คกก. สอบราชภักดิ์ แถลงผลสอบ ไม่ยืนยันมีทุจริตหรือไม่ สอบใช้งบทำตามขั้นตอน ไม่มีอำนาจสอบแบบหน่วยงามตาม กม. ทำได้แค่ตั้งข้อสังเกต “อุดมเดช” โวยสื่อใช้คำหักหัวคิว ทำเข้าใจผิด แจง เอกชนไปคุยกันเอง ไม่เกี่ยว รับรังเกียจคำนี้มาก ย้ำ ใช้งบบริจาคเป็นหลัก งบกลางใช้ช่วยเสริม 2 ทหารคนสนิทพ้นราชการไม่เกี่ยวเรื่องนี้ ทำหน้าที่ รมต. ต่อ ไม่จำเป็นก็ว่ากัน ชี้ ต้นปาล์ม สวนนงนุชบริจาค พร้อมเข้าให้ข้อมูล
วันนี้ (30 ธ.ค.) พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม ฐานะประธานคณะกรรมการสอบอุทยานราชภักดิ์ แถลงผลการสอบสวนกรณีใช้เงินบริจาค เปิดให้สื่อมวลชนร่วมรับฟังแต่ห้ามไม่ให้ถ่ายทอดสด โดยมีผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตง.) และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมรับฟังด้วย
พลเอก ชัยชาญ กล่าวว่า พยายามรวบรวมเอกสารให้ได้มากที่สุด พร้อมเรียกคนมาให้ข้อมูลทั้งสิ้น 23 คน การก่อสร้างใช้งบ 2 ส่วน คือ งบกลาง จำนวน 5 รายการ อย่าง ติดตั้งหินอ่อนฐาน งบบริจาค ทั้งเงิน สิ่งของ งบบริจาคที่ได้จาการจัดกิจกรรมทั้งหมดประมาณ 803 ล้านบาท รวมทั้งหมด 866 ล้านบาท ส่วนรายละเอียดการใช้เงินนั้น มีรายจ่ายทั้งหมด 27 งาน ทั้งนี้ จากการสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ เงินที่ใช้งบกลาง งบมูลนิธิ งบบริจาค เป็นไปตามระเบียบทุกขั้นตอน และกรณีข้อสงสัยปลูกต้นปาล์ม ชี้แจงว่าไม่ได้ซื้อ เป็นทางเอกชนบริจาค มีการติดชื่อเพื่อเป็นเกียรติ การแถลงข่าว ยังไม่ยืนยัน ว่า โครงการอุทยานราชภักดิ์มีทุจริตหรือไม่ แจงกรอบอำนาจการทำหน้าที่ตรวจสอบ ไม่มีอำนาจเต็มที่ที่จะไปสอบเหมือนหน่วยงานตามกฎหมายอย่างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ส่วนกรณีเรื่องโรงหล่อ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายตรวจสอบต่อไป แจงอยู่นอกอำนาจหน้าที่การตรวจสอบไม่สามารถชี้ได้ตรงไหนผิดหรือถูก มีหน้าที่แค่ตั้งข้อสังเกตให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอบต่อ ก่อนที่จะส่งข้อมูลต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม รวมถึงกองทัพบก สตง.
ขณะที่นักข่าวถามย้ำเรื่องการหักหัวคิวโรงหล่อ และ 2 อดีตนายทหารคนสนิท พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ทางคณะตรวจสอบ แจงย้ำว่า ไม่มีอำนาจตรวจสอบ ทำได้เพียงตั้งข้อสังเกตส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ระบุว่าเป็นหน่วยงานอะไร ขณะที่ผู้แทนองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น เสนอให้เปิดเผยรายชื่อทั้งหมด
ด้าน พล.อ.อุดมเดช ได้ให้สัมภาษณ์ทางช่องเนชั่นทีวี ระบุคำว่าหักหัวคิวโรงหล่อ สื่อใช้คำจนเข้าใจผิด ชี้แจงว่าเอกชนกับเอกชนคุยกัน แต่การจะหล่อองค์จำลอง สมเด็จพระบูรพกษัตริย์ต้องผ่านการรับรองจากสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร แต่เนื่องจากเป็นงานใหญ่หล่อปกติไม่ได้ จึงหาโรงหล่อให้เพื่อจะให้จบในสิ้นปีงบประมาณ เพื่อให้ผู้บริจาคหายสงสัย ต้องทำหลายโรงหล่อ โดยการเรียกมาคุยกับกรมศิลปกร ให้เสนอราคามาจนคณะกรรมการรับได้จึงตกลง ก่อนที่โรงหล่อเอกชนไปติดต่อพลเรือนคนอื่นเพื่อหักหัวคิวกันเอง ไม่เกี่ยวข้องกับรัญบาล ยืนยันไม่รับรองรับคำว่าหักหัวคิว เป็นเอกชนคุยกันเอง รับรังเกียจคำนี้มาก กล่าวย้ำไม่ใช่ค่าอย่างที่คิด เจตนาบริสุทธิ์ทุกขั้นตอน
ส่วนกรณีงบกลาง พล.อ.อุดมเดช ชี้แจงว่า งบส่วนใหญ่เป็นเรื่องของบริจาคเป็นหลัก งบกลางทำแผนงานย่อยๆมาเสริมให้มีความสมบูรณ์ ช่วยปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม เช่น ปรับแท่นฐานเป็นแกรนิต ทำตามขั้นตอน ส่วนข้อท้วงติงว่าการจัดการงบฯไม่รัดกลุม ทำประชาชนไขว้เขว ยอมรับว่าเพราะตั้งใจเร่งทำให้เสร็จในปีงบฯ ในขณะที่ตนเองยังดำรงวาระอยู่ ทั้งที่จริงต้องใช้เวลา 2 - 3 ปี แต่เชื่อไม่มีปัญหาอะไร ส่วนประเด็น 2 ทหารคนสนิทที่ถูกปลดออกราชการ พล.อ.อุดมเดช ระบุว่า คกก. บอกเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องไปดูเกี่ยวข้องคดีอื่นอย่างไร ขออย่าเอาเรื่องอื่นมาพันกับอุทยาน ส่วนการปรับตำแหน่งรัฐมนตรี ได้ตอบสื่อไปตั้งแต่เมื่อวาน ชี้แจงย้ำ เข้ามาช่วยนายกฯ ไม่ใช่นักการเมือง เข้ามาเมื่อมีปัญหาไม่ได้หวังอะไร มีภาระหน้าที่อยู่ยังทำอะไรได้ก็ทำไป ไม่มีความจำเป็นก็ว่ากัน
ขณะที่กรณีต้นปาล์ม พล.อ.อุดมเดช ระบุว่า เป้นทางสวนนงนุชบริจาคปลูกให้หมด ไม่มีราคาต้นไม้ต้นละ 3 แสน เผย ระยะที่ 2 ต้องใช้เงินจึงสร้างกิจกรรมขึ้นมาเพื่อบริจาคเป็นเกียรติโดยการติดชื่อติดต้นไม้ที่สวนนงนุชบริจาค และพร้อมเข้าให้ข้อมูลหน่วยงานต่าง ๆ ขณะเดียวกัน ยังขอความกรุณาสื่ออย่านำสิ่งไม่ดีแปดเปื้อน