รองนายกฯ เผยให้ กกต.แก้ไขบทลงโทษบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ชี้ไม่เป็นทางการ บทลงโทษฝ่าฝืนประชามติต้องเป็น พ.ร.บ. ยัน รบ.ไม่หลับหูหลับตาส่งแน่ ไม่แคร์มีการแฉจดหมายตัวเองขอพักโทษผู้ต้องหา แจงเปิดเผยโปร่งใสตามช่องทาง ย้อนถ้ามีเหลี่ยมคงสั่งทางมือถือ
วันนี้ (29 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการกำหนดบทลงโทษสูงถึง 10 ปี สำหรับผู้ที่บิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญไว้ในร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความเรียบร้อยในการออกเสียงประชามติ พ.ศ. ... ว่าตนเห็นร่างดังกล่าวแบบที่ไม่เป็นทางการ และได้ส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปร่างเพิ่มเติม เพราะตอนที่ กกต.ร่างมาครั้งแรกเขาเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าจะทำเป็นคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และมีประกาศตามออกมาอีกว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ จึงทำมาเพียง 16 มาตราเท่านั้น แต่ตนระบุว่าไม่ได้ ถ้าออกเป็นคำสั่งจะเขียนยืดยาวไม่ได้ เนื่องจากเวลาใช้ต้องมีการตีความ จึงเห็นว่าควรออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หรือพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เมื่อเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะได้ถามเจตนารมณ์ของผู้ร่างได้ เพราะขณะนี้รัฐธรรมนูญชั่วคราวที่จะมีการแก้ไขกำหนดให้เนื้อหาจะออกเป็น พ.ร.บ.ทั้งหมด ไม่มีการออกประกาศกำหนดบทลงโทษเพิ่มเติม ดังนั้น 16 มาตราอาจไม่พอ จึงให้ กกต.ไปเขียนใหม่โดยมีความละเอียดชัดเจนว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ ตนได้เร่ง กกต.ไปแล้วให้เร่งเสนอมา แนวโน้ม 99% จะออกเป็น พ.ร.บ. อาจจะมีประมาณ 20-30 มาตรา นอกจากนี้ ตนได้ประสานไปยังประธาน สนช.แล้วว่าจะเร่งพิจารณาได้ภายในกี่วัน
“ผมได้บอกนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ว่า หากออกเป็น พ.ร.บ. รัฐบาลจะไม่หลับหูหลับตาส่งตามนั้น ต้องให้เวลาสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในการตรวจ ถ้าส่ง สนช.อาจจะขัดกันไปกันมา ภาษาไม่สลักสลวย ก็จะเสียเหลี่ยมเพราะส่งไปในนามรัฐบาล จึงต้องให้เวลาสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาด้วย” นายวิษณุกล่าว
รองนายกฯ กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 ในประเด็นประชามติว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกายังไม่ได้ส่งเรื่องกลับมา หากส่งกลับมาแล้วจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยจะร่วมประชุมกับ คสช.หรือไม่ก็ได้ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากทั้งคู่ และจะเสร็จสิ้นภายในเดือน มี.ค. 59 ตรงนี้ได้หารือกับประธาน สนช.แล้ว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าแก้ไขเฉพาะประเด็นประชามติ ส่วนประเด็นทางออกหากประชามติไม่ผ่านนั้นยังไม่มีการพูดถึง
นายวิษณุกล่าวถึงกรณีมีการเผยแพร่จดหมายลายมือตนขอให้มีการพักโทษผู้ต้องหารายหนึ่งที่ส่งไปถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่า ไม่ติดใจว่าใครเป็นคนออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าว ไม่สนใจ ไม่ได้กลัวอะไร เพราะหนังสือที่ส่งไปทำโดยเปิดเผย โปร่งใส เจตนาไม่ได้ปิดผนึกอยู่แล้ว เพราะถือว่าไม่มีเจตนาแอบแฝง ทุกอย่างทำตามช่องทาง และไม่ได้มีความรู้จักกับคนที่มาร้องทุกข์หรือผู้ต้องขังดังกล่าว ตนรู้ว่าการพักการลงโทษคืออะไร แต่คนทั่วไปอาจไม่รู้ เมื่อมีเรื่องนี้มาก็ดีคนจะได้รู้ว่าเรามีระบบนี้อยู่ มันเหมือนการคุมประพฤติ ต้องมีการรายงานตัวทุกเดือน ไม่ใช่การปล่อยตัวหรือการอภัยโทษ ผู้ที่จะพิจารณาพักการลงโทษนั้นมีคณะกรรมการโดยมี รมว.ยุติธรรมเป็นประธาน ตนจึงให้ผู้ที่มาร้องไปพบกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปเล่ารายละเอียดให้เขาฟัง ได้หรือไม่ได้ตนไม่รู้ โดยเขียนข้อความด้วยความชัดเจนโปร่งใสแล้วให้เขาถือไปเพื่อไปคุยกันเอง ไม่ได้ส่งไปในทางลับ เพราะไม่ใช่การขอความดีความชอบ มันมีระเบียบปฏิบัติปกติ ยืนยันไม่แทรกแซง ตรงไปตรงมา ถ้ามีเล่ห์มีเหลี่ยมตนคงทำอีกแบบหนึ่ง
“ลองคิดดู ทำไมผมไม่สั่งการทางโทรศัพท์ ทำไมไม่มุบมิบ ไม่แอบ มันมีวิธีตั้งเยอะแยะ คนอาจมองว่าผมพลาด แต่ผมถือว่าไม่พลาด มีผู้ใหญ่คนหนึ่งเขียนจดหมายมาเมื่อเช้าวันเดียวกัน น่ารักมากว่าเรื่องนี้ไม่เป็นไร มือที่ไม่มีบาดแผลถึงจุ่มยาพิษก็ไม่ซึมเข้าไป” นายวิษณุกล่าว