โฆษกประจำสำนักนายกฯ เผยนายกรัฐมนตรีสั่งส่วนราชการพื้นที่ท่องเที่ยวเข้มงวดแท็กซี่ หลังพบร้องเรียนแบบ เน้นเหมาจ่ายมากกว่ากดมิเตอร์ แฉสมุยไปไม่ถึงกิโลฯ คิด 400 แถมส่งซิกให้เพื่อนไม่รับผู้โดยสาร จี้ให้ครอบคลุมรถตู้ จักรยานยนต์ และคนเก็บค่าหัวคิว หากพบให้จับ ยึดรถและใบอนุญาต ลั่นยอมไม่ได้ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
วันนี้ (25 ม.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ส่วนราชการในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ สมุย พัทยา ฯลฯ เข้มงวดกวดขันและกำกับดูแลผู้ให้บริการรถสาธารณะโดยเฉพาะรถแท็กซี่ หลังจากได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากว่า ผู้ให้บริการแท็กซี่ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มักเรียกเก็บค่าโดยสารราคาแพงแทนการกดมิเตอร์
“นักท่องเที่ยวร้องเรียนว่ามีคนขับรถแท็กซี่เรียกเก็บเงินค่าโดยสาร 400 บาท ทั้งๆ ที่ระยะทางว่าจ้างไม่ถึง 1 กิโลเมตร เมื่อผู้โดยสารไม่ยอมขึ้นก็ส่งสัญญาณให้คันต่อๆ ไปไม่รับผู้โดยสารด้วย ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เอาเปรียบผู้อื่น ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศอย่างมาก ก่อนหน้านี้ คสช.ลงไปจัดระเบียบจนเกิดความเรียบร้อย และแท็กซี่ทุกคันมีมิเตอร์แจ้งราคา แต่ในระยะหลังเริ่มกลับมามีปัญหาเหมือนเช่นเดิมอีก” พล.ต.สรรเสริญกล่าว
พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า นายกฯ สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ เร่งแก้ปัญหาให้สำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยให้ดูแลครอบคลุมทั้งรถแท็กซี่ รถตู้ จักรยานยนต์รับจ้าง และผู้มีอิทธิพลที่เรียกเก็บค่าหัวคิว หากพบว่ามีการกระทำผิดขูดรีดเอาเปรียบประชาชนและนักท่องเที่ยวให้จับกุมดำเนินคดี รวมทั้งยึดรถหรือใบอนุญาตขับขี่ตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ส่วนเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนให้มีการกระทำผิดให้ลงโทษอย่างหนักด้วยเช่นกัน
“รัฐบาลยอมไม่ได้กับพฤติกรรมที่ทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวของประเทศในลักษณะนี้ จึงต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ทั้งนี้ มีหลายพื้นที่ที่ประสบปัญหามานานแล้วยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยขอให้ใช้โอกาสนี้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยน้ำใจ และช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ หากพบการกระทำผิดหรือพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว สามารถโทร.แจ้งได้ที่สายด่วน 1111 ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ หรือที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน โทร.1584, 1337 ตลอด 24 ชม.” พล.ต.สรรเสริญกล่าว