ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายกฯ ฝากการบ้านจัดนิทรรศการผลผลิตในประเทศนอกจากยางพารา สั่งทำเอกสาร - วิดีโอป้องกันบิดเบือนโครงการรัฐ ห่วงใยสังคมผู้สูงอายุ สั่งสร้างหลักประกันรายได้ ลดขั้นตอนแจกเงินยังชีพ ห่วงถกเถียงร่างรัฐธรรมนูญ ซัดพวกนักการเมืองทักท้วงมีแต่ให้เกิดปัญหาเดิม ๆ “สมคิด” ฝากรัฐมนตรีอธิบายสังคม ชี้ อยู่ในยุคสงครามข้อมูลข่าวสารแย่งชิงประชาชน ตั้ง 15 โฆษกกระทรวง พบ “ชาญวิทย์ ผลชีวิน” โฆษกท่องเที่ยวและกีฬา
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.00 น. พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ และ พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมแถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดย พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชี้แจงในที่ประชุมว่า ให้ทำความเข้าใจกับประชาชนว่าโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล ต้องมีการกำหนดว่า หลักการของนโยบายนั้น ต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของชาติ และเน้นการสร้างความเข้มแข็งในประเทศให้ได้ รวมถึงให้มีการกำหนดห้วงระยะเวลาการดำเนินการของโครงการต่าง ๆ และพยายามใช้ผลผลิตภายในประเทศเป็นหลัก
ในส่วนของการจัดนิทรรศการยางพารา ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น พล.อ.ประยุทธ์ ระบุด้วยว่า ไม่ต้องการให้การจัดนิทรรศการเช่นนี้ มีเฉพาะเรื่องยางพาราอย่างเดียว ซึ่งจะให้เน้นไปที่วัตถุดิบต่าง ๆ ที่หาได้ภายในประเทศทั้งหมด มีวัตถุดิบอย่างอื่นอะไรก็ให้มีการจัดนิทรรศการลักษณะเดียวกัน เพื่อเร่งรัดให้มีการวิจัย และพัฒนา เพื่อสามารถกำหนดมาตรฐานของสินค้า และวัตถุดิบภายในประเทศได้ เพื่อสามารถนำมาใช้ในภาคส่วนราชการได้ ซึ่งจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศ นอกจากนี้ ในส่วนของการสร้างการรับรู้ นายกฯ ได้สั่งการให้ทุกกระทรวง ไปจัดทำชุดความรู้ ที่อาจเป็นรูปแบบเอกสาร หรือวิดีโอ เพื่อสร้างการรับรู้ในทุกระดับ ไม่ให้การเข้าใจผิด หรือบิดเบือนโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล
พ.อ.หญิง ทักษดา กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวของคุณกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้จัดงานการท่องเที่ยวไทย ที่เพิ่งสิ้นสุดไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงขอบคุณฝ่ายความมั่นคง ที่ช่วยให้งานครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ดูแลสถานการณ์ความมั่นคงภายในประเทศให้อยู่ในความสงบ
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังแสดงความห่วงใยที่ประเทศกำลังเข้าสู่สถานการณ์ผู้สูงอายุ โดยประเทศจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ในปี 2574 ซึ่งจะส่งผลให้เกิดภาวะคนทำงานลดลง และประเทศต้องแบกรับภาระจากการที่เกิดผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น จึงขอให้มีการเตรียมรับสถานการณ์สังคมผู้สูงวัย โดยการเริ่มสร้างหลักประกันรายได้ และขยายโอกาสการทำงาน จัดสภาพแวดล้อมให้มีความปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีระบบบริการสุขภาพ บุคลากรดูแลสุขภาพเต็มรูปแบบ รวมถึงในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น เหตุการณ์ภัยพิบัติ ให้มีการเตรียมการให้ความรู้ เพื่อความพร้อมในการป้องกันเมื่อเกิดเหตุ ในส่วนของการจ่ายเงินสำหรับผู้สูงอายุ 600 บาทต่อเดือนนั้น อยากให้มีการอำนวยความสะดวกกับผู้ที่รับเงินดังกล่าว โดยให้มีการลดขั้นตอน ด้วยการโอนเข้าบัญชีธนาคาร ไม่จำเป็นที่ต้องมารับด้วยตัวเอง และอยากให้ผู้ที่ได้รับเงินเป็นผู้สูงอายุจริง ๆ ที่จะได้รับสิทธิ์
ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกฯ ได้กล่าวในที่ประชุมถึงปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่มีการถกเถียงการกันเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ ว่า หากไม่แก้ไขด้วยการอุดช่องโหว่ของปัญหา จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งกรณีนี้ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) พยายามอุดช่องโหว่ที่มีอยู่ เพื่อป้องกันปัญหาเก่าไม่ให้กลับมา ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ที่เสียผลประโยชน์ต่างตั้งข้อสังเกตต่อการร่างรัฐธรรมนูญ โดยการสร้างภาพลวงตา ว่า จะไม่ผ่านในชั้นการลงประชามติ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ขอให้ ครม. สร้างความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ พร้อมทั้งอธิบายให้สังคมเกิดความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันว่า ที่นักการเมืองทักท้วงนั้น หากทำทุกอย่างให้เป็นแบบเดิม ปัญหาเดิม ๆ ก็จะกลับมา นั่นหมายถึงปัญหาต่าง ๆ ก็จะไม่ได้รับการแก้ไข
นอกจากนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้อยู่ในยุคของสงครามข้อมูลข่าวสาร หรือการแย่งชิงประชาชน โดยรัฐบาลจะต้องพยายามอธิบายปัญหาที่ผ่านมา รวมถึงการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ทั้งรูปแบบตามปกติ และการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน โดยรัฐมนตรีทุกกระทรวงต้องเข้าใจเรื่องเหล่านี้ และช่วยกันอธิบายการทำงานในทุกมติ เพราะที่ผ่านมารัฐมนตรีแต่ละกระทรวงอธิบายให้ประชาชนได้ไม่ครบถ้วน สมบูรณ์เท่าที่ควร
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ครม. มีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอรายชื่อโฆษกกระทรวง/หน่วยงานในฝ่ายบริหาร 15 หน่วยงาน ทั้งนี้ ให้กระทรวง/หน่วยงานที่เหลือ 16 หน่วยงาน เร่งรัดดำเนินการแจ้งชื่อโฆษก ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยด่วน เพื่อจะได้นำเสนอ ครม. ต่อไป โดยโฆษกกระทรวง/หน่วยงาน 15 หน่วยงาน คือ
กระทรวงกลาโหม โฆษก พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี
กระทรวงการคลัง โฆษก นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, รองโฆษก น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โฆษก นายชาญวิทย์ ผลชีวิน ผู้ตรวจราชการกระทรวง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โฆษก นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ
กระทรวงพาณิชย์ โฆษก น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง, รองโฆษก นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ, น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า
กระทรวงมหาดไทย โฆษก นายชยพล ธิติศักดิ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย, รองโฆษก นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ ผู้ตรวจราชการกระทรวง, นายกาศพล แก้วประพาฬ ที่ปรึกษาด้านการปกครอง, ผู้ช่วยโฆษก นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ เลขานุการกรมที่ดิน
กระทรวงยุติธรรม โฆษก นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านบริหารยุติธรรม, รองโฆษก นายวัลลภ นาคบัว รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โฆษก นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ, รองโฆษก นายวรวรงค์ รักเรืองเดช ช่วยราชการสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กระทรวงศึกษาธิการ โฆษก นายชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงสาธารณสุข โฆษก นายสุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
สำนักงบประมาณ โฆษก นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ, ผู้ช่วยโฆษก นางเพชรรัตน์ เสรีพันธ์พานิช รักษาการนักวิเคราะห์งบประมาณเชี่ยวชาญ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โฆษก นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายปกครอง รักษาการในตำแหน่งกรรมการร่างกฎหมายประจำ และนายยอดฉัตร ตสาริกา นักกฎหมายกฤษฎีกาชำนาญการ
สำนักงาน ก.พ. โฆษก หม่อมหลวง พัชรภากร เทวกุล รองเลขาธิการ ก.พ.
สำนักงาน ก.พ.ร. โฆษก นางกิตติยา คัมภีร์ ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ (นักพัฒนาระบบราชการทรงคุณวุฒิ)
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โฆษก นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
