นายกรัฐมนตรี ย้ำ มีแผนสำรองร่างรัฐธรรมนูญ เตือนสื่ออย่าใจร้อน บอก “มีชัย” ยังไม่ได้มาคุย หวังคนออกมาประชามติให้มาก ชี้ เลือกตั้งกับการเสียภาษีคนละเรื่อง ถามต้องจ้างหมดหรือไง แซวนักข่าวไม่ใส่เสื้อหนาวสงสัยต้องไปตรวจร่างกาย ขำสื่อตอบให้อ่านนิทานกบเลือกนายใช่หรือไม่ บอกสถานการณ์ไทยต้องอ่านหมาป่ากับลูกแกะ ตนเป็นแกะสื่อเป็นหมาป่า เจอสวนเป็นหมาเฝ้าบ้านเลยแหย่กลับ ถามอะไรนะหมาขี้เรื้อน บอกถ้าไทยส่งประกวดชนะเป็นร้อยตัวแน่
วันนี้ (27 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 16.05 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความกังวลต่อร่างรัฐธรรมนูญในขณะนี้หรือไม่ ว่า “ไม่ห่วงเลยมั้ง ถามอยู่ได้ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ว่าห่วงมั้ย ถ้าไม่ห่วงจะเข้ามายืนอยู่ตรงนี้หรือ ส่วนแผนสำรองก็มีไว้อยู่แล้ว คิดไว้ในหัวทั้งหมด แต่ถ้าเป็นคำสั่งก็จะต้องมีการปฏิบัติตามนั้นถึงจะเป็นข่าว และประชาสัมพันธ์ได้ สื่ออย่าทำเป็นคนใจร้อน ถ้าใจร้อนมันก็วุ่นไปหมด” เมื่อถามว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้มาปรึกษาอะไรบ้างหรือยัง หลังจากที่มีการพูดถึงกรณีก่อนมีการทำประชามติจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ฝ่ายกฎหมายเขากำลังดูอยู่ แล้วมันจะต้องแก้ตรงไหนล่ะ วันนี้ยังไม่มีใครมาปรึกษาอะไร
เมื่อถามว่า จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญเพื่อรองรับการออกมาใช้เสียงในการทำประชามติ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่รู้ เพียงแต่ตนต้องการให้คนออกมาใช้สิทธิ์ให้มาก แล้วทำไมจะให้ถอยหลังกลับไปที่เดิมอีก หรือพวกสื่อคิดว่าไม่จำเป็น เห็นบ้างคนถึงกับเสนอว่าให้ลดภาษีกับคนที่ออกมาเลือกตั้ง แล้วให้คนที่ไม่ออกมาเลือกตั้งถูกขึ้นภาษี สอนคนอย่างนี้หรือ ที่ผ่านมา ตามใจกันทุกเรื่องวันนี้หน้าที่ก็คือหน้าที่ หน้าที่ต้องเสียภาษีก็ต้องเสีย ส่วนการเลือกตั้งก็คือหน้าที่ในการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตย แต่กลายเป็นว่าเอาหน้าที่ เอาสิทธิมาปนกันไปหมด ทำไมจะต้องจ้างกันทุกเรื่องหรืออย่างไร เลือกตั้งก็ต้องจ้าง เลือกผู้แทนฯ ก็ต้องจ้าง ประชามติก็ต้องจ้างอีก แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาจ้าง สิ่งนี้เป็นบ่อเกิดที่ทำให้ไม่มีธรรมาภิบาล เป็นบ่อเกิดของการเป็นประชาธิปไตยที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ใช่เสียงคนทั้งประเทศ ทุกคนก็รู้อยู่แล้วอย่าไปสอนคนให้คิดง่าย ๆ
“ผมต้องการให้คนรับรู้เรื่องในระยะยาว ประเทศชาติจะต้องอยู่อย่างไร สิทธิเสรีภาพควรมีแค่ไหน ควรต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างไร ถ้าเป็นกฎหมายที่ถูกต้องไม่ใช่เอาไปปนรวมกันหมด ทั้งสิทธมนุษยชน กับการกระทำผิดกฎหมาย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ วันนี้เป็นไปอย่างราบรื่น โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “วันนี้ผมอารมณ์ดี แต่ยอมรับว่า วันนี้ก็พูดมาก ปวดหัว เจ็บตา แต่ก็ดีไปอย่างที่มองสื่อแล้วสวยขึ้น อีกทั้งวันนี้อากาศหนาว ไม่อยากพูดมากสงสารสื่อ แต่ก็เห็นบางคนไม่ใส่เสื้อกันหนาว สงสัยจะไม่หนาว ใครที่ไม่ใส่เสื้อกันหนาวสงสัยต้องไปตรวจร่างกาย” เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีเองก็ไม่ใส่เสื้อกันหนาวเหมือนกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมต้องแข็งแรง เพราะป่วยไม่ได้ ถนอมผมไว้หน่อยซิ หรือไม่ชอบหน้าผมก็ให้ผมป่วยตาย ๆ ไปหรือไง โธ่ พวกคุณเคยอ่านนิทานอีสปกันบ้างหรือไม่” เมื่อผู้สื่อข่าวตอบว่ามีหลายเรื่องที่อ่าน หรือต้องการจะพูดถึงเรื่อง “กบเลือกนาย” ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับหัวเราะชอบใจ
เมื่อถามว่า สถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทยควรอ่านนิทานอีสปเรื่องอะไรในความคิดของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ ทำท่าคิดก่อนกล่าวว่า “หมาป่ากับลูกแกะ” เมื่อถามว่าเหตุผลอะไรถึงควรอ่านเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เลี่ยงที่จะตอบคำถามโดยกล่าวว่า “ก็เป็นเรื่องหมาป่ากับลูกแกะไง ผมไม่ต้องการจะสื่ออะไร เมื่อพวกคุณถามผมก็จำเรื่องนี้ได้ หมาป่ากับลูกแกะ แล้วทำไมจะต้องสื่อความหมายอะไรด้วย ที่ผ่านมาผมอ่านเกือบทุกเรื่อง ผมเรียนเก่ง วรรณคดีผมเก่ง แต่ผมไม่ตอบขี้เกียจตอบ” เมื่อถามย้ำว่า ใครเป็นหมาป่า ใครเป็นลูกแกะ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ฉันเป็นแกะ พวกเธอเป็นหมาป่า ฉันเคยไล่อะไรเธอได้ที่ไหน” เมื่อผู้สื่อข่าวบอกว่า ทำหน้าที่เป็นเพียงหมาเฝ้าบ้าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวติดตลกว่า “อะไรนะเป็นหมาขี้เรื้อนหรือ อ๋อ ขอโทษทีเป็นหมาเฝ้าบ้าน แต่อย่าลืมว่าวันนี้หมาขี้เรื้อนมันมีราคา เคยมีการประกวดหมาที่หน้าเกียจที่สุดในโลก หมาขี้เรื้อนก็ได้รางวัลนะ ถ้าเมืองไทยส่งไปก็ชนะเลิศแน่นอนเป็นร้อยตัว”