ศาลปกครองกลางไต่สวนฉุกเฉินคดีผู้สมัครนายกสมาคมฟุตบอลฯ ร้อง กกท.รับสมัคร “สมยศ-ณัฏฐพล” และคดีประธานสโมสรมุกดาหารลำโขงฟ้องเลือกตั้ง 30 เสียงลีกดิวิชัน 2 มิชอบ ขอเลื่อนโหวตนายกพรุ่งนี้ออกไปก่อน ด้าน “ธวัชชัย” โผล่ดู บอกฟังคำแจงเอฟเอที เอ็นซีแล้วมีลุ้นศาลยกฟ้อง ด้านตัวแทน กก.กลางยันทำตามกฎฟีฟ่า
วันนี้ (10 ก.พ.) ที่ศาลปกครอง เมื่อเวลา 10.30 น. นายธวัชชัย สนธิวนิช ตุลาการศาลปกครองกลาง ในฐานะตุลาการเจ้าของสำนวน ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนฉุกเฉินในคดีหมายเลขดำ ที่ 181/2559 ที่ พ.ต.ท.ชัยทรัพย์ ธรัช ฤทธิ์เต็ม หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยื่นฟ้องการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), คณะกรรมการกลางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย (เอฟเอที เอ็นซี) และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ รวม 3 ราย กรณีผู้ถูกฟ้องทำผิดกฎข้อบังคับที่รับสมัครผู้สมัครสองรายอย่าง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ซึ่งไปลงสมัครที่ กกท.เพียงสถานที่เดียว ทั้งที่ตามข้อบังคับนั้นต้องมาสมัครที่สำนักงานเลขาธิการสมาคมฟุตบอลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ 184/2559 ที่ พล.อ.จิระศักดิ์ บุตรเนียร ประธานสโมสรมุกดาหาร ลำโขง ยื่นฟ้อง กกท. เอฟเอที เอ็นซี และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ รวม 3 ราย กรณีการจัดการเลือกตั้งตัวแทน 30 เสียงจากลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 ทั้ง 6 ภูมิภาคไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยผู้ฟ้องคดีทั้ง 2 คดีได้ขอให้ศาลสั่งเลื่อนการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 ก.พ.นี้ออกไป
ทั้งนี้ ในการไต่สวนทั้ง พ.ต.ท.ชัยทรัพย์ และพล.อ.จิระศักดิ์ เดินทางมาให้ถ้อยคำด้วยตนเอง ขณะที่ฝ่ายผู้ถูกฟ้องมี น.ส.สุปราณี คุปตาสา ที่ปรึกษาเอฟเอที เอ็นซีมาชี้แจง รวมถึงนายธวัชชัย สัจจกุล หนึ่งในผู้สมัครนายกสมาคมที่ได้ฟ้องคดีต่อศาลปกครองเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ก็ได้เข้าสังเกตการณ์และร่วมให้ถ้อยคำด้วย ภายหลังการไต่สวนนาน 3 ชั่วโมง พ.ต.ท.ชัยทรัพย์กล่าวว่า ให้ข้อมูลตามข้อเท็จจริงว่าการสมัครต้องเป็นไปตามข้อบังคับของสมาคมฟุตบอล ยืนยันว่าจะสู้ให้ถึงที่สุดเพื่อความถูกต้อง และปกป้องสมาคมฟุตบอลฯให้ปราศจากการเมืองหวังว่าศาลจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเลื่อนการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ออกไป
ด้าน พล.อ.จิระศักดิ์กล่าวว่า ศาลดูคำชี้แจงในสำนวนแล้วก็มีความชัดเจน จึงไม่ได้มีการไต่สวนอะไรเพิ่มเติม หลังจากนี้ก็คงต้องรอคำสั่งศาลซึ่งคงพิจารณาในข้อกฎหมาย หากศาลมีคำสั่งก็ต้องส่งให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายรับทราบคาดว่าจะเป็นภายในวันนี้ เมื่อถามว่าจะมีการนำเรื่องดังกล่าวไปฟ้องในศาลกีฬาโลกหรือไม่ พล.อ.จิระศักดิ์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นสิทธิที่จะดำเนินการดังกล่าว แต่คงต้องพิจารณาอีกครั้ง
ขณะที่นายธวัชชัยเปิดเผยว่า ศาลให้ความสนใจในเรื่องอำนาจและการดำเนินการของเอฟเอที เอ็นซี ว่าอยู่ในอำนาจที่ศาลจะมีคำบังคับได้หรือไม่ เพราะอำนาจในการพิจารณาคดีของศาลปกครองเป็นเรื่องระหว่างรัฐกับเอกชน หรือประชาชน แต่เอฟเอที เอ็นซี เป็นหน่วยงานต่างประเทศ ซึ่งผู้แทนของเอฟเอทีเอ็นซี ก็ชี้แจงศาลว่า หลักเกณฑ์การรับสมัครต่างๆ เป็นไปตามที่ฟีฟ่ากำหนด และการรับสมัครหลายที่ก็สามารถทำได้
“ดูจากที่ชี้แจงแล้ว ส่วนตัวผมว่ายกฟ้องนะ เพราะที่ผู้แทนเอฟเอที เอ็นซีชี้แจงมันก็ฟังได้” นายธวัชชัยกล่าว
ส่วน น.ส.สุปราณีกล่าวว่า ได้อธิบายให้ศาลทราบว่าการจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล เอฟเอที เอ็นซี ดำเนินการตามคำสั่งของฟีฟา ยืนยันว่าการจัดการเลือกตั้ง เป็นไปตามข้อบังคับของสมาคมฟุตบอล โดยฟีฟ่าก็รับรู้ทุกขั้นตอนตั้งแต่ขั้นตอนการประกาศรับสมัคร ซึ่งทุกสโมสรที่เป็นสมาชิกของสมาคมฟุตบอลต่างก็รับทราบ และไม่มีการคัดค้านมาตั้งแต่แรกรวมถึงสถานที่รับสมัครที่มีเกินกว่าหนึ่งแห่งก็ไม่มีใครคัดค้าน และไม่ได้มีการตัดสิทธิใคร เราไมได้เดิมพันกับใครตามที่มีการพูดกันในสื่อต่างๆ แต่ทำตามหน้าที่ภายในกำหนดเวลาของฟีฟ่า ที่ต้องดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 15 ก.พ ที่เอฟเอที เอ็นซีจะหมดวาระ จริงๆ ตามกระบวนการเรื่องนี้จะต้องไม่เข้ามาสู่ศาล เพราะมีข้อบังคับของสมาคมฯ อยู่แล้วหากมีปัญหา จะใช้กระบวนการอนุญาโตตุลาการ แต่ตั้งแต่มีข้อบังคับใหม่ตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการจัดตั้งอนุญาโตฯ เพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาทปัญหาในสมาคม ตามระเบียบฟีฟ่าดังนั้น ก็คงต้องรอฟังว่าศาลจะมีคำสั่งอย่างไร หากศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวตามที่ผู้ฟ้องคดีขอ ทางเอฟเอที เอ็นซีก็ต้องดูก่อนว่าคำสั่งดังกล่าวมีเนื้อหาอย่างไร เพราะคำสั่งศาลในชั้นนี้ยังไม่ถือเป็นที่สุด ยังมีกระบวนการศาลปกครองสูงสุดอีก ทั้งนี้ มั่นใจว่าในวันที่ 11 ก.พ.จะสามารถจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลได้ และที่เอฟเอที เอ็นซี ไม่มีการเปิดเผยชื่อผู้ที่เป็นตัวแทน 72 สโมสร ก็เนื่องจากเป็นกฎเพื่อปลอดภัยของผู้เป็นตัวแทน
