“ประวิตร” เผยรายชื่อ กก.กยท.ดำเนินการตามที่เกษตรฯ เสนอ ครม.อนุมัติรับซื้อยางแล้วไม่เกิน 2 แสนตัน เชื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ปัดดึงแกนนำยางปรับทัศนคติ ขอบคุณสื่อสร้างการรับรู้ พ.ร.บ.ชุมนุม แจงโอไอซีไม่ได้ร่วมคุยไฟใต้ เหตุเรื่องภายใน รับยังไม่ทำคอคอดกระต้องศึกษาอีกมาก เชื่อนายกฯ คงไม่อยากทำ แจงความคืบหน้าแก้ประมงต่อ ครม. เชื่อปรับเป็นเทียร์ 2
วันนี้ (12 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอพิจารณารายชื่อคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ต่อที่ประชุม ครม.ว่า ได้ดำเนินการตามที่กระทรวงเกษตรฯเสนอมา และรายชื่อประธาน กยท.นั้น ตนจำไม่ได้ เดี๋ยวรายชื่อคงออกมา และไม่ว่าใครจะเป็นประธานก็ทำงานให้แก่ประธานทั้งนั้น ส่วนการช่วยเหลือเรื่องราคายางนั้น ขณะนี้ ครม.อนุมัติให้รับซื้อยางตรงจากเกษตรกรแล้ว โดยจะมีเจ้าหน้าที่ลงไปในแต่ละพื้นที่เพื่อตกลงเรื่องราคารับซื้อยางว่าจะเป็นกิโลกรัมละเท่าไหร่ อาจจะให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าไปช่วยดำเนินการ อาจจะร่วมมือกับสหกรณ์ในพื้นที่ หรือกระทรวงมหาดไทย รวมถึงกระทรวงการคลัง คงไม่เกิน 1-2 แสนตัน เชื่อว่ามาตรการต่างๆ เหล่านี้จะทำให้สถานการณ์การชุมนุมดีขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีกระแสข่าวมีการควบคุมแกนนำผู้ชุมนุมชาวสวนยางในพื้นที่ภาคใต้ 50 คนมาปรับทัศนคติ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มี ส่วนตัวดีใจที่ตอนนี้ประชาชนมีความเข้าใจ พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ มากขึ้น แกนนำมีการขออนุญาตก่อนชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นที่ อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หรือที่จังหวัดตรัง ขณะเดียวกันต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่สร้างความรับรู้ให้แก่ประชาชนเป็นอย่างดี แบบนี้ก็จะคุยกันได้
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวกลุ่มมาราปาตานี อยากให้องค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) เข้ามาเป็นตัวกลางในการพูดคุยสันติสุขว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ส่วนกรณีที่เลขาธิการโอไอซีจะเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีในวันนี้นั้นตนได้มอบหมายให้ รมช.กลาโหมไปเข้าพบด้วย ทั้งนี้ โอไอซีให้การสนับสนุนแนวทางการพูดคุยแต่ไม่ได้เข้ามาร่วมเพราะถือเป็นเรื่องภายในของเรา คิดว่าสถานการณ์คงจะดีขึ้น และแม้เหตุการณ์จะลดลงแต่เราก็ดูหลายส่วนประกอบกันว่าสถานการณ์จะสงบหรือไม่ เช่น เรื่องการข่าว สถานการณ์ต่างๆ ถ้าเหตุการณ์น้อยลงก็จะลดจำนวนเจ้าหน้าที่จากหน่วยอื่น ให้ใช้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เป็นหลัก
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีนายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี เสนอรัฐบาลให้หยิบยกเรื่องคอคอดกระขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งว่า เรื่องคอคอดกระเป็นเรื่องใหญ่โต รัฐบาลคงไม่ทำอะไรกันในตอนนี้ ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำ เรื่องนี้ยังต้องศึกษาอีกมาก เมื่อถามว่าหากขุดคอคอดกระแล้วจะมีผลกระทบต่อความมั่นคงหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “มันดีหรือเปล่า ประชาชนอยากให้ขุดหรือไม่ มันต้องพิจารณาอะไรต่างๆ อีกมากมาย เรื่องนี้ยังอีกไกล เดี๋ยวก่อน ใจเย็นๆ ถ้าอยากทำ รอให้คนที่อายุน้อยๆ หรือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งดำเนินการถ้ามั่นใจว่าทำได้และไม่เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ แต่ผมว่าท่านนายกฯ คงไม่อยากทำเท่าไหร่”
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวว่า ตนได้เสนอความคืบหน้าการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายต่อที่ประชุม ครม. ก่อนที่สหภาพยุโรป หรืออียู จะมาดูเรื่องดังกล่าว และช่วงบ่ายของวันที่ 14 ม.ค.นี้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวจะชี้แจงผลการดำเนินงานต่อสื่อมวลชนให้รับทราบว่าเราทำอะไรไปแล้วบ้าง ทั้ง การประมง การตรวจสอบย้อนกลับ แรงงานในทะเล รวมถึงการใช้แรงงานเด็กในโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางทะเล ซึ่งเราได้ทำเต็มที่ โดยเฉพาะในเรื่องของการแก้กฎหมาย ส่วนเรื่องทิปรีพอร์ตที่จะส่งให้สหรัฐอเมริกานั้นจะส่งในวันที่ 19 ม.ค.นี้ซึ่งตนจะดูรายละเอียดอีกครั้ง
เมื่อถามว่ามั่นใจว่าไทยจะได้รับการปรับขึ้นเป็นระดับเทียร์ 2 หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “ถ้าผมเป็นกรรมการ ผมให้เลย เราทำทุกที่ ทุกเรื่อง เขาบอกมาอย่างไรเราก็ทำอย่างนั้น ต่อไปจะได้กลายเป็นหลักสากล จะได้หมดเรื่องเสียที”
