xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” พูดแปลก ต้องเร่งทำงาน เวลามีน้อย ไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า รวมถึงการเลือกตั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“บิ๊กตู่” ประชุม คทป. วางแนวทางประสานการทำงานของหน่วยงานปราบการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบุต้องเข้มงวดในการทำงานทุกเรื่องเพราะเวลาเหลือน้อย ไม่รู้วันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น รวมทั้งการเลือกตั้ง ไม่คิดเพิ่ม ขรก.แม้ประสบปัญหาขาดแคลน

ที่ทำเนียบรัฐบาล เช้าวันนี้ (11 ก.พ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ (คทป.) ครั้งที่ 1/2559 โดยก่อนการประชุมนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เป็นปัญหาของประเทศไทยมาโดยตลอดในหลายรัฐบาลที่ผ่านมาซึ่งเกิดจากการที่มีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ รวมทั้งการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีความชัดเจน ส่วนงานด้านการปราบปรามก็ยังไม่เข้าใจในรายละเอียดมากนัก จึงได้หารือกับรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะงานด้านปราบปรามที่ต้องสร้างความน่าเชื่อถือ และให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขณะนี้จำเป็นต้องเข้มงวดการทำงานในทุกเรื่องมากยิ่งขึ้น เพราะเวลาทำงานเหลือน้อยลง เพราะวันข้างจะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่อาจทราบได้ รวมถึงการเลือกตั้งด้วย จึงต้องทำงานอย่างเต็มที่ ตามกรอบที่วางไว้ พร้อมโชว์แผ่นพับแสดงแผนการดำเนินงานของรัฐเพื่อให้ทุกกระทรวงและทุกหน่วยงาน รับรู้ว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ และปรับกรอบการทำงานให้สอดคล้องกับแผนงานดังกล่าว รวมทั้งสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเดินหน้างานตามเป้าหมายที่วางไว้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับปัญหาขาดแคลนบุคลากรในทุกหน่วยงานนั้น ทุกหน่วยงานต้องหาทางทำงานร่วมกัน ปรับการทำงาน ให้สอดรับกับบุคลากรที่มี เพราะรัฐไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะจัดสรรข้าราชการให้ครบตามอัตราที่ร้องขอทุกตำแหน่ง ตัวอย่างเช่น หากต้องเพิ่มข้าราชการ 1 คนต้องใช้เงินถึง 25 ล้านบาท แต่หากยังมีความจำเป็นที่หน่วยงานต้องขออัตราบุคคลเพิ่ม ก็อาจต้องให้คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. รื้อระบบข้าราชการใหม่ทุกกระทรวง เพื่อพิจารณาปรับโครงสร้างส่วนราชการต่อไป

จากนั้นเวลา 11.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุมเรื่องสำคัญ เรื่องที่จะแก้ไขปรับปรุงการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาได้อย่างไร และการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาของไทย เพราะต้องเตรียมการประชุมกับหลายประเทศในประชาคมโลกช่วงเดือน เม.ย. ซึ่งแท้จริงแล้วเราได้ทำมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี แต่จำเป็นต้องขับเคลื่อนให้เร็วขึ้นเพราะวันนี้โลกเปลี่ยนแปลง เรื่องพันธะสัญญาก็มีเยอะ และกลุ่มต่างๆ ในวันนี้ก็มีมาก ดังนั้นในฐานะที่ไทยเป็นประเทศดำเนินนโยบายการทูตแบบอิสระ ไม่เลือกข้างใคร เพราะเราถือว่าทุกคนเป็นมิตรประเทศเราทั้งสิ้น มากบ้างน้อยบ้าง ก็แล้วแต่การเจรจาตกลงกันไว้อย่างไร ขอให้เข้าใจตรงนี้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า โดยละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สิ่งสำคัญที่สุดคือการปลุกจิตสำนึกว่าทำอย่างไรจะไม่ใช้ของปลอม กฎหมายว่าอย่างไรต้องเรียนรู้ ขณะเดียวกันถ้าไม่ใช้ของปลอมก็ต้องส่งเสริมสินค้าโอทอปให้ตรงกับสิ่งที่อยากใช้ และตนคิดว่าเราสามารถทำได้ดีกว่า เพียงแต่ยี่ห้อไม่เหมือน วันหน้าอาจต้องทำยี่ห้อที่ติดตา ติดปาก ติดหูคน เพราะของดีอยู่แล้ว และตนอยากใช้ ถ้าไม่มีซื้อไม่ได้ ก็อย่าใช้ของปลอม และต่อไปต้องมีมาตรการสำหรับผู้ใช้ด้วย จะเอาเพียงคนขายอย่างเดียวไม่พอ ส่วนเรื่องการปราบปรามก็จะต้องบูรณาการกันทุกภาคส่วน ทางฝ่ายตำรวจก็มีฝ่ายที่รับผิดชอบเรื่องนี้อยู่แล้วเฉพาะด้าน ซึ่งจะต้องบูรณาการกับ กอ.รมน.กลไกระดับจังหวัด ถ้าเป็นในพื้นที่ กทม.ก็ต้องใช้กลไกร่วมกับหน่วยงานของ กทม. และผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ นอกจากนี้จะต้องดูเรื่องกฎหมายว่ามีเพียงพอหรือยัง และกฎหมายที่จะออกมานั้นทำได้หรือไม่ ถ้าทำไม่ได้จะต้องมีระยะหนึ่งสองสามหรือไม่ เพราะถ้าทำเต็มที่ทุกอย่างแล้วทำไม่ได้ก็จะไม่ผ่านการรับรองของต่างประเทศ รวมถึงการบริการและจดสิทธิบัตรวันนี้ค้างเป็นหมื่นรายการ ซึ่งต้องดูว่าค้างเพราะอะไร หากเจ้าหน้าที่น้อยก็ต้องดูการเพิ่มเจ้าหน้าที่อย่างไร ซึ่งมีหลายวิธีการ ตนได้สั่งไปหมดแล้ว

“เราอย่าคิดว่าเราทำกฎหมายแรงที่สุดแล้วมันจะจบ เพราะคนไทยไม่ชอบกฎหมาย กฎหมายเล็กกฎหมายน้อยเต็มไปหมด คนไทยรักอิสระ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน สองร้อยห้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็เป็นอย่างนี้ วันนี้จะรสนิยมสูงในขณะที่มีรายได้น้อยไม่ได้ รายได้น้อยก็ต้องใช้ของที่เพียงพอ พอเพียง” นายกฯ กล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น