xs
xsm
sm
md
lg

พิษนโยบายใคร! “ไทยมาร์ท” ยังเคว้ง! ผู้ถือหุ้น จ่อขอความเป็นธรรม “บิ๊กตู่"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คนงานไทยมาร์คที่ถูกพ้นสภาพการจ้างงาน จากพิษเศรษฐกิจนโยบายใคร  (แฟ้มภาพเมื่อต้นปี 2559)
พิษนโยบายใคร! “ไทยมาร์ท” ยังเคว้ง! ผู้ถือหุ้นจ่อขอความเป็นธรรม ยื่นหนังสือ “บิ๊กตู่” หลังยังไม่ได้รับคืนทรัพย์สินจากเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ เหตุปิดกิจการชั่วคราวในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อบริษัททั้งในส่วนของพนักงานของบริษัท และร้านค้าโดยรอบ เผยต้นปี 59 พนักงานกว่า 500 คน จาก 7 สาขา 1 คลังสินค้า ปิดตัวถูกพ้นสภาพการจ้างงาน

วันนี้ (14 มี.ค.) มีรายงานว่า ภายหลัง MGR Online นำเสนอข่าว ศาลล้มละลายสั่งพิทักษ์ทรัพย์ “ไทยมาร์ท” พนักงาน 380 คน ถูกลอยแพ http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000010384

ต่อมาศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้เพิกถอนการพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว บริษัท ไทยมาร์ท ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา แต่ทางกรรมการผู้มีอำนาจและผู้ถือหุ้นระบุว่า เจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ยังประวิงเวลาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ซึ่งบริษัทฯ พยายามดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งติดต่อประสานงานตลอด 2 เดือนที่ปิดกิจการ แต่ก็ไม่เป็นผล บริษัท ไทยมาร์ท ไม่สามารถดำเนินกิจการได้ ทำให้พนักงานเดือดร้อนขาดรายได้

ด้านนายกำพล ปัญญาพฤฒิโชติ กรรมการผู้มีอำนาจและผู้ถือหุ้น บริษัท ไทยมาร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องความเป็นธรรม เพราะหลังจากศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้เพิกถอนการพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าทางบริษัทยังไม่ได้รับการส่งคืนทรัพย์สินให้กับบริษัทจากเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ทำให้ไทยมาร์ท ไม่สามารถดำเนินกิจการได้ ซึ่งบริษัทฯพยายามดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทั้งติดต่อ ประสานงานกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ก็ไม่เป็นผล อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าบริษัท ไทยมาร์ทไม่ได้ล้มละลายอย่างที่ผู้ร่วมทุนกล่าวอ้าง แต่การปิดกิจการจากการพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อบริษัททั้งในส่วนของพนักงานของบริษัท และร้านค้าโดยรอบ พร้อมย้ำว่าไทยมาร์ทไม่ได้ล้มละลายแต่เป็นการขอพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวเท่านั่นไม่ใช่พิทักษ์ทรัพย์ขั้นเด็ดขาด

“ทั้งนี้ บริษัทฯ กำลังมีการปรึกษาหารือกันว่าหากเจ้าหน้าที่ฯยังไม่คืนทรัพย์สินให้กับบริษัทตามคำสั่งศาล เป็นไปได้ว่าอาจจะมีการไปยื่นถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอความเป็นธรรมและเร่งรัดให้มีการคืนทรัพย์สินให้บริษัท” นายกำพลกล่าว

สำหรับกรณีของบริษัท ไทยมาร์ท ได้เกิดปัญหาขัดแย้งเกี่ยวกับการบริหารกิจการภายในบริษัทฯ ระหว่างกรรมการบริษัท และผู้ถือหุ้น จนเป็นเหตุมีการฟ้องร้องให้ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวตามคำสั่ง แจ้งคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว ที่ ศย.300.011(พ)141 ในคดีของศาลล้มละลายกลาง คดีหมายเลขดำที่ ล.107/2559 เป็นเหตุให้บริษัทต้องหยุดประกอบกิจการตามคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จนเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2559 ศาลได้มีคำสั่งยกเลิกคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวแล้ว และคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลล้มละลายกลาง ซึ่งมีกำหนดนัดสืบพยานโจทก์จำเลย ในวันที่ 10-11 พฤษภาคม 2559

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ผู้ถือหุ้นของบริษัท ไทยมาร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของศูนย์การค้าส่งสินค้าสำเพ็งรายใหญ่ พร้อมด้วยผู้บริหาร แถลงข่าวขอความเป็นธรรมยืนยันว่า บริษัทไทยมาร์ทไม่ได้ล้มละลาย อย่างที่ผู้ร่วมทุนกล่าวอ้างและไปฟ้อง แต่เป็นการขอพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวเท่านั้น ไม่ใช่พิทักษ์ทรัพย์ขั้นเด็ดขาด เนื่องจากที่ผ่านมายอดขายต่อเดือนมีถึง 60 ล้านบาท และมีความสามารถในการหารายได้เพื่อชดใช้เงินจำนวน 200 กว่าล้านบาท การที่ผู้ร่วมลงทุนไปฟ้องศาลล้มละลายได้จึงถือว่าไม่เป็นธรรม เพราะความเป็นจริงยังมีผู้สนใจที่ต้องการเข้ามาร่วมทุนเพื่อขยายธุรกิจให้เติบโต พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์เร่งคืนทรัพย์สินให้ทางไทยมาร์ทด้วย

มีรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค. MGR Online นำเสนอข่าวว่าที่สำนักงานใหญ่ บริษัท ไทยมาร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ให้บริการศูนย์ค้าส่งสินค้าสำเพ็ง นายลัทธิ แสนรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า พร้อมด้วยพนักงานบริษัท ไทยมาร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด อีกกว่า 100 คน เดินทางเข้ามาเพื่อเรียกร้องให้ฝ่ายผู้บริหารออกมาชี้แจงกรณีที่มีคำสั่งจากศาลล้มละลายกลาง และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่องการยึดและรวบรวมทรัพย์สินตามคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว ทำให้พนักงานทุกคนของบริษัท พ้นสภาพจากการจ้างงาน

นายลัทธิกล่าวว่า เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เข้ามาภายในบริษัท ไทยมาร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด ทุกสาขา ซึ่ง “ไทยมาร์ท” ทั้งหมด มีทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 7 สาขา 1 คลังสินค้า พร้อมกับนำคำสั่งจากกรมบังคับคดี มาติดประกาศเพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์สินชั่วคราว และให้พนักงานทั้งหมดออกจากบริษัทและศูนย์ค้าส่งทันที พร้อมกับแจ้งว่าพนักงานพ้นสภาพการจ้างงานจำนวน 380 คน โดยไม่มีเอกสารแจ้ง โดยศาลล้มละลายมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ในวันที่ 22 มกราคม 2559 และเจ้าพนักงานเข้ามาติดประกาศวันที่ 25 ม.ค. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างเร็ว พนักงานยังไม่ทันได้เตรียมตัว และหางานใหม่ไม่ทัน ทั้งที่วันที่ 29 ม.ค. จะเป็นวันจ่ายค่าจ้าง ซึ่งพนักงานทุกคนเดือดร้อนมาก เพราะทุกคนก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องดูแลและใช้จ่าย จึงอยากให้ผู้บริหารออกมาชี้แจ้งใน 4 ประเด็น คือ 1. สถานะของพนักงาน บริษัท ไทยมาร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด ปัจจุบันเป็นอย่างไร 2. เงินเดือน ค่าจ้างเดือน ม.ค. 2559 ที่มีกำหนดรับในวันที่ 29 ม.ค. จะได้รับหรือไม่ 3. ในกรณีหากมีการปิดกิจการจริง สถานะการเป็นพนักงานของบริษัทสิ้นสุดลง ทางผู้บริหารจะมีแนวทางอย่างไรในการช่วยเหลือพนักงาน เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายแรงงาน อาทิ เงินชดเชย และสวัสดิการ 4. ความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างผู้ถือหุ้นเป็นอย่างไร และมีแนวโน้มที่จะดำเนินกิจการห้างไทยมาร์ทต่อหรือไม่

ตอนนั้นนางหนูเย็น ศรีภิรมณ์ อายุ 62 ปี พนักงานรักษาความสะอาดให้บริษัท ไทยมาร์ท สาขารามอินทรา เปิดเผยว่า ตนเป็นคน จ.อุดรธานี เดินทางขึ้นมาทำงานที่กรุงเทพฯ พร้อมกับสามีวัย 68 ปี เนื่องจากบ้านที่อุดรนั้นมีอาชีพทำนา แต่เมื่ออายุมากขึ้นก็เริ่มทำไม่ไหวจึงเข้ามาหางานใน กทม. ที่บ้านนั้นอยู่ด้วยกัน 4 คน มีตน สามี ลูกชายที่พิการ 1 คน และหลานชาย 1 คน ตนทำงานกับบริษัทนี้มา 4 ปีแล้ว พร้อมกับหลานชายอีกคนหนึ่ง ในแต่ละเดือนเงินค่าแรงที่ได้มาก็จะนำไปใช้เรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ ใช้จ่ายเลี้ยงดูลูกที่พิการและคนในบ้าน ไม่เคยเหลือเงินพอเก็บออมเลย หากบริษัทต้องปิดตัวลงจริงตนคงลำบาก เพราะรายได้ในส่วนของตนและหลานชายจะหายไป และตนก็อายุมากแล้วจะไปสมัครงานที่ไหนก็อาจจะไม่มีใครรับแล้ว



ผู้บริหารแถลงข่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น