้ผมก็พูด หลายประเทศเขาก็โอเคนะ เขาก็เห็นชอบด้วย ไม่งั้นเดินไม่ได้ ผมต้องการเร่งให้เกิดขึ้นใน 2 ปีให้ได้ เป็นการเริ่มต้น ต่อไปท่านก็ทำต่อไป รัฐบาลต่อไป แต่ประเด็นสำคัญก็คือว่าถ้าเราพูดกับเขาไม่รู้เรื่อง ไม่มียุทธศาสตร์ชัดเจน มันไม่ใช่การที่เราจะกำหนดเองประเทศเดียว ขึ้นอยู่กับความไว้เนื้อเชื่อใจของผู้นำรัฐบาล ของรัฐบาล และวิธีการแก้ปัญหา วิธีบริหารราชการแผ่นดินที่เป็น ธรรมาภิบาล ผมคิดว่าทั้งโลกเขาดูอย่างนี้อยู่นะ ผมก็ทำตามนี้ เราต้องมองทั้งในประเทศ และ CLMV อาเซียน อาเซียน+3 +6 อะไรก็แล้วแต่ สหภาพยุโรป กลุ่มประเทศตะวันตก กลุ่มประเทศอาฟริกา กลุ่มประเทศหมู่เกาะ กลุ่มประเทศมุสลิม ทั้งหมดอยู่ในห่วงโซ่เดียวกันทั้งโลก เราจะต้องสร้างภาคี กลุ่มประเทศเหล่านั้น ในลักษณะต้นทางการผลิต กลางทางการแปรรูป ปลายทางการตลาด โดยมีทั้งผลิตร่วม ร่วมทุน ยกระดับวัสดุต้นทุน
วันนี้อยากให้ทุกคน เข้าใจในเรื่องของ สินค้า GI นะครับ มีปัญหามากสำหรับเราในอนาคต เพราะว่าต่อไปนี้ เขาจะซื้อเฉพาะสินค้าที่ระบุว่า ผลิตมาจากที่ใด ซึ่งมีลักษณะภูมิศาสตร์แตกต่างกัน ถ้ามาจากตรงโน้นผลิตจากตรงนี้ขายตรงโน้นไม่ได้ วัสดุต้นทุนที่ไหน ก็ทำที่นั่น แล้วก็ส่งขายตลาดโลก ที่สำคัญ เราคงจะต้องเร่งในเรื่องการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ หรือเรียกว่าทรัพย์สินทางปัญญา ที่ผ่านมาผมตรวจสอบแล้วค้างอยู่ประมาณ 2 หมื่นกว่ารายการ ได้เร่งให้กระทรวงพาณิชย์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ภาคเอกชน ภาควิชาการ มาช่วยกัน ในการทำให้สำเร็จโดยเร็ว เพราะว่ามันจะต้องไปผูกพันในสัญญาต่างๆ เหล่านั้น กติกา ต่างที่มีมาใหม่ วันนี้ขอบคุณ กระทรวงพาณิชย์ก็เร่งรัดเรื่องนี้อยู่ ที่ผ่านมาก็ไม่ชัดเจนนะ วันนี้ถึงมีความเสี่ยงทุกเรื่อง
หลายอย่างถ้าเราทำอย่างสะเปะสะปะ อ่อนแอ ไม่มียุทธศาสตร์ ไม่มีวิสัยทัศน์ ก็ทำให้เราเสียเปรียบ วันนี้ช้า ไปด้วยซ้ำไป ด้วยความไม่เป็นสากล กฎหมายไม่ปรับเปลี่ยนให้สอดคล้อง การลงทุนก็ไม่อยากมีใครลงทุนกับเรา และสิ่งสำคัญที่สุดคือหากการเมืองไม่มีเสถียรภาพประเทศไม่ปลอดภัย มีความขัดแย้ง มีการเดินขบวนต่างๆ เหล่านี้ เสียหายทั้งสิ้น ไม่ใช่ผมเสียหายอย่างเดียวหรอก แต่ประเทศเสียหาย ท่านคิดเอาแล้วกัน ว่าท่านควรจะต้องทำกันอย่างไรบางอย่างก็แก้ได้ ใช้เวลาหน่อย ไม่ใช่เรียกร้องกันทุกเรื่องไป
ที่ผ่านมา เป็นสิบๆ ปี นี่ไม่ได้แก้เลย ท่านจะทำยังไงล่ะ ผมก็มาแก้ให้ท่านทั้งหมดนี่แหละ เราไม่ได้เลือกทำด้วยซ้ำไป ทำทุกเรื่องแต่เรื่องไนสำคัญกว่าก็ทำก่อน เรื่องไหนที่สำคัญน้อยกว่าก็ทำคู่ขนาน เราต้องไปรื้อ ไปแก้ไข ไปอะไรล่ะ แก้ปัญหาทั้งหมดเลยที่ทำไว้กัน ที่ผ่านมาเพราะว่าอะไร เพราะไม่สนใจกัน ไม่กวดขัน แล้วก็โยนความผิดให้ราชการ ข้าราชการเขาเดือดร้อน ผู้บริหารก็จะต้องบริหารประเทศให้มีธรรมาภิบาล อย่าอ้างแต่ประชาธิปไตย อ้างแต่ประชาชน อ้างสิทธิมนุษยชน แล้วก็ไม่รับผิดชอบใดๆ บอกว่าข้าราชการรับผิดชอบ เพราะเป็นคนทำ เขาเป็นเพียงแค่นโยบาย นี่ผมทำทั้งนโยบาย ทั้งกำกับดูแลการปฏิบัติของเขาด้วย ให้แนวทางแนะนำต่างๆ หาวิธีการที่ถูกต้องให้ได้ ท่านให้เขาหรือยังล่ะ วันนี้อย่ามาพูดวันนี้
ที่ผ่านมาโครงการอะไรที่ออกมาเป็นของใครล่ะ ที่ออกมาได้ทั้งหมดนะ ส่วนใหญ่ก็มีผลประโยชน์ ตรงนั้นตรงนี้ ไม่มีการวางโครงสร้างชัดเจน เป็นภูมิภาค เป็นกลุ่มจังหวัด เป็นจังหวัด วันนี้ผมทำทุกอย่าง เพื่อจะวางรากฐานของประเทศให้เข้มแข็งเป็นภูมิภาค ไม่คลุมเครือ แล้วไปก้าวก่าย ไม่สนับสนุนโครงการที่ทำมาจากหน่วยงาน ผมไม่ทำ เขาอยากเสนออะไรเสนอขึ้นมา ผมจะพิจารณาใน ครม. ในคณะทำงาน คณะขับเคลื่อน ว่าสมควรทำตอนนี้หรือไม่ ผมรับฟังเขาไง ข้าราชการเขามีกำลังใจนะ ในการที่จะทำงานกับผม ถ้าหากว่า เหล่านี้ไม่เกิดในวันหน้านะ ข้าราชการก็หมดกำลังใจเหมือนเดิม รอให้สั่งมาก็แล้วกัน เสนอมาก็ไม่ตอบสนอง ตามหลักวิชาการ ไม่ทำ เพราะอะไรล่ะ เพราะการใช้อำนาจบริหารไปทาบทับ แล้วใช้การลงโทษทางวินัยผู้ไม่ปฏิบัติตามในสิ่งที่ไม่ค่อยถูก แล้วก็ตั้งคนที่ยอมทำให้ มาอยู่ในตำแหน่งระดับสูง เหล่านี้เป็นปัญหาทั้งประเทศนะ ที่ผ่านมา ผมไม่อยากให้ความผิดไปตกอยู่กับข้าราชการอีกต่อไป เราต้องแก้ไขให้ได้นะ เราอย่าไปเคยชินกับการใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมายาวนาน วันนี้ คสช. เข้ามาก็มีผู้เสียประโยชน์ ที่เคยมีเคยได้ เรียกร้องมา บิดเบือนกันไป ข้อเท็จจริง ก็เลยถูกบิดเบือนทั้งหมดนะ ต้องพูดวันนี้นะครับ ขอให้ประชาชนช่วยกัน อย่าตกเป็นเครื่องมือของใครอีกต่อไป
เรื่องที่ 4 เรื่องความเชื่อมั่นในกระบวน การยุติธรรม และการเคารพกฎหมาย วันนี้ เราต้องเร่งรัดดำเนินการให้ได้ ระยะเวลาที่ผมเหลืออยู่ ผมกำลังให้ทบทวนคดีทั้งหมดออกมา แล้วก็ให้ทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นศาล องค์กรอิสระต่างๆ ก็ขอความร่วมมือ ให้ช่วยจัดระเบียบมาว่าอะไรต่างๆ จะต้องทำให้เรียบร้อยโดยเร็ว ให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ทำให้ต่างประเทศไว้วางใจ และประชาชนไม่เคลื่อนไหวกันอีก แต่ต้องเป็นธรรม อย่าให้ใครมาว่าเราไม่เป็นธรรม 2 มาตรฐาน ต้องทำทั้งคู่ ทำไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตาม ทำทั้งหมด ใครทำให้เสียหายมากก็อาจจะต้องทำเร็วหน่อย เสียหายน้อย รอได้ก็รอได้ เดี๋ยวทำต่อ มันทำทุกอย่างก็เละไปหมด ก็ค้างอยู่เป็นหลายพัน หลายหมื่นคดี
ฉะนั้น ใครก็ตามที่บริหารราชการแผ่นดิน ในห้วงที่ผ่านมา ก็เท่ากับผ่าน 3 อำนาจ อำนาจตามประชาธิปไตยทั้งหมด แล้วท่านก็ตั้งคนเหล่านั้นขึ้นมาเอง อนุมัติกันมา อะไรกันมา ผมว่าเขาตั้งใจดีนะ ทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะข้าราชการทุกฝ่าย เพราะว่าต้องเชื่อมโยงกันไง แล้วมีกฎหมายของเขา มีการวิธีพิจารณาต่าง ๆ ของเขาเอง แต่ถ้าเราไปเกี่ยวข้องมาก ๆ ก้าวล่วงมาก ๆ กระบวนการยุติธรรมเสียหาย ความไว้เนื้อเชื่อใจมันหายไป ไม่ใช่ว่า ถ้าเขาตัดสินมาเข้าตัวเองดีหมด อะไรที่ต้องถูกบังคับบอกไม่ใช่ ไม่เป็นธรรม แบบนี้มันควรจะกลับมาบริหารราชการแผ่นดินอีกหรือเปล่าครับ ผมว่าไม่ควรเลยนะ ในส่วนของผมเอง เพราะว่าถ้าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นต่อไป ประเทศชาติถอยหลัง หยุดอยู่กับที่ หรือถอยหลังไปกว่าเดิมมากมาย ประเทศอื่นเขาไม่มาคบค้าสมาคมด้วย ถ้าเราทำอย่างนี้อีกต่อไป คือการไม่บริหารราชการด้วยความสุจริต ไม่เคารพกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ไม่มีธรรมาภิบาล ไม่กำกับดูแล ในเรื่องนโยบาย ในสิ่งที่ถูกต้อง ขาดความรับผิดชอบ เอาผลประโยชน์ที่ไม่ควรมี ไม่ควรได้ แล้วโยนความผิดไปให้ข้าราชการบกพร่อง ถูกดำเนินคดีทั้งหมด ตอนนี้มีปัญหาหมดอีกอัน การก้าวล่วงทุกอำนาจของส่วนราชการ รังแกข้าราชการ และไม่สร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศชาติ และประชาชน ขีดความสามารถเราแย่ลง ความเข้มแข็งก็แย่ลง ประชาชนถูกมอมเมา ถูกสร้างภาพลวงตา เหมือนกับพยายามทำให้ประชาชนนั้นไม่ฉลาดขึ้น ต้องพึ่งพาคนอื่นตลอดเวลา เราก็รับของแจก เงินให้อย่างเดียวต้องสร้างความเข้มแข็งให้เขาด้วย เหมือนกับเราให้เบ็ดไปตกปลา เขาก็ ลืมตาอ้าปากไม่ได้สักที ไม่รู้เป็นไร ควบคุมง่ายมั้ง วันนี้ เราจะต้องแก้ให้ได้ ให้เขาฉลาดขึ้น ให้เขาแข็งแรงขึ้น เราก็จะอยู่กันอย่างสงบ ที่ผ่านมานั้นประชาชนเหมือนกับไม่ได้รับการพัฒนาตนเอง ด้วยรัฐบาลไง ต้องสอนเขา ให้เขาเรียนรู้ไม่ไปยกวาทกรรมมาบิดเบือน กลายเป็นชนชั้น มันไม่ใช่หรอกครับ มันเป็นเรื่องของรายได้ที่ไม่เพียงพอ เราต้องทำให้เขาเพียงพอเท่านั้นเอง ต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้ระดับพื้นที่ จะต้องไม่ไปผูกมัดผูกพันกับอำนาจทางการเมือง หรือประโยชน์ทางการเมือง เรามีมานานแล้วแบบนี้ต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก อันเก้าก็ต้องแก้ปัญหากันไป ทุกท่านรู้ดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะพรรคการเมือง นักการเมือง ไปทบทวนตัวเองด้วยอย่าทำเป็หลงลืมในสิ่งที่ท่านทำไปแล้ว มันผิดก็แก้ใหม่เท่านั้นเอง ทำไมไม่ได้ล่ะ ทำไมให้คนอื่นเขามาร่วมด้วยหรอ ท่านจะใช้อำนาจของท่านอย่างเดียวแล้วอ้างประชาชน แต่ท่านก็ทำให้ประชาชนยากจน ประชาชนขัดแย้ง ประชาชนเข้าใจผิด อ่อนแอเหล่านี้เป็นปัญหาทั้งสิ้น
เรื่องต่อไปคือเรื่องการแบ่งแยกและปกครอง คือ Divide and Rule ทำให้แยกเป็นกลุ่มๆ ดูแลง่ายดี ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ประชาชน แบ่งแยกฝ่ายนี้ ฝ่ายโน้น มีความรุนแรงสนับสนุนด้วย กองกำลังอะไรก็แล้วแต่ จะ 1 2 3 อะไรก็แล้วแต่ไปว่ามา ไม่คำนึงถึงชื่อเสียงประเทศชาติ ใช้อาวุธ ใช้ความรุนแรง มีการทำลายการประชุมระดับประเทศ สร้างความอับอายต่อสายตาชาวโลกต่อเนื่อง ไม่ยอมรับผิดชอบตามกฎหมาย หรือต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม อ้างประชาธิปไตยอย่างเดียว ป้ายความผิด บิดเบือน เอาโลกมากดดันประเทศ สมควรไหมครับ เห็นแก่ตัว ประชาชนมีเกือบ 70 ล้านคนนะ ประเทศไทย ต้องมาเดือดร้อนกับคนไม่กี่คน วันนี้ยังไม่หยุดเลย ไม่กี่กลุ่มเท่านั้นเองที่ไม่หวังดีไปหามา ผมไม่อยากให้ประชาชนเชื่อสิ่งเหล่านี้ต่อไป สื่อผมไม่รู้จะห้ามยังไง ท่านก็แพร่ไปเรื่อยจริงบ้างไม่จริงบ้าง แต่ถ้าจริงก็โอเค ผมยอมรับ ถ้าไม่จริงมันเสียหายประเทศ และเป็นผลเสียต่อการขับเคลื่อนประเทศ ขอตำหนิผู้ที่พูดเรื่องที่ไม่จริงบิดเบือน คือไปพูดให้กับคนที่ทำผิดกฎหมาย ผมว่ามันผิดนะ เดี๋ยวจะหากฎหมายอะไรซักอย่างมาดูซิว่ามันผิดไหม สนับสนุนการกระทำความผิด ระมัดระวังด้วยวันหน้าอาจจะต้องถูกดำเนินคดี
เพราะฉะนั้นถ้าท่านพิจารณาข้อเท็จจริง รัฐบาล และ คสช. ต้องการอำนาจ ต้องการอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด ผมทำไมจะต้องเลือกตั้งล่ะ ผมอยู่ในอำนาจต่อไปไม่ดีหรือ วันนี้ผมก็มีอำนาจเต็มอยู่แล้ว ต่างประเทศผมก็คุยทุกประเทศ เขาถามว่าแค่เลือกตั้งเท่านั้นเอง แต่นักการเมืองมาขยายความทุกเรื่อง รัฐธรรมนูญทุกประเด็น แล้วเราเน้นเรื่องไม่เป็นประชาธิปไตย สืบทอดอำนาจ แล้วผมถามว่าวันนี้ที่ผมทำวันนี้มันใครล่ะ แล้วที่ท่านว่าท่านว่าผม ท่านจะทำเพื่อใคร ท่านพูดซิครับ พูดว่าท่านจะทำอะไรต่อไป ไม่ใช่ประชาธิปไตย ประชาชนเลือกตั้ง แล้วไม่พูดว่าจะทำอะไร ปฏิรูปหรือเปล่า
เพราะฉะนั้นขอให้ทุกอย่างเดินหน้าไปให้ได้นะครับ วันนี้ต่างประเทศมองเรา 90% แล้ว ด้วยความเชื่อมั่นในผม ในรัฐบาล แต่ก็มีอย่างเดียวก็คือ การเลือกตั้ง ขอให้รัฐบาล คสช.รักษาสถานการณ์ ให้สงบปลอดภัย ทุกประเทศคาดหวังอย่างนั้น มีเสถียรภาพแบบนี้ตลอดไปให้ผมรับรองกับเขาไง
เพราะฉะนั้นคนจะรับรองต่อจากผมคือใคร รัฐบาลต่อไป ออกมาพูดวันนี้ให้ต่างชาติเขาได้ยินว่า เออท่านเป็นรัฐบาลแล้ว เลือกตั้งแล้ว ท่านจะทำให้ปลอดภัยยังไง เหตุการณ์ที่ว่าทั้งหมดมันไม่เกิดขึ้น เขาไม่อยากให้ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอกครับ ต่างประเทศ มันมีผลเสียต่อการลงทุนของเขา กรุณาทำความเข้าใจในเรื่องของ รัฐธรรมนูญ ประชามติ เลือกตั้ง ปฏิรูป ยุทธศาสตร์ชาติ แผนสภาพัฒน์ นโยบายความมั่นคงว่าควรจะต้องทำอะไรต่อไป ให้เชื่อมโยงกันให้ได้ อยากให้ทุกคนอธิบายให้ได้กฎหมาย 400 กว่าฉบับ วันนี้เราขับเคลื่อนมาแทบตาย 2 ปีกว่า บางอย่างออกได้อยู่ บางอย่างพิจาณา 3 วาระอยู่ ยังติดอยู่ ทำไมเราต้องออกล่ะครับ ให้ทันสมัย เป็นสากล ให้ดูแลประชาชนให้ทั่วถึง เป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ กฎหมายคือทำให้คนไม่เหลือมล้ำกัน ที่ผ่านมาออกไม่ได้ทั้งสิ้น
เรื่องที่ 6 คือการปรับปรุงและแก้ไขกฏหมาย เพื่อเสริมภาพลักษณ์อันดีของประเทศไทย ในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม สำคัญนะครับ ล่าสุดที่เสนอไป สนช. ให้เห็นชอบก็คือพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีค้ามนุษย์ได้สำเร็จ ใช้เวลาเพียง 5 เดือน นับตั้งแต่วันยกร่าง ภายใต้การทำงานความร่วมกันของหลายฝ่าย ทั้งท่านผู้พิพากษา อัยการหลายท่าน และผู้แทนหน่วยราชการหารือร่วมกัน มีผู้ทรงคุณวุฒิ จากอีกหลายหน่วยงาน มีประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ เรื่องที่ 1. ใช้ระบบไต่สวนในคดีค้ามนุษย์แทนระบบกล่าวหา ตั้งแผนกคดีค้ามนุษย์ในศาลอุทธรณ์ จะช่วยให้การพิจารณาคดีค้ามนุษย์มีความรวดเร็วขึ้นผูกพันหลายอย่าง ทั้งเจ้าหน้าที ที่กระทำความผิด ทั้งเหยื่อ ทั้งผู้ประกอบการ ทั้งหมดมันพันกันไปหมด
เรื่องที่ 2 คือมีการปรับปรุงเรื่องการสั่งปล่อยตัวผู้ต้องหาชั่วคราว และกำหนดมาตรการป้องกันการหลบหนี โดยศาลสามารถสั่งให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการตรวจสอบ หรือจำกัดการเดินทางของผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวได้ เพื่อลดภาระในการที่ลดความแน่นของผู้ต้องหาในเรือนจำเหลานี้ ต้องหาวิธีใหม่ๆ เหมือนที่ต่างประเทศเขาทำกันอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่เราจะช่วยกันยังไงครับ
เรื่องที่ 3 มีการใช้ระบบการสืบพยานผ่านทางจอภาพ โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ให้มากขึ้นในการดำเนินคดี การต่อสู้คดีอะไรก็แล้วแต่ เช่น การเบิกความจากศาลอื่น หรือสถานที่ทำการของทางราชการ หรือสถานที่อื่นๆ ทั้งในหรือนอกประเทศได้ ด้วยการถ่ายทอดภาพและเสียง ในลักษณะการประชุมทางจอภาพ
นอกจากนี้ ยังขยายฐานความผิด ในกรณีเป็นธุระจัดหา ซื้อขาย หน่วงเหนี่ยว กักขัง จัดให้อยู่อาศัย ใช้จ้างวาน ซึ่งเด็กที่อายุไม่เกิน 15 ปี ให้ทำงานหรือให้บริการ ซึ่งอาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อร่างกายและจิตใจ การเจริญเติบโต หรือการพัฒนาการของเด็กเหล่านั้น ผมถือว่าถูกหยุดชะงักไปด้วยกระบวนการการค้ามนุษย์ด้วย ให้ถือว่าเป็นความผิดการค้ามนุษย์ด้วย ร้ายแรง
ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังมีมาตรการผ่อนผันให้เหยื่อ ผู้เสียหาย และพยานในคดีการค้ามนุษย์ สามารถอยู่ในประเทศไทย และทำงานได้ เป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 1 ปี เพื่อจะเข้าให้จบกระบวนการเป็นพยานให้จบทำนองนี้ เดิมอยู่ได้ไม่กี่วัน เสร็จแล้วคดีก็ทำอะไรต่อไม่ได้
ทั้งนี้ ก็อยากให้มีการสืบสาวราวเรื่อง ตรวจสอบหลักฐานให้เสร็จสมบูรณ์ จนสามารถเอาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ เพราะว่าถ้าหากไม่สิ้นกระบวนการ อาจจะสามารถขยายเวลาต่อได้ ครั้งละ 1 ปี มีการประชุมหารือเป็นมติ ครม.ไปแล้ว ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งในเรื่องของการให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ประสานกับกระทรวงยุติธรรมดูแล และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษย์ธรรม กับผู้เสียหายและเหยื่อหางานให้ทำ ส่วนการคุ้มครองพยานให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะต้องใช้ในเรื่องของการ ใช้กฎหมายในเรื่องของการคุ้มครองพยาน เป็นหน้าที่ของแต่ละฝ่าย ให้มันตรงซะที แต่ต้องร่วมมือกันนะครับ พ.ร.บ.ฉบับนี้จะสามารถกำจัดจุดอ่อนในอดีตได้ทั้งหมด และจะเป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ให้หมดไปจากประเทศไทย ขณะนี้องค์กรระหว่างประเทศให้ความสนใจเรื่องนี้เป็นอย่างมากแล้วก็ชื่นชมชมเชยเจตนารมณ์ของรัฐบาลนี้ และเป็นกำลังใจให้กับเราให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็งเตือนไว้ล่วงหน้านะ เพราะผมไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ ไม่อยากให้ประชาชนของเรา เข้าไปสู้คดีในกฎหมายเหล่านี้ด้วย ผมไม่อยากทำร้ายใครทั้งสิ้น แต่ถ้าทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ หลายประเทศ ประเทศรอบบ้านเราจะเอาแนวทางของเราเป็นตัวอย่าง เรื่องค้ามนุษย์ IUU เหล่านี้ เขามีปัญหาเหมือนกัน แต่เราทำมากที่สุดในเวลานี้ แต่มีคนบางคนซึ่งไม่ทำ ไม่สนใจกลับมาตีผม โจมตีสิ่งที่ตัวเองปล่อยปล่ะละเลยมายาวนาน โทษผมอีก ผมไม่เข้าใจ ความคิดมันสวนทางตลอด
เรื่องที่ 7 เป็นเครื่องยืนยันถึงความก้าวหน้าในการทำงานของรัฐบาล เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา วัดได้จากการประเมิน การจัดลำดับประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในสายตาชาวต่างชาติเราต้องฟังเขาด้วย อย่าไปคิดเองประเมินเองทั้งหมด มีองค์กรระหว่างประเทศมากมายสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของประเทศไทย ล่าสุดนิตยสาร U.S. News & World Report นะครับ เป็นที่ยอมรับระดับโลก ได้จัดอันดับประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 21 จาก 60 ประเทศที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2559 ด้วยการเก็บข้อมูลจาก 16,000 คนทั่วโลก หากพิจารณาในรายละเอียด ซึ่งแบ่งออกเป็น 9 หมวดการประเมินแล้ว จะเห็นว่าเราเป็น 1 ใน 10 อันดับแรก ใน 4 หมวด ได้แก่ หมวดการขับเคลื่อน ได้อันดับ 4 วัดจากความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างของเราในด้านต่าง ในปี 59 นะ ในส่วนของหมวดการผจญภัย ได้อันดับ 4 วัดจากความสุข ความสะดวกสบาย ความเป็นมิตร เป็นเมืองแห่งรอยยิ้ม และมีแหล่งท่องเที่ยว ธรรมชาติ ทัศนียภาพดึงดูดใจชาวต่างชาติ หมวดมรดกของชาติ ได้อันดับ 8 วัดจากอาหารอร่อย ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และหมวดความเปิดกว้างในการทำธุรกิจ เหมาะแก่การลงทุน หรือการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ เราได้อันดับ 10 วัดจากมูลค่าต้นทุนการผลิตที่ต่ำ ระบบภาษี และการทุจริตคอร์รัปชัน วันนี้เราปรับแก้ทุกอย่างแล้ว การอำนวยความสะดวก การให้ข้อมูลข่าวสาร
นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายหน่วยงาน องค์กร ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ได้ประเมินประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 1 - 10 ของโลก ในหลายๆ ด้าน เช่น ปี 58 กรุงเทพ เป็นเมืองที่ชาวต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยว เป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากกรุงลอนดอน และเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย อุตสาหกรรมรถยนต์ สิ่งทอ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เราเป็นผู้ผลิตอันดับ 1 ใน 10 ของโลกด้วย เรากำลังปรับไปสู่ความทันสมัยอีก ให้มีมูลค่าสูงขึ้น
เหตุที่ผมมาเล่าให้ฟังนี่ อยากให้ทุกคนได้ภูมิใจ แล้วก็ช่วยกันคนละไม้ คนละมือ มันจะดีขึ้นไปตามลำดับตั้งแต่ 57 - 58 - 59 ดูแล้วกัน แต่เรื่องเศรษฐกิจก็ต้องช่วยกันอีก เศรษฐกิจปัญหาเยอะมาก ปัญหาโลก ปัญหาเรา ปัญหาเพื่อนบ้าน เยอะแยะไปหมด ภายในประเทศสำคัญที่สุด ถ้าเรารักษาสิ่งที่ดีไว้ ร่วมมือกันพัฒนาขึ้น มันดีขึ้นแน่นอนนะ ความยั่งยืน ความน่าอยู่ นอกจากของเราเอง ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวก็ปลอดภัย สุขใจ เป็นเมืองที่ดึงดูดใจอยู่แล้ว สำหรับนักลงทุนชาวต่างชาติ
ในวันที่ 19 - 27 มีนาคมนี้ เราจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการกล้วยไม้เอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 12 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ในงานก็มีทั้งการประชุมวิชาการกล้วยไม้ และการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับกล้วยไม้ อย่างครบวงจร ทั้งการผลิต การตลาด การใช้ประโยชน์จากกล้วยไม้ การนำเสนอผลงานเทคโนโลยีการผลิต การปรับปรุงพันธุ์ การอนุรักษ์พันธุกรรม และการใช้ประโยชน์จากกล้วยไม้ โดยจะมีนักวิชาการจาก 13 ประเทศ นอกนั้นมีการประกวดการจัดสวนกล้วยไม้ ประกวดภาพถ่ายกล้วยไม้ และแข่งขันวาดภาพกล้วยไม้ เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. ทุกวัน
ทั้งนี้ กิจการ MICE ในลักษณะดังกล่าว ได้แก่ การประชุม นิทรรศการ งานแสดงสินค้า ระดับนานาชาติ ทั้งหลายเหล่านี้นะครับ เป็นอีกเครื่องจักรหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล เสริมการท่องเที่ยวเพื่อกระจายรายได้ในท้องถิ่น เกิดอาชีพ เกิดรายได้ ในการเพาะพันธุ์ปลูกขายกล้วยไม้ ดึงเม็ดเงิน การค้า การลงทุนจากต่างประเทศ เข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งจะเกิดเป็นจำนวนมหาศาลในแต่ละปีข้างหน้านี้ด้วย เพียงแต่เราต้องทำให้บ้านเมืองเราน่าอยู่ สะอาด สงบ ปลอดภัย
สิ่งที่รัฐบาล และ คสช. อยากเห็นก่อนมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง คือการเริ่มต้นวางพื้นฐานในประเด็นกิจการที่สำคัญ ระยะแรกคือในปีงบประมาณ 59 - 60 ให้ได้ เช่นในเรื่องของการศึกษา การวิจัยพัฒนา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่เป็นรูปธรรม การปฏิรูประบบราชการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ เป็นธรรมไม่มีสองมาตรฐาน ปรับโครงสร้างการบริหารงาน ปฏิรูปหน่วยงานตนเองจากภายในไปสู่ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ก็ช่วยกันทำ ช่วยกันคิด ถ้าต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างทำ ทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง
เรื่องการบริหารจัดการขยะสำคัญที่สุดด้วยนะครับ ถ้าเราทำในระยะแรกให้ได้ คือการแยกขยะบ้านเรือน ขยะชุมชน เพื่อจะเพิ่มมูลค่า ทำให้ขยะมีราคา ที่เหลือทำอะไรไม่ได้ ก็ไปมีเตาเผาขยะชุมชน เล็กบ้าง กลางบ้าง ใหญ่บ้างก็แล้วแต่ ถ้าทำได้ก็ต้องเร่งทำ เรารอไม่ได้แล้ว ขยะทับถมปีละหลายพันตัน สะสม เพื่อจะให้เกิดความความสะอาด ลดโรคระบาด แล้วก็ขยะอันตรายทั้งหมด ขยะจากโรงพยาบาล ขยะสารเคมี วันนี้มากมายมหาศาล แล้วไปทิ้งรวมกันในหลุมขยะหลุมเดียว ของแต่ละพื้นที่เป็นไปได้ยังไงต้องมีวิธีการกำจัดที่แตกต่างกันออกไป ท่านต้องเริ่มแยกขยะ ทุกชุมชน วันนี้ทหารเขาทำไปแล้ว ผมจะให้ข้าราชการทำต่อทุกหน่วยงานทุกสถานที่ราชการจะต้องมีการแยกขยะ อันไหนที่เป็นขยะมีมูลค่าก็เก็บไว้ แล้วก็ไปทำให้เกิดมูลค่าสูงขึ้น นำมาใช้ใหม่ บางอันก็ต้องทิ้ง ทิ้งๆ ที่ไหน ทิ้งไปบางอย่างก็ต้องเอาไปเผา เผามีเตาหรือเปล่า ถ้าไม่มีเตาแล้วจะทำยังไง ก็ต้องไปจัดหาเพิ่มเติม ในท้องถิ่น ในหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ แล้วแต่ ถ้าทำได้อีกต่อไป ก็ไปทำโรงขยะ โรงงานกำจัดขยะ โรงงานขยะไฟฟ้าเพื่อผลิตไฟฟ้า
เรื่องต่อไปเรื่องระบบงบประมาณ วันนี้ผมกล่าวไปหลายครั้งแล้วว่าเราต้องมีการปรับระบบงบประมาณใหม่ ในมีนาคม 2559 นี้ ถ้างบประมาณใดที่เสนอมาแล้ว แล้วยังผูกพันสัญญาไม่ได้ ผมจะเรียกคืนทั้งหมด ถ้าหากว่าจะทำก็ต้องมาชี้แจงให้ได้ว่ามันติดขัดยังไง จำเป็นแค่ไหน ถ้าใหญ่เกินไปผมจะลดให้เล็กลง เพื่อจะเอาเงินที่เหลือไปทำตรงอื่นก่อน ตามหลักความเร่งด่วน แล้วถ้าวันหน้า มันผ่าน EIA ได้ ตรงนั้นตรงนี้ก็มาทำต่อไปซะ ถ้าไม่ได้ ก็ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นมัน ติดไปหมด ผมบอกแล้วไง ติดไปหมดทุกอัน โครงการขนาดใหญ่ติดไปหมดทุกอัน เพราะทุกคนต้องการทำทีเดียวทั้งหมด เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ประชาชนยังไม่เข้าใจ
วันนี้ผมเข้าไปทำ เพื่อให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม คือไปแก้ พ.ร.บ. งบประมาณด้วย จะต้องใช้ ปี 2560 เป็นต้นไปนะครับ ให้ลงกล่องให้ได้ ไม่ใช้กันอย่างฟุ่มเฟือย ไม่คุ้มค่า ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีผลสัมฤทธิ์ ต้องต่อเนื่องเชื่อมโยง บูรณาการกิจการ ทั้งงานฟังค์ชั่น งานเร่งด่วนที่ภาษาอังกฤษเรียก อาเจนด้า เพราะงั้นจะต้องทำตรงนี้ให้ได้โดยเร็ว เพราะมีผลเรื่องการพัฒนาประเทศ ในเรื่องระบบการเงินการคลังของประเทศ ต้องมีความเข้มแข็ง จะดูยังไง ปรับโครงสร้างยังไง ภาษี รายได้ สินค้าเข้า สินค้าออกเหล่านี้ มันมีหลายภาษีด้วยกัน ต้องปรับทั้งหมด ทั้งนี้ทั้งนั้นก็พยายามไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนโดยรวมให้มากที่สุด
ในส่วนของการทำให้ประเทศเข้มแข็งด้วยระบบ การเงิน การคลังนั้นต้องควบคู่ไปกับการบริหารราชการที่ดีของรัฐบาล ไม่ว่าจะรัฐบาลผม รัฐบาลเลือกตั้งต้องมีความสมดุลการใช้จ่ายงบประมาณรายได้รายรับ
ในเรื่องของการสร้างปลูกฝังระบบธรรมาภิบาลให้ได้โดยเร็ว ปีนี้ผมเน้นเรื่องระบบธรรมาภิบาลในทุกสังคม ในทุกภาคส่วน ตั้งแต่เด็กเล็ก เยาวชน ประชาชน เอกชน ข้าราชการ ทุกหน่วยงานจะต้องมีธรรมาภิบาล ไปดูซิธรรมาภิบาลมีอะไรบ้าง ก็ 6 ข้อนะ
ในเรื่องการขจัดการทุจริตคอร์รัปชั่น ในเรื่องของการสร้างจิตสำนึก ป้องกันปราบปรามต้องเริ่มแต่เด็กด้วยนะ ด้วยกฎหมาย ด้วยกระบวนการ และการปฏิบัติที่เท่าเทียม เด็กต้องเตือนผู้ใหญ่ ลูกเตือนพ่อแม่ว่าทำยังไงมันจะไม่เกิดการทุจริต ไม่ให้ไปคอร์รัปชั่นอะไรต่างๆ ให้เป็นที่อับอายของลูก ถึงจะรวยแต่โกงเขามา ลูกก็อายเขา เวลาถูกดำเนิคดี ลูกเต้าก็เดือดร้อนไปหมด ลูกเตือนพ่อแม่ด้วยนะครับ
ในเรื่องการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ รายได้ประเทศ ต้องทำจริง ๆ ไม่อย่างนั้นมันอยู่อย่างนี้ ขาดดุลๆ ไปเรื่อย แล้วเราต้องลงทุนอีกมากมายมหาศาลที่เราไม่ได้ทำมาก่อน หมดไปสิ้นเปลืองไปโดยไม่ต่อเนื่อง ไม่ยั่งยืน ผมกำลังแก้ทั้งหมด 2 ปีมาแล้วนะแก้ ไม่ได้ง่ายนักหรอก
ในเรื่องของการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ รายได้ประเทศกับโครงสร้างการเกษตรมันเชื่อมโยงกันทั้งหมด การเกษตรก็ไม่ใช่ดูแต่ปลูก ต้องปลูก ผลิต แปรรูป นวัตกรรมไปสู่ตลาดให้มีความเข้มแข็งทั้ง 3 ส่วน อันแรกคือประชาชนใช่ไหมค้าขายกันเอง กลุ่มเกษตรกรเป็นกลุ่มสหกรณ์ใช่ไหม แล้วไปสู่โซเชียลบิซิเนส นี่คือแท่งหนึ่งที่ต้องเข้มแข็งให้ได้ วันนี้ทำตรงนี้อยู่ เพื่อจะแข่งขันกับช่องที่ 2 คือ เรื่องของพ่อค้าคนกลางจะได้ทำให้ราคาของเกษตรกร ราคาผลิตผลสูงขึ้น
อันที่ 3 ไปดูในเรื่องของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ มันต้องโยงกันทั้ง 3 อันให้ได้ ถ้าไม่ได้ก็เป็นแบบเดิม อุดหนุนกันไปเรื่อย แล้วก็เกิดความผิดพลาดผิดกฎหมายมาโดยตลอด เราต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้ เป็นภูมิภาค ผมบอกแล้วเรามี 4 ภาค
4 ภาคต้องเข้มแข็งด้วยตัวเอง แล้วก็ลงไปสู่ประชาชน หมู่บ้าน เริ่มจากภูมิภาคไปสู่กลุ่มจังหวัด 18 กลุ่ม แต่ละภูมิภาค 4 ภูมิภาค ก็มี 18 กลุ่มนั่นแหละ จากนั้นก็มีจังหวัดในแต่ละกลุ่มจังหวัด ทำในกลุ่มของตัวเองให้แข็งแรงนะครับ ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง
เรื่องการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบตามยุทธศาสตร์ที่กำหนด เพื่อจะรองรับ และเผชิญต่อภัยในอนาคต วันนี้ต้องทำความเข้าใจเพิ่มขึ้น เรื่องการบริหารจัดการน้ำ ยืนยันอย่างหนึ่งคือผมไม่ได้ผูกพันงบประมาณระยะยาว จนทั้งระบบ ไม่ใช่ ปรับเปลี่ยนไปได้ตามห้วงเวลา
เรื่องสุดท้ายเรื่องพลังงานไฟฟ้า เราอาจจำเป็นต้องแลกด้วยทรัพยากรธรรมชาติบางส่วน ที่ไม่เสียหายมากนัก จะทำยังไงที่มันจะเกิดความสมดุลไง ผมบอกว่าไม่มีอะไรที่ได้ทั้งหมด หรือเสียทั้งหมด แต่อะไรคุ้มค่ากว่ากัน แล้วจะเยียวยาสิ่งที่เสียหายไปได้อย่างไร ไม่ว่าจะประชาชน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม หรืออะไรต่างๆ ต้องแก้ไขตรงนั้นให้ได้ ไม่ให้เกิดขึ้น ได้อย่างเสียอีก 3 อย่าง ผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน แต่ทำไงได้อย่างแล้ว 3 อย่างที่ว่าเสียแล้วไม่เสีย มันอยู่ที่วิธีการ เทคนิค เทคโนโลยีมากมาย ฟังกันซะบ้าง เราอาจต้องแลกในเรื่องของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ถ้าได้มาก เสียน้อย มันก็ต้องยอมกัน เสียน้อยจะแก้ไขยังไง มันจะได้แก้ได้เสียที ไม่ว่าจะเป็นพลังงาน ไฟฟ้า เกิดจากก๊าซ น้ำมัน ถ่านหิน วันนี้ถ้าเราทำได้มันก็จะเสริมกันขึ้นมา ทำให้ 70 เปอร์เซ็นต์ ตามแผนพีพีพี ที่มีพลังงานที่เกิดจากอินทรีย์วัตถุ มันก็จะถูกไง วันนี้น้ำมันก็ถูก อะไรก็ถูก มันก็ดี ถ้าเราทำไม่ได้ มันไปไม่ได้ มี 3 อย่างที่มันถูกวันนี้ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน ถ่านหิน แต่ทำยังไงไม่ให้เกิดผลกระทบ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีมันได้มั้ย หรือไม่ได้ ไปดูบางประเทศเขาบอกเขายกเลิกถ่านหิน ไปดูสิครับเขายกเลิกถ่านหินแล้วเขาใช้อะไรแทน เขาใช้โรงงานนิวเคลียร์นะ ตามดูซิ อย่าไปฟังแต่ที่ดีๆ แล้วก็มาค้านผม แล้วถ้าเขาทำโรงงานนิวเคลียร์ท่านจะว่ายังไงล่ะ ท่านก็ไปค้านเขาไม่ได้อยู่แล้ว ไอ้เรายังค้านกันเองอยู่เนี่ย ของเก่าก็ทำไม่ได้ ถ้าเราช่วยกันรักษาเหล่านี้ไว้ได้ รักษาธรรมชาติไว้ได้ด้วย ทำให้ประเทศเข้มแข็งได้ด้วย สร้างความมีเสถียรภาพ ความมั่นคงทางพลังงาน มันก็จะเป็นผลดีนะ ควบคู่ไปกับการประหยัด ไม่ใช่ว่าน้ำมันถูกก็ขับรถเข้าไป เที่ยวเข้าไป อุบัติเหตุเกิดขึ้นสูงมากนะในช่วงที่ผ่านมา แล้วก็กลับมาโทษรัฐบาลว่ารัฐบาลทำให้ประชาชนนั้นบาดเจ็บ สูญเสีย เพราะว่าให้มีวันหยุดมากเกินไป นี่ฟังแล้วน่าตลกดีนะ ผมว่า ประชาชนก็ต้องช่วยตัวเอง ดูแลตัวเองด้วย ไม่มีกฎหมายใดจะไปห้ามท่านตายได้อยู่แล้ว เว้นแต่ตัวท่านเอง
ในห้วงฤดูร้อน 2 เดือน มีนาคม - พฤษภาคม ทุกปีนั้น จากสถิติมีการใช้ไฟฟ้าสูง ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ดำเนินการตามมาตรา 4 ป. ปิด ปรับ ปลด เปลี่ยน ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม - 30 พฤษภาคม ห้วงบ่ายสอง ถึงบ่ายสาม ก็พยายามหน่อยนะครับ ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น ปรับอุณหภูมิแอร์ไปที่ 26 องศาเซลเซียส ถ้าลำบากนักก็ไปอยู่กลางแจ้งไป บอกแอร์ร้อน 26 อยู่ไม่ได้ ก็ไปอยู่กลางแจ้งสิครับ ให้ลมมันเป่า หรือเปิดพัดลมเอาก็ได้ ข้างนอก ตอนนอนก็ไม่เปิดจนเย็นเจี๊ยบ แอร์ก็เป็นน้ำแข็ง แล้วก็ไม่เย็นเหมือนเดิม ทุก ๆ คนไม่เรียนรู้ ปรับไปมาก ๆ coil มันก็เป็นน้ำแข็ง มันก็ไม่เย็นอีกอยู่ดี นอนห่มผ้าหนาๆ เหล่านี้มันสุขภาพด้วย เปิดเย็นมาก ห่มผ้าหนา มันไม่ดีนักหรอกนะ เปิดแต่พอเพียง ห่มผ้าสบายๆ มันก็จะช่วยประหยัดได้ทุกอย่าง การปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน กาต้มน้ำร้อน แช่เอาไว้ อุ่นน้ำร้อนไว้ตลอด มันต้องเซฟลงบ้างนะ มันจะได้เซฟพลังงานไปด้วย รัฐก็ไม่ต้องไปสร้างพลังงานเพิ่มเติมมากมายจนมหาศาล ลงทุนมหาศาลวันนี้ แล้วทุกคนจะเอาราคาถูกเข้าไปอีก มันวนกันทั้งหมดนะ วิทยุ ทีวี ไม่ฟัง ไม่ดู ก็อย่าไปเปิด บางคนเปิดไว้เป็นเพื่อนเฉย ๆ ส่งเสียงไว้เป็นเพื่อน ไม่เหงา อยู่คนเดียว มันไม่ใช่นะ แล้วตอนนี้ก็อยากให้เปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเบอร์ 5 เปลี่ยนมาใช้หลอด LED ช่วยประหยัดพลังไฟฟ้าได้กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ วันนี้ก็มีโครงการที่ตลาดผม ตลาดข้างทำเนียบฯ นี่นะ ช่วยมาดูหน่อยนะครับ ผมก็มีหลายอย่างนะวันนี้ก็มีการเอาเตาถ่านมาแลกเปลี่ยนเตาใหม่ของผม เตาที่มันกระจายพลังงาน ใช้ถ่านที่เราอัดแท่งมา ความร้อนสูงขึ้น เนี่ยยกเตามาเข้าแถวเป็นแถวเลย เตาบ้านนะ เตาหิ้วๆ น่ะ เตาถ่าน เอามาแลกของใหม่ เสร็จแล้วเขาก็ทุบทิ้งตรงนั้นเลย ก็ต้องช่วยกันนะครับ ร่วมมือกัน ขอบพระคุณทุกคนที่้มาร่วมแรงร่วมใจกัน ตรงนี้ ตลาดของผม ตลาดของรัฐบาล ไม่ใช่ตลาดของผม ถ้าเราทำอย่างนี้ได้มันจะช่วยลดก๊าซเรือนกระจก ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ภายใน 20 ปีข้างหน้า ตามที่เราสัญญาไว้กับประชาคมโลก ทุกประเทศในโลกต้องลดให้ได้นะครับ อย่างน้อย 25 - 30 เปอร์เซ็นต์ ทุกประเทศในที่ประชุม
สำหรับในที่ประชุมของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนภารกิจด้านพลังงาน โดยให้มีการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งจะประกอบไปด้วยการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถไฟฟ้าในภูมิภาค โดยผมให้นำร่องการใช้งานกลุ่มรถโดยสารสาธารณะไฟฟ้าก่อน แล้วขยายผลไปสู่การส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล แบบค่อยเป็นค่อยไปในอนาคต วันนี้ก็มีอีโคคาร์ มีกระบะที่ใช้เครื่องจักรเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันปาล์มมาผสม B7 B10 B15 B20 วันนี้มันได้แค่ B7 B10 เท่านั้นล่ะ ต้องทำให้ถึง B15 B20 เราจะได้เอาปาล์มมาผสม 20 เปอร์เซ็นต์ 15 เปอร์เซ็นต์ มากกว่า 7 เปอร์เซ็นต์ 10 เปอร์เซ็นต์เดิม พี่น้องสวนปาล์มก็ไม่เดือดร้อน ผมพูดคุยหมดแล้วนะครับกับหลายประเทศที่จะมาลงทุน จะเข้าไปส่งเสริมอย่างครบวงจร วันนี้ได้เตรียมความพร้อมต่างๆ แล้ว เช่น การพัฒนาโครงสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ในเรื่องของการใช้รถไฟฟ้าทุกประเภท การกำหนดรูปแบบ มาตรฐานสถานีอัดประจุไฟฟ้า ภาษี กฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ อัตราค่าบริการรถโดยสารสาธารณะไฟฟ้า อัตราค่ารถไฟฟ้าและค่าบริการสำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้า การพัฒนาระบบบริหารความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศ ร่วมกับการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงการกำหนดมาตรการจูงใจ ส่งเสริมการลงทุน ลดอุปสรรค การประกอบกิจการต่างๆ ให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุน ได้มีการพบปะพูดคุยกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากเพื่อนของเรา จากญี่ปุ่น ซึ่งลงทุนมากมายอยู่ในประเทศเรา ก็ได้ย้ำนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ประหยัดพลังงานแบบต่าง ๆ อีโคคาร์รุ่นใหม่ ๆ รถยนต์ไฮบริด ซึ่งจะเป็นต้นแบบการพัฒนาไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าชนิดต่าง ๆ รวมถึงรถยนต์ไฮโดรเจน วันนี้ผมไปดูที่ตลาด มันก็น่าสนใจนะครับ จริงๆ แล้วมีการทดสอบ ทดลอง เด็ก ๆ ในสถานศึกษามานานแล้วล่ะ ที่เอาน้ำมา แล้วก็เอาก๊าซที่อยู่ในน้ำออกมา แล้วมาทำให้เกิดพลังขับเคลื่อน แต่มันเป็นการทดลองอยู่นะ วันหน้าเราอาจจะเป็นคนผลิตรถยนต์ไฮโดรเจนก็ได้ น้ำเยอะแยะ แต่ก็ต้องระวังเหมือนกัน น้ำขาดอีกแล้ว ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงนะครับ นั่นคือวิจัย พัฒนา ถ้าเราต้องการลดจริงๆ นะ ก๊าซเรือนกระจก
เราต้องให้ความสำคัญกับการผลิตรถยนต์ ใช้พลังงานจากเอทานอล ไบโอดีเซล เพื่อเพิ่มความต้องการในการใช้พืชพลังงาน ปาล์ม อ้อย และการดูแลตั้งแต่กลางทางไปถึงปลายทาง ให้ครบระบบเสียที คิดอะไร ชอบทำตรงนี้ ตรงนั้น แต่มันทำไม่ได้ทั้งหมด มันไม่ครบวงจรไง จะใช้แก๊ส ใช้ NGV ปั๊มแก๊สมันพอหรือเปล่า เหล่านี้ มันไม่คิดแบบผม ไม่คิดแบบรัฐบาลนี้ ผมไม่เข้าใจ
ที่ผ่านมา ผมก็ได้ไปเยี่ยมชมตลาดคลองผดุงฯ ที่ผมว่าเมื่อกี้ เมื่อวันก่อน มันเป็นการจัดงานในลักษณะเพลินพลังงาน งานวิจัยขายได้ ผมต้องการให้กระทรวงพลังงานเป็นเจ้าภาพ แล้วนำออกมาสู่การผลิต ทำให้คนรู้ว่าเรามีนวัตกรรมหลายอย่าง มากมาย ตัวอย่างเดี๋ยวผมยกให้ เดี๋ยวคงมีรูปให้ดูนะ หลอดไฟฟ้าพลังงานจากคน ตอนที่เราจะปิดไฟ ดับไฟ เอาหลอดนี้มาใช้สิ มาช่วยกันอุดหนุนหน่อย เป็นการใช้พลังงานความร้อนจากตัวคนไปทำให้เกิดไฟฟ้า เกิดแสงสว่างได้ เอาหลอดมาทดลองแล้ว เอาหลอดที่เขาผลิตมา เอามือจับแค่นี้ ความร้อนจากในตัวจะผลิตพลังงานแล้วทำให้ไฟสว่าง แทนไฟฉายได้ เปลืองใคร ไม่เห็นเปลืองใครสักอย่าง ถ่านก็ไม่เปลือง คนก็ไม่ได้เหนื่อยหนาสาหัสอะไร ความร้อนในตัวมีอยู่แล้ว ลองไปดูสิ ว่างๆ ก็ซื้อมา ไม่กี่ตังค์หรอก ดีกว่าจะต้องไปเปิดไฟทุกดวง หรือปิดไฟตามนโยบายรัฐบาล ร่วมมือก็ไม่ได้ เพราะกลัวความมืด ก็ถือไฟตัวนี้ไว้เลย จะถือไว้ 24 ชั่วโมงเลยก็ได้ถ้ากลัวความมืดล่ะก็ ไม่เปลืองไฟข้างนอกไง แล้วการรณรงค์ปิดไฟ 1 ชั่วโมง ให้โลกพัก ผมว่ามันใช้ได้ทันทีนะ ไฟฉายอีก อะไรอีก ที่มันไม่เสี่ยงกับพลังงาน และพลังงานทดแทนอย่างอื่นอีก การใช้แสงแดดมาขับเคลื่อน มอเตอร์ไฟฟ้า มาผลิตพลังงาน มาชาร์จแบตเตอรีอะไรต่างๆ มีหมดเลย เราทำไว้แล้วทั้งนั้นล่ะ แต่ไม่ซื้อ แต่ไม่ใช้ ไปซื้อของมียี่ห้อ แต่ทั้งหมดต้องผ่านมาตรฐานนะครับ ไม่ใช่ใช้แล้วไฟดูดตาย ไม่ได้เหมือนกัน ต้องมีการผ่านมาตรฐาน สมอ. ถ้าเป็นยาก็ผ่าน อย.ไปด้วย วันนี้ก็คนมาอุดหนุนกันเต็มไปหมด วันนึงหลายแสน ที่ผ่านมาก็หลายล้านแล้ว ก็ทำต่อไปนะครับ เป็นประโยชน์
เรื่องการจัดระเบียบบ้านเมือง สุดท้าย การขายของให้ถูกที่ การจัดระเบียบที่จอดรถ รถรับจ้าง รถตู้ รถอะไรก็แล้วแต่ การบุกรุกป่า ผมไม่อยากให้เจ้าหน้าที่รัฐมาอ้างว่านายกฯ สั่ง หัวหน้า คสช.สั่ง หรือใครสั่ง ทั้งหมดน่ะ ผมสั่งแต่เพียงว่า อะไรที่มันเป็นเรื่องข้อกฎหมาย อะไรที่ปล่อยปละละเลยมา การจัดระเบียบ ท่านไปทำในกฎหมายของท่าน หาวิธีการทางรัฐศาสตร์ด้วย สร้างความเข้าใจ จะให้รัฐบาลช่วยเยียวยาตรงไหนก็ว่ามา ไม่ใช่ว่าท่านไปทำ ไปทุบ ไปรื้อของเขาแล้วท่านบอกนายกฯ สั่ง คนก็มาเกลียดผมหมด แบบนี้ใช้ไม่ได้ อย่าให้ผมได้ยินอีก ผมเห็นคนรายงานมาหลายที่แล้ว คนที่พอจะชอบพอกันอยู่บ้าง ก็เกลียดผมไปด้วยตอนนี้ หาว่าผมไปรังแกคนจนบ้างอะไรบ้าง ผมรังแกเขาตรงไหน ผมแค่ให้มันอยู่ในระเบียบ ถ้าตรงนี้ไม่ได้ ต้องเข้าไปอยู่ที่ไหน ทุกคนก็ต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน บางคนมีไม่รู้กี่ร้าน ก็มาขายตรงนี้ตรงนั้นไปเรื่อย รับจ้างเขามาขายบ้างอะไรบ้าง ก็เผื่อแผ่คนอื่นเขาบ้างสิครับ นะ พวกเทศกิจ พวกอะไร ผมยังเห็นในทีวี ผมโกรธจริงๆ วันนั้น มาเรียกร้อง มาอะไรกับประชาชน ลงโทษสถานหนักนะครับ สอบสวนแล้ว ปลด ไล่ออก ถ้าผิดจริง คสช.ลงโทษทั้งหมดนะครับ วันนี้อย่ามาพูด วันนี้ไม่ทำ ทำไม่จริง เดี๋ยวท่านคอยดูก็แล้วกัน ปีนี้ ตอนนี้เขาทำมาตลอด 2 ปีเขาจัดระเบียบอยู่ คดีไหนๆ ยังไง ผมคิดว่าอย่าไปยุ่งเขาเลย ให้เขาทำ เขารู้หน้าที่ของเขาดีอยู่แล้ว ศาล กระบวนการยุติธรรม เพียงแต่ว่าเราอย่าไปก้าวล่วงเขา หรือรัฐบาลจะไปก้าวล่วงเขา มันก็ไม่ถูกนะ ความเชื่อถือเชื่อมั่นก็ไม่เกิดขึ้น เราต้องอยู่ด้วยการไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ลดความหวาดระแวง และทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนให้มากที่สุด อันนั้นเป็นสิ่งที่รัฐบาลทุกรัฐบาลควรจะดำเนินการในระยะต่อไป ไม่ใช่ควร “ต้อง” เลยล่ะ
วันนี้ขอพูดคุยเพียงเท่านี้นะครับ ขอบคุณครับ วันนี้พูดเร็วไปหน่อย เพราะว่าไม่อยากรบกวนเวลามาก เดี๋ยวจะเสียเวลาท่านอีก ไปดูหนัง ดูละครอะไรของท่าน อย่าลืมไปดูที่ผมบอกนะครับ ของทรูวิชันส์มั้ง ซีรีส์ Descendants of the Sun เป็นเรื่องของผู้สืบทอดอะไรเนี่ย ซึ่งดูแล้วมัน ... ผมไม่ได้ดูว่าเขาสวย นางเอก ผู้หญิงสวย ไม่ใช่ ผมดูว่าทำไมเขาคิดซีรีส์ออกมาได้แบบนี้ ทำไมเขาเขียนบทมาได้อย่างนี้ มันมีทั้งความทันสมัย มีทั้งดารายอดนิยม แล้วทำไมเขาเขียนเรื่องมาให้เกี่ยวพันกับเรื่องความรักที่มันไม่หวือหวา ไม่ใช่แบบเปลืองตัวอยู่ทุกวัน แสดงออกมาบางทีก็แหม เกินไปหน่อย แต่เขาก็อยู่ในกรอบประเพณี แล้วก็สอดแทรกไปด้วยความมีจรรยาบรรณในวิชาชีพของแต่ละคน ผู้ชายเป็นทหาร ร้อยเอก ผู้หญิงเป็นหมอ ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง แล้วถึงแม้จะชอบกัน รักกัน อะไรก็แล้วแต่ แต่ทุกคนไปก้าวก่ายงานของแต่ละคนไม่ได้ วันนี้มันพันกันไปหมด ลองไปดูนะครับ ผมไม่ได้ไปชื่นชมอะไรเขาพิเศษอยู่แล้ว เพียงแต่ผมอยากให้ท่านดูแล้วคิดดูซิว่าทำไมเขาคิดอย่างนี้ได้ ทำไมเราคิดอย่างนี้ไม่ได้ เราก็คิดแต่เพียงว่า เดี๋ยวตีกันสักหน่อย สองครอบครัวตีกัน แย่งเงิน ทรัพย์สิน เจ้าของบ้านทะเลาะกับทายาท มรดก พินัยกรรม ตามไปสู่คนใช้ทะเลาะกันเข้าไปอีก พอจะจบที ใครตายที ร้องห่มร้องไห้กัน น้ำตาเป็นเผาเต่า ผมว่าไม่ใช่ คือหนัง ละคร เขาทำให้มีความสุข อย่าไปอินมากนักขนาดนั้น มันไม่ใช่เรื่องจริง เป็นเรื่องนิยาย แต่นิยายก็ต้องสอดคล้องความเป็นจริงบ้างสิครับ อย่าไปเขียนแบบนี้ มันไม่มีหรอกสังคมแบบนั้นในประเทศไทย มีเหรอ ทะเลาะกันขนาดนั้นไม่มีหรอกนะ ทั้งวัน ทั้งคืน ไม่ต้องทำอะไรกัน ทะเลาะกัน แล้วมันทำงานกันตอนไหนล่ะ ไม่ต้องกินอะไรกันก็ได้เหรอ ทะเลาะกันทุกวัน ผมเห็นทุกเรื่อง แต่ผมไม่ทำลายวงการละครของท่านอยู่แล้วนะ บางอย่างก็ดี บางเรื่องก็ดี คนดูแล้วก็ชื่นชม มีหลายช่องนะครับ ที่มีรายการ แต่ผมไม่เคยดู แต่ผมทราบว่ามีอยู่ ช่องที่ผมพูดนี่คือช่องทรูวิชันส์ ช่อง 232 น่าจะมีวันพุธกับวันพฤหัสฯ ผมไม่ได้โฆษณาให้เขานะ ให้ท่านไปดูสักหน่อยก็ได้ แล้วท่านจะได้คิดออกว่า เอ๊ะ มันควรจะทำหนัง ทำซีรีส์กันยังไง ทำละครยังไง ไปดูนะ ดาราเราทั้งหล่อทั้งสวยเยอะแยะไปหมด แล้วทำอะไร ไปสร้างความเกลียดชัง ไปแต่งตัวให้มันหวือหวา หนังสือพิมพ์ก็ควรพิจารณาตัวเองนะครับ วันหยุดสุดสัปดาห์ รูปโจ๋งครึ่มเหลือเกิน ผมไม่อาจจะไปใช้กฎหมายกับท่าน แต่สังคมต้องช่วยกันนะครับ ไม่ใช่ว่าอยากให้ทำโน่นทำนี่ แต่ตัวเองก็อยากดู ไม่ใช่หรอกผมว่า แล้วให้รัฐบาลไปบังคับ ผมว่าทุกคนต้องบังคับได้ สังคมน่ะ บังคับให้สังคมมีความสุข ไม่เสื่อมโทรม ไม่เกิดสังคมเสื่อม พูดง่ายๆ เดี๋ยวก็เกิดปัญหาอะไรตามมาอีก เรื่องการข่มขืน การฆ่า การเป็นแม่ก่อนวัย มันเดือดร้อนกันไปหมดนะ เพราะฉะนั้นสื่อต่างๆ ต้องช่วยกันนะครับ ทำยังไงให้คนไทยเป็นคนที่กลับมาอยู่ในสังคมไทย วัฒนธรรมไทย ให้ได้โดยเร็ว การเอาต่างชาติมาก็เอามาได้ ผมไม่ได้ห้าม ห้ามไม่ได้อยู่แล้ว เอามาแต่พอสมควร ที่เป็นของเราก็แทรกเอาไว้ ยืนเอาไว้ เอาของเขามาปรับเปลี่ยนบ้าง อะไรบ้าง แต่เราต้องยืนของเรา หลายประเทศเขาทำเขายืนของเขาไว้หมด เอาประวัติศาสตร์มาทำให้ทันสมัย วันนี้ไม่มี เราก็ถอยไปเรื่อย ถอยไปสู่การรบราฆ่าฟัน ตีกันทุกวัน ผมว่าแย่ ฉะนั้นอย่าไปคาดหวังเลยว่าจะได้อะไรขึ้นมาถ้าท่านไม่แก้ล่ะก็ ต้องแก้ที่ตัวท่านเอง แก้ค่านิยมตัวท่านเอง แก้ด้วยการเรียนรู้ของตัวท่านเอง อย่าให้ใครเขาบิดเบือน แล้วก็ลดอัตตาตัวเองให้ได้นะครับ ขอบคุณนะครับ วันนี้ขอโทษ อาจจะพูดแรงไปบ้าง เบาไปบ้าง อะไรก็แล้วแต่ แต่ด้วยความหวังดี ด้วยความรักท่าน รักประเทศไทยทั้งสิ้น ผมคิดว่าทุกคน 70 ล้าน รักหมดล่ะ เว้นไปไม่เท่าไหร่ ที่ไม่ค่อยรัก ขอบคุณนะครับ สวัสดีครับ