ศาลปกครองกลางไต่สวนฉุกเฉิน พิจารณาคำขอเอไอเอสที่ขอขยายเวลาการหยุดให้บริการคลื่นความถี่ 900 อีก 3 เดือน อ้างแจสโมบายยังไม่จ่ายเงิน และต้องการเวลาสื่อสารลูกค้า พร้อมปัดข้อเสนอทรูที่จะให้ใช้งานฟรี เหตุโยกย้ายโครงข่ายซับซ้อนส่อผิด กม. กสทช.ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายแล้ว ด้านศาลให้คู่กรณีรอคำสั่งภายในวันนี้
วันนี้ (15 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ศาลปกครองกลางออกบัลลังก์ไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ 406/2559 เพื่อพิจารณาคำขอของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส (เอไอเอส) ที่ขอให้ศาลปกครองกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขยายระยะเวลาการหยุดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ เป็นเวลา 3 เดือน จากมติเดิมของ กสทช.ที่สั่งให้เอไอเอสยุติการให้บริการคลื่นความถี่ดังกล่าวในวันที่ 16 มี.ค.นี้
ทั้งนี้ คดีดังกล่าว เอไอเอสได้ยื่นฟ้องสำนักงาน กสทช., กสทช. และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ผู้ถูกฟ้องที่ 1-3 ต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่าผู้ถูกฟ้องได้ ร่วมกันออกคำสั่งให้เอไอเอสยุติการให้บริการคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ตามมติ กสทช.เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2558 และเมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นผลให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 900 เมกะเฮิรตซ์ กับเอไอเอสจำนวน 8 ล้านเลขหมายจะไม่สามารถใช้เลขหมายเดิมได้
โดยในการไต่สวนครั้งนี้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายต่างเดินทางมาให้ถ้อยคำต่อศาลกันอย่างคึกคัก ฝ่ายเอไอเอสมีคณะผู้บริหาร นำโดยสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานกรรมการบริหารฯ และฝ่ายกฎหมาย ขณะที่ด้าน กสทช.มี พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร, นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์, นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา และ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. โดยมีทีมกฎหมายของบริษัททรูมูฟ ยูนิเวอร์แซล คอมมูนิเคชั่น จำกัด ผู้รับใบอนุญาตใช้คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์รายใหม่ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งก่อนเริ่มการไต่สวน คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมทั้ง พ.อ.เศรษฐพงค์ นายประเสริฐ พล.อ.สุกิจ และนายประวิทย์ ยืนยันสอดคล้องกันว่า กสทช.ไม่สามารถขยายเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการ 2 จี ตามที่เอไอเอสร้องขอได้ เนื่องจากขณะนี้ บริษัท ทรูมูฟเอช ยูนิเวอร์แซล คอมมูนิเคชั่น จำกัด ได้รับใบอนุญาตไปแล้ว ส่วนแจสโมบาย แม้จะยังไม่ได้จ่ายเงินประมูลงวดแรก แต่ กสทช. ก็ถือว่าคลื่นดังกล่าวยังเป็นสิทธิของแจสโมบายอยู่ จนถึงวันที่ 21 มี.ค.นี้ ซึ่งต้องการเคารพผู้ชนะประมูลใบอนุญาตทั้ง 2 รายด้วย
“กทค.เดินตามกฎหมายและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เนื่องจากขณะนี้สัมปทานการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ สิ้นสุดลงแล้ว และได้มีมาตรการเยียวยาเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคตั้งแต่สิ้นสุดสัมปทานเมื่อ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทางเอไอเอส และ กทสช.ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าย้ายออกจากระบบอย่างต่อเนื่อง ด้วยระยะเวลาที่ถือว่านานเพียงพอแล้ว” พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าว
ขณะที่นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส เปิดเผยว่า เอไอเอสเข้าใจดี หากทรูมูฟจ่ายเงินค่าใบอนุญาตคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์แล้ว บริษัทจะใช้งานคลื่นดังกล่าวต่อไม่ได้ ส่วนการที่ทรูมูฟยื่นข้อเสนอให้บริษัทใช้งานได้ฟรีนั้น ไม่ได้มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ มีเพียงการพูดผ่านสื่อเท่านั้น อีกทั้งคลื่นที่เอไอเอสต้องการก็อยู่ในล็อตแรก ไม่ใช่ล็อตที่ 2 ของทรูมูฟ ซึ่งทางผู้ที่ประมูลได้อีกรายยังไม่ได้เข้ามาชำระเงิน ทางเอไอเอสจึงขอต่อเวลาคลื่นย่านนี้ไปอีก 3 เดือน เพื่อสื่อสารกับลูกค้าให้เรียบร้อยก่อน
“ต้องขอบคุณที่คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ยื่นข้อเสนอนี้มาให้ แต่เราขอรับไว้ด้วยใจ เพราะการโรมมิ่งลูกค้าที่มีในมือของเราไปไว้ที่ทรูนั้น ค่อนข้างลำบาก ในเรื่องระบบโรมมิ่งที่ต้องใช้ของทีโอที และการโยกย้ายโครงข่ายจะซับซ้อนหลาย ขั้นตอนและผิดกฎหมายแน่นอน เราจึงขอปฏิเสธข้อเสนอนี้ และถ้า กสทช.ยอมยืดเวลาออกไปอีก 3 เดือน ทางเอไอเอสยอมจ่ายค่าเช่าให้กับทาง กสทช.ในคลื่นล็อตแรกมากกว่า เพราะทำงานได้ทันทีไม่ซ้าซ้อน”
นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่า เอไอเอสได้เตรียมตัวและวางแผนที่จะให้บริการลูกค้ามาก่อน และมองว่า ดีแทคเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการร่วมมือกัน โดยจะใช้งบกว่า 1 หมื่นล้านบาท ในการอุดรอยรั่วนี้ ลูกค้า 3 กลุ่มที่ยังคงค้างอยู่ใน โครงข่าย 900 เมกะเฮิรตซ์นั้น ได้แก่ ลูกค้าเอไอเอส 4 แสนรายที่ยังคงค้าง ลูกค้าทีโอที 2 แสนราย และลูกค้าเอดับบลิวเอ็น 7.6 ล้านราย ซึ่งทางเอไอเอสได้ยื่นข้อเสนอไปยัง กสทช.อยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็น 1. การเยียวยาลูกค้าให้ถูกต้องตามกฎหมาย 2. ดูแลลูกค้าภายใต้การดำเนินงานที่เป็นไปได้จริง และ 3. ข้อเสนอหรือการกระทำใดๆ จะต้องเป็นประโยชน์กับภาครัฐและประชาชน
ภายหลังใช้เวลาไต่สวนนานกว่า 3 ชั่วโมง องค์คณะตุลาการศาลปกครองได้แจ้งให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายให้กลับไปรอฟังคำสั่ง ซึ่งจะมีคำสั่งออกมาภายในวันนี้ ซึ่งนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.กล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายรอคำสั่งศาลที่จะตัดสินในวันนี้ว่า จะให้ขยายเวลามาตรการคุ้มครองผู้บริโภคหรือไม่ ทั้งนี้ กสทช.น้อมรับไปดำเนินการ และได้แจ้งต่อศาลเพิ่มเติมว่าทางบริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมูนิเคชั่น จำกัด มีข้อเสนอให้เอไอเอสใช้บริการคลื่นย่าน 900 เมกะเฮิร์ตซ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพื่อลดผลกระทบต่อผู้ใช้บริการด้วย โดยตามหลักแล้วหากศาลปกครองมีคำสั่งขยายมาตรการเยียวยาจะต้องดูในเงื่อนไขของคำสั่งศาลด้วยว่าจะคุ้มครองไปจนถึงวันใด และมีเงื่อนไขอื่นๆ ประกอบเพิ่มเติมด้วยหรือไม่
ส่วนนายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส ระบุว่า ได้อธิบายศาลให้รับทราบว่าข้อเสนอใดๆ ที่สามารถช่วยลูกค้าได้ก็พร้อมดำเนินการ แต่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับความเป็นจริง แต่หากศาลจะขยายมาตรการเยียวยา โดยให้คลื่นความถี่ของทรูฯ ประเด็นนี้เอไอเอสไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอ แต่ต้องขอขยายเวลาที่เพื่อให้ทำได้ในทางปฏิบัติ วันนี้ขอรอคำสั่งศาลเป็นทางการ เบื้องต้นในระหว่างการไต่สวนไม่ได้แจ้งระยะเวลาว่าเอไอเอสต้องการขอขยายออกไปกี่เดือน เพียงแต่ได้บอกผลกระทบ บอกวิธีการ และมาตรการของเอไอเอส