ประธาน กรธ.เล็งปรับเนื้อหาในบทเฉพาะกาลร่าง รธน.ให้เร่งออกเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับเลือกตั้ง 5-6 ฉบับก่อนเพื่อให้ทันเลือกตั้ง ก.ค.ตามโรดแมป “บิ๊กตู่” ยันไม่ได้ให้อำนาจศาล รธน.เพิ่ม บอกน่าห่วงระดับ “เทียนฉาย” แค่ไปฟังเขามาแล้วนำมาวิจารณ์ต่อโดยไม่ได้อ่านเนื้อหาก่อน
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า คณะ กรธ.มีแนวความคิดปรับปรุงเนื้อหาของบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการเลือกตั้งเร็วขึ้นในปี 2560 ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจจะกำหนดให้มีการเร่งพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้งประมาณ 5-6 ฉบับให้เสร็จและมีผลบังคับใช้ก่อนเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง โดยไม่จำเป็นต้องให้กฎหมายลูกต้องมีผลบังคับใช้ทั้ง 10 ฉบับตามที่บัญญัติไว้ในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญ
“กำลังคิดกันอยู่ เพราะเมื่อท่านนายกฯ ออกมาพูดในเรื่องของการเริ่มกระบวนการเลือกตั้ง ท่านไม่ได้บอกว่าต้องให้มีการเลือกตั้งในวันที่เท่าไหร่ในเดือนกรกฎาคม แต่บอกว่าให้เข้าสู่โหมดของการเลือกตั้ง ดังนั้น เดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคมก็น่าจะไปได้ เราก็จะมาดูว่าที่เรากำหนดทำกฎหมายลูกเวลา 8 เดือนมันก็หืดขึ้นคอ แต่ว่าเราจะบริหารจัดการอย่างไรที่จะทำให้กฎหมายที่จำเป็นในการเลือกตั้งสามารถออกมาให้ได้ภายในระยะเวลาตามโรดแมปของท่านนายกฯ หรือจะล่าช้าไป 10-20 วันก็ค่อยมาว่ากันอีกที ก็กำลังไปดูอยู่”
ส่วนการเข้าสู่โหมดของการเลือกตั้ง หมายความว่าเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคมปี 2560 จะมีการเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายมีชัยกล่าวว่า คงจะอยู่ราวๆ นั้นหาก พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันอย่างนั้น แต่ว่าคณะ กรธ.ต้องมาปรับดูว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความเป็นไปได้ตามนั้น
“อย่างน้อยต้องให้กฎหมายลูกเสร็จ 5-6 ฉบับ ถ้าทำฉบับละเดือนก็น่าจะเสร็จ และก็น่าอยู่ในวิสัยที่จะจัดการเลือกตั้งช่วงนั้นได้”
เมื่อถามว่า แล้วกฎหมายลูกฉบับที่เหลือที่ไม่ได้เกี่ยวกับการเลือกตั้งจะดำเนินการอย่างไร นายมีชัยกล่าวว่า ในระหว่างการดำเนินการเลือกตั้งอาจต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งก็น่าจะใช้ช่วงเวลานั้นดำเนินการให้เสร็จ เพราะถ้าไม่ทำเอาไว้จะส่งผลให้เกิดปัญหาเหมือนในอดีตอีก จนกลไกต่างๆ ที่วางเอาไว้ไม่สมบูรณ์
“คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญรับรู้ถึงความกังวลของท่านนายกฯ แล้วและก็กำลังพยายามมาดูว่าจะปรับและเขียนให้เกิดความมั่นใจได้อย่างไร”
ส่วนที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห้ามสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) จัดเวทีวิชาการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ นายมีชัยกล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้ทราบปัญหาเรื่องดังกล่าว แต่เวลาที่คณะ กรธ.ไปจัดเวทีในต่างจังหวัดได้มีการขออนุญาต คสช.ทุกครั้ง
สำหรับข้อท้วงติงของนายเทียนฉาย กีระนันทน์ อดีตประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่แสดงความคิดเห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้อำนาจองค์กรอิสระมากเกินไป นายมีชัยกล่าวว่า ยืนยันไม่ได้มีการให้อำนาจเพิ่มเติม อย่างกรณีของศาลรัฐธรรมนูญก็มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ 2550 เพียงแต่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ศาลรัฐธรรมนูญ มีอำนาจเพิ่มตรงที่การทำหน้าที่วินิจฉัยกรณีที่องค์กรอิสระกระทำการที่เป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งเป็นหลักการที่ต้องการให้องค์กรอิสระถูกตรวจสอบถ่วงดุล
“มันก็น่ากังวลนะครับ เพราะว่าระดับท่านเนี่ยท่านฟังจากคนวิพากษ์วิจารณ์และก็ไปวิจารณ์ต่อ ถ้าท่านจะกรุณาอ่านสักนิดก็จะพบว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้มีอำนาจมากขึ้นไปจากที่เคยมีอยู่”
ประธาน กรธ.กล่าวว่า เวลานี้มีความน่ากังวล คือ การฟังมาและกระโดดจับและนำไปวิจารณ์ต่อ ถ้าสิ่งที่ฟังมาผิด ข้อวิจารณ์จะผิดไปเรื่อยๆ ดังนั้น คณะ กรธ.กำลังหาหนทางว่าจะทำอย่างไรเอาข้อมูลที่แท้จริงออกไปให้ประชาชนได้รับรู้อย่างทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนได้รู้ของจริง