xs
xsm
sm
md
lg

กสม.จ่อสางนายทุนครอบครองหาดราไวย์ หลังปะทะชาวบ้านบาดเจ็บ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ภาพจากแฟ้ม)
กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เผยในสัปดาห์หน้าลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุความรุนแรงในพื้นที่หาดราไวย์ พร้อมตรวจสอบโฉนดที่ดินเอกชนได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ มีมาตรการในเยียวยาช่วยเหลือชาวบ้านและประนีประนอมกันหรือไม่

วันนี้ (29 ม.ค.) นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในฐานะประธานอนุกรรมการสิทธิชุมชนและฐานทรัพยากร กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่บ้านราไวย์ จ.ภูเก็ต ว่า ในวันที่ 1 ก.พ. นี้ อนุกรรมการสิทธิชุมชนฯ จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบต่อเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าว เบื้องต้น กสม. จะไปทำหน้าที่ระงับความขัดแย้งที่มีการใช้กำลังความรุนแรง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งที่มีเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปควบคุมสถานการณ์ ทางอนุกรรมการจะไปพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ในกรณีนี้เอง ตนยังได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล โดยเฉพาะชาวเลในแถบจังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2553 ซึ่งได้มีผลงานวิจัยระบุว่า ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่หาดราไวย์ ได้ตั้งถิ่นที่อยู่อาศัยมาเป็นเวลายาวนานกว่า 200 ปี ปัจจุบันนี้ชุมชนราไวย์ มีราวประมาณ 250 ครัวเรือน และวิถีชีวิตในพื้นที่ดังกล่าวนอกจากจะมีการทำประมงเพื่อดำรงชีพ พื้นที่นี้ยังใช้ทำพิธีกรรรม หรือเป็นพื้นที่ทางจิตวิญญาณ แต่ก็เป็นชุมชนที่อยู่กันอย่างแออัด ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง มติ ครม. ที่ให้ตั้งกรรมการชุดดังกล่าวก็เพื่อเป็นการฟื้นฟูวิถีชีวิต สร้างขวัญกำลังใจให้ชาวบ้าน จึงเป็นประเด็นหนึ่งที่จะเข้าไปติดตามความก้าวหน้า

ส่วนเรื่องความรุนแรงระหว่างชาวบ้านและคนของบริษัทเอกชนนั้น ในวันที่ 2 ก.พ. ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จะมีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อหาสาเหตุว่าทำไมจึงมีการใช้ความรุนแรง และทำไมเจ้าหน้าที่ทหารจึงปล่อยให้มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นได้ อีกทั้ง กสม. ก็จะตรวจสอบด้วยว่าการได้โฉนดที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวของบริษัทเอกชนเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ และหน่วยงานภาครัฐอย่างกรมทรัพยากรชายฝั่ง ทำไมจึงมีการห้ามไม่ให้ชาวบ้านทำมาหากินด้วยการทำประมงในพื้นที่นั้น ที่ผ่านมา ชาวบ้านถูกกดดันอย่างมาก ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจำนวนหลายคน ทั้งที่นิสัยพื้นฐานของชาวเลค่อนข้างเป็นคนรักสงบ และไม่ถือสิทธิครอบครอง กสม. ก็จะตรวจสอบด้วยว่าหากมีการซื้อที่ดินในบริเวณนั้น ได้มีมาตรการในเยียวยาช่วยเหลือชาวบ้าน และมีการประนีประนอมกันหรือไม่ ต้องเข้าใจว่าในพื้นที่หาดราไวย์สามารถเข้าไปฟื้นฟูให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมได้ หน้าที่ กสม. จึงต้องเข้าไปส่งเสริมเพื่อให้เกิดการคุ้มครองทางสิทธิมนุษยชน


กำลังโหลดความคิดเห็น