ศาลปกครองสูงสุดสั่งยกคำขอ ไม่ทูลเกล้าฯ ตั้ง “บดินทร์” เป็นอธิการบดี ม.เกษตรฯ

ศาลปกครองสูงสุด กลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น ที่ไฟเขียวทูลเกล้าฯ “บดินทร์ รัศมีเทศ” นั่งอธิการบดี ม.เกษตรฯ ก่อนหน้านี้ ชี้ สภามหาวิทยาลัยเพิกถอนมติสรรหาไปแล้ว ก่อนศาลปกครองชั้นต้นสั่งบรรเทาทุกข์ชั่วคราว ซ้ำถ้าศาลมีคำสั่งตามที่ขอ เท่ากับไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาคดีต่อไป

วันนี้ (23 ก.พ.) ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น เป็นยกคำขอของ รศ.บดินทร์ รัศมีเทศ ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ขอให้ศาลกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา โดยห้ามมิให้สภามหาวิทยาลัยดำเนินการใด ๆ อันเป็นการเปลี่ยนแปลงมติสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในการประชุมครั้งที่ 9/2557 เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 57 ที่เห็นชอบให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง รศ.บดินทร์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. 58 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวสืบเนื่องจาก รศ.บดินทร์ ได้ยื่นฟ้องเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 - 2 ต่อศาลปกครองชั้นต้น กรณีไม่ดำเนินการในเรื่องการทูลเกล้าฯ เพื่อแต่งตั้งตนเองให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตามที่สภามหาวิทยาลัยมีมติในการประชุมครั้งที่ 9/2557 เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2557 โดยอ้างว่า มีการร้องเรียน รศ.บดินทร์ อาจมีคุณลักษณะไม่เหมาะสมดำรงตำแหน่งอธิบดีใน 2 ประเด็น คือ ระหว่างรับราชการ มีการเปิดบริษัท 4 แห่ง และดำรงตำแหน่งกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และพบหลักฐานการุทจริตในขณะที่ รศ.บดินทร์ ดำรงตำแหน่งคณบดีคณะบริหารธรุกิจเมื่อปี 2554

โดยเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2558 ศาลปกครองชั้นต้น ได้มีคำสั่งกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราว ก่อนมีคำพิพากษาตามที่ รศ.บดินทร์ ร้องขอ โดยสั่งห้ามมิให้สภามหาวิทยาลัยดำเนินการใด ๆ อันเป็นการเปลี่ยนแปลงมติสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในการประชุมครั้งที่ 9/2557 เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2557 ที่เห็นชอบให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง รศ.บดินทร์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. 2558 เป็นต้นไป ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองชั้นต้นต่อศาลปกครองสูงสุด

ส่วนเหตุที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น ระบุว่า หากศาลมีคำสั่งตามคำขอของ รศ.บดินทร์ และมีการดำเนินการตามคำสั่งของศาล โดยสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง รศ.บดินทร์ ให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีแล้ว ย่อมเท่ากับ รศ.บดินทร์ ชนะคดีนี้ คดีนี้ย่อมไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาต่อไป จึงไม่สมควรมีคำสั่งตามคำขอของ รศ.บดินทร์

นอกจากนี้ ยังปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วาระพิเศษ เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2558 สภามหาวิทยาลัย ได้มีมติให้ดำเนินการสรรหาผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ใหม่ และมีมติเพิกถอนมติสภามหาวิทยาลัยเกี่ยวกับการสรรหาผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีในการประชุมครั้งที่ 9/2557 เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2557 รวมทั้งเพิกถอนมติสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อื่นที่เกี่ยวข้องในภายหลัง จนถึงมติในการประชุมสภามหาวิทยาลัยวาระพิเศษเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2558 ดังนั้น มติเห็นสมควรแต่งตั้ง รศ.บดินทร์ ให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีในการประชุมครั้งที่ 9/2557 เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2557 จึงถูกเพิกถอนไปตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. 2558 อันเป็นวันก่อนที่ศาลปกครองชั้นต้นจะมีคำสั่งกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2558

ส่วนมติของสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการประชุมวันที่ 14 ก.ค. 2558 จะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นข้อพิพาทที่แยกต่างหากจากข้อพิพาทในคดีนี้ ดังนั้น การที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งห้ามสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดำเนินการใด ๆ อันเป็นการเปลี่ยนแปลงมติสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในการประชุมครั้งที่ 9/2557 เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2557 ที่เห็นชอบให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง รศ.บดินทร์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. 2558 เป็นต้นไป ศาลปกครองสูงสุดไม่เห็นพ้องด้วย จึงคำสั่งกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น.