รมต.ประจำสำนักนายกฯ กำกับ พศ. ชี้แจงมติ มส.เกี่ยวกับ “พระธัมมชโย” ให้ชัด เพราะเกี่ยวข้องกับความศรัทธาต่อองค์กรสงฆ์ของสังคม ส่วนการแต่งตั้งสังฆราชองค์ใหม่ยังไม่คืบ
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีมหาเถรสมาคม (มส.) มีมติว่า พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ไม่อาบัติปาราชิกว่า หลังจากมีมติออกมาแล้วต้องไปดูหนังสือชี้แจงของ มส. และ พศ.ที่จะทำไปถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะที่ทำเรื่องสอบถามเข้ามาว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ทั้งนี้ ตนได้บอก พศ.ไปว่าเรื่องนี้สังคมไม่ได้มองว่าเป็นปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย ข้อบังคับ หรือพระธรรมวินัยเท่านั้น แต่เป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับความศรัทธาต่อองค์กร สถาบันพระพุทธศาสนา พศ.จึงต้องชี้แจงกับสังคมให้เข้าใจว่าที่ผ่านมาได้ทำไปตามอำนาจหน้าที่ของตัวเองอย่างไรบ้าง สุดขอบเขตอำนาจตัวเองแล้วหรือยัง ขณะที่ทาง มส.คงต้องทำแบบนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งตนได้เสนอข้อเสนอแนะไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำอย่างไรเพราะมีข้อครหาเกี่ยวกับสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชกับวัดพระธรรมกาย ซึ่งยังเป็นที่สงสัยของสังคมอยู่ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ตนคิดว่าเราต้องแยกกันก่อน เมื่อวันที่ 10 ก.พ. มส.หารือกันเรื่องพระภิกษุรูปหนึ่ง เขามองแล้วว่าข้อกฎหมายหรือข้อธรรมวินัยที่ออกมาก็เป็นไปตามมตินั้น แต่ว่ามีเรื่องของศรัทธาอยู่ จึงต้องดูสังคมรู้สึกอย่างไร จำเป็นต้องชี้แจงหรือทำความเข้าใจอะไรเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะทำอย่างไรเพราะประชาชนเริ่มเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนากันมากขึ้น นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ก็ต้องเอาศรัทธากลับมาให้ได้ ต่อข้อถามว่า หลังจากนี้ พศ.จะดูแลอย่างไรให้พระสงฆ์อยู่ในกฎระเบียบที่ถูกต้อง ไม่ทำอะไรผิดแปลกจากข้อบัญญัติทางพระพุทธศาสนา นายสุวพันธุ์กล่าวว่า เรื่องนี้เราเคยบอกกันว่าต้องยึดข้อกฎหมาย ข้อบังคับของ มส. และพระธรรมวินัย แต่วันนี้ตนคิดว่าเราคงต้องเพิ่มอีกสักเรื่องหนึ่งแล้ว คือ ต้องคำนึงถึงศรัทธาของประชาชนที่มีต่อองค์กรพระพุทธศาสนา จะคิดแบบเดิมไม่ได้แล้ว ตนเห็นว่าเรื่องของคณะสงฆ์หรือของใครก็แล้วแต่ ว่ากันไปเป็นกรณีไป โดยยึดกฎหมายและพระธรรมวินัยเป็นหลักแล้วดำเนินการไปตามนั้น ส่วนประเด็นใดที่ไปเชื่อมโยงกับความศรัทธาของสังคมก็ต้องมีประเด็นที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม ดังนั้น เรื่องที่ยังค้างคาก็ต้องติดตาม ดูไปตามข้อกฎหมายที่มีอยู่ ดีเอสไอก็ทำของเขาต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเรื่องนี้จบแล้วจะทำให้การแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่เดินต่อไปได้หรือไม่ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน แต่สังคมอาจจะมองถึงความเชื่อมโยงกัน ซึ่งอย่างไรก็ตาม เรื่องแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชยังอยู่ในขั้นตอนของตนอยู่ ยังไม่ได้เดินหน้าไปไหน เพราะตนยังเข้าใจสถานการณ์ได้ไม่ครบถ้วน