ตร.ท่องเที่ยวขอนแก่นกวดขันจับแท็กซี่มิเตอร์ฝืนคำสั่ง คสช.

อุดรธานี - ตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น ลุยจับแท็กซี่ไม่กดมิเตอร์-ไม่รับผู้โดยสาร รอบเมืองขอนแก่น พร้อมขึ้นบัญชีดำคนขับ ฐานฝืนคำสั่ง คสช. ตะลึง 2 สัปดาห์จับได้กว่า 20 คัน เตรียมส่งเรื่องกรมการขนส่งและ คสช.เพิกถอนใบอนุญาต

วันนี้ (16 ก.พ. 59) พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ธนกิจไพโรจน์ สว.สทท.3 กก.3 บก.ทท. พร้อมด้วย ร.ต.ท.ประจวบ ม่วงมี รอง สวป.สถานีตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจจราจร สภ.เมืองขอนแก่น ออกตรวจตามสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ รวมทั้งตั้งจุดตรวจบริเวณด้านหน้าเจดีย์ 9 ชั้น วัดหนองแวงพระอารามหลวง สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ จ.ขอนแก่น ทั้งนี้เพื่อกวดขันจับกุมคนขับรถแท็กซี่มิเตอร์ที่เอาเปรียบผู้โดยสารและฝ่าฝืนคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ว่าด้วยการจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะ

จากการตรวจสอบพบว่า พบผู้ประกอบการแท็กซี่ที่ฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จึงเปรียบเทียบปรับและทำบันทึกประวัติเพื่อส่งเรื่องให้กับสำนักงานขนส่ง จ.ขอนแก่น และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ขอนแก่นดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป

พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ธนกิจไพโรจน์ สว.สทท.3 กก.3 บก.ทท. (ตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น) กล่าวว่า ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น ครอบคลุมจังหวัดขอนแก่น, กาฬสินธุ์, มหาสารคาม และร้อยเอ็ด ซึ่งกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจตำรวจท่องเที่ยวและชุดสืบสวนสอบสวนจะประสานการทำงานร่วมกับตำรวจทองที่และตำรวจทางหลวงในการกวดขันจับกุมรถโดยสารสาธารณะ รวมไปถึงรถโดยสารที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยว และกลุ่มรถโดยสารรับจ้างประเภทต่างๆ

โดยเฉพาะรถแท็กซี่ เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ทั้งปฎิบัติตามคำสั่งของ คสช. ว่าด้วยการจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะและการเน้นหนักตามนโยบายของกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว สร้างความอุ่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จะต้องได้รับการอำนวยความสะดวกและให้บริการด้านต่างๆ ตามหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี ซึ่งรถบริการสาธารณะโดยเฉพาะแท็กซี่มิเตอร์เป็นด่านแรกที่ตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น ต้องกวดขันจับกุมการกระทำความผิดตลอด 24 ชม.

ทั้งนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท. เน้นย้ำให้ตำรวจท่องเที่ยว ทำหน้าที่อำนวยการ งานบริการและเข้มงวดกวดขันปราบปรามปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ที่รับผิดชอบ โดยประสานการทำงานร่วมกับตำรวจท้องที่และตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งขอนแก่นและกลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนกลางเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ด้านอารยธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณี โดยสถิตินักท่องเที่ยวปีที่ผ่านมา 4 จังหวัดภาคอีสานตอนกลางมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 1 ล้านคน สร้างรายได้ให้ชุมชนท้องถิ่นมาก

พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์กล่าวต่อว่า จากผลการตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะ ประเภทรถแท็กซี่มิเตอร์ ตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ มียอดจับมากว่า 20 คัน ในข้อหาเรียกเก็บค่าโดยสารเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือไม่กดมิเตอร์ ส่วนใหญ่ให้บริการอยู่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 และ 3 ขณะที่รถแท็กซี่ที่ให้บริการที่ท่าอากาศยานขอนแก่น มีการจัดระบบให้บริการ แต่ยังคงลักลอบให้บริการบ้าง ซึ่งบทลงโทษคนขับแท็กซี่เรียกเก็บค่าโดยสารเกินที่กฎหมายกำหนด มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

ที่สำคัญตำรวจท่องเที่ยวจะบันทึกประวัติผู้ขับขี่, บริษัทฯ ที่ให้บริการรวมทั้งหมายเลขทะเบียนรถ ซึ่งหากพบกระทำผิดซ้ำสองจะส่งเรื่องไปยังขนส่งจังหวัดและกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ขอนแกน เพื่ออาศัยอำนาจตามมาตรา 44 และคำสั่งของ คสช.เพื่อยกเลิกใบอนุญาตต่อไป

“ฝากไปยังผู้โดยสารที่ใช้บริการรถแท็กซี่ในเขต จ.ขอนแก่น หากพบการกระทำผิดให้เรียกสายด่วนสายตรวจตำรวจท่องเที่ยวที่หมายเลขโทรศัพท์ 1155 เพื่อนำไปสู่การจับกุมได้โดยทันที”