“อนุพงษ์” เผยทุกหน่วยงานร่วมบูรณาการแก้ปัญหาภัยแล้ง รับบางพื้นที่อาจมีปัญหาน้ำอุปโภค บริโภค ซึ่งต้องช่วยดูแล แนะประชาชนยอมรับวิกฤต เรียกร้องประชาชนช่วยประหยัด
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ภัยแล้งว่า เป็นเรื่องของหลายหน่วยงาน เช่น ในเขตของกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนนอกเขตกรมชลประทาน จะอยู่ในความรับชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตอนนี้ทุกฝ่ายได้มีการเตรียมการแล้ว สำหรับกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดจะบูรณาการอย่างละเอียด เฉพาะพื้นที่ใดก็ตามหากน้ำขาดแล้วจะนำน้ำมาจากที่ไหน ทางกรมชลฯจะให้ได้หรือไม่ หรือหน่วยงานของกระทรวงทรัพยฯจะดำเนินการอย่างไร ไม่ว่าน้ำอุปโภคบริโภค หรือน้ำจาการการเกษตร จะไปจบอยู่ที่การประกาศเขตภัยพิบัติที่มีการช่วยเหลือ ถ้าน้ำอุปโภคบริโภคขาด ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะขนน้ำไปช่วยเหลือด้วย โดยมีการวางแผน เตรียมการอยู่แล้ว
“ทราบมาว่าน้ำอุปโภคบริโภคแม้ว่าจะมีปัญหาบ้างในบางพื้นที่ ก็แก้ไขกันไป ขณะที่น้ำทางการเกษตร ทางกระทรวงเกษตรฯแจ้งมาว่า พืชที่ใช้น้ำมากจะมีปัญหา อย่างไรก็ตาม ถ้าตรงไหนช่วยได้จะมีน้ำจากเขื่อน หรืออ่างเก็บน้ำไปช่วยเป็นพื้นที่ไป คงไม่สามารถพูดออกมาให้เห็นเป็นภาพกว้างทั้งประเทศได้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า น้ำอุปโภค บริโภค มีบริษัทที่ผลิตน้ำดื่ม จะมีการจำกัดการผลิตน้ำ มีความกังวลหรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า “ถ้าถามว่ากังวลหรือไม่ ผมไม่กังวล ถามผมเรื่องอื่นดีกว่า ถามอย่างอื่นได้มั้ย มีมาตรการอย่างไร”
ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า เรื่องของการให้คนกรุงเทพฯประหยัดน้ำ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า “ทุกคนก็พูดกันอยู่ พูดกันทุกครั้ง ถ้าสื่อจะช่วยกัน เมื่อทราบว่าสถานการณ์มันมีปัญหา ก็จะต้องช่วยกันใช้อย่างประหยัด ยกตัวอย่างของกรุงเทพฯ ต้องรอน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา บางครั้งที่ปล่อยน้ำลงมา เขาก็ต้องปิดประตูน้ำทั้งหมด เพื่อไม่ให้น้ำเข้าไปในคลองเล็กๆ เพื่อจะดันน้ำทะเลให้อยู่ เมื่อน้ำทะเลขึ้น เราต้องปิดให้หมด ไม่อย่างนั้นปล่อยไปมันก็เลี้ยวกลับมาเข้าลำคลอง น้ำทะเลก็หนุนขึ้นมา ถ้าไปถึงสถานีสูบน้ำสำแล ที่เป็นจุดสูบน้ำของการประปานครหลวง ก็จะเกิดผลต่อระบบการทำประปา เพราะฉะนั้นเขาก็ต้องดันน้ำไม่ให้ค่าความเค็มเกิน ประชาชนก็ขอให้ประหยัดจะได้เชื่อมเข้าด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่ามาตรการที่จะให้ประชาชนช่วยกันประหยัดน้ำ ที่จะเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ ค่อนข้างกังวลหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ทุกคนจะต้องตระหนักว่าสถานการณ์มันเกิดขึ้นแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ต้องพยายามแก้ปัญหา เช้ามาไม่มีสิทธิ์จะคิดอย่างอื่น นอกจากจะคิดว่า น้ำที่มีจะช่วยกันทำอย่างไร ให้ประชาชนไม่เดือดร้อน ถ้าเดือดร้อนจะต้องไปบรรเทาเขาให้ได้ ไปช่วยเหลือ หากสุดท้ายแล้วเกิดความเสียหาย ก็ต้องไปเยียวยา คิดได้แค่นั้น จะต้องเตือนประชาชนให้ช่วยกันรับรู้ถึงสถานการณ์ อย่าถามตนว่ากังวลหรือไม่ ตอบไปก็ไม่ได้เกิดประโยชน์กับสังคม ไม่มีสิทธิ์กังวลอะไรทั้งสิ้น ต้องไปหาทางแก้
