xs
xsm
sm
md
lg

สวนทางโหร(โหน) ปีหน้า “ประยุทธ์” เจองานหิน แต่แนวโน้ม “แม้ว-ปู” อ่วมกว่า!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา


แม้จะไม่ค่อยสนใจกับพวกโหร (โหน) ทั้งหลายที่มักจะฉวยโอกาสโผล่มาสร้างราคาเอาในช่วงเวลานี้ เพราะที่ผ่านมาพอทายไปแล้วก็มักจะลืมหายกันไป อย่างเมื่อหลายปีก่อนคราวที่ ทักษิณ ชินวัตร ที่ตอนนั้น “ธุรกิจการเมือง” กำลังพุ่งถึงขีดสุด พวกนี้ก็เดาเอาจากข่าวมั่นใจว่าเมื่อเป็นแบบนี้ “คุมได้เบ็ดเสร็จ” ทุกอย่างคงอยู่ในอำนาจแบบอมตะ แต่หลังจากนั้นไม่นานเจอปรากฏการณ์พันธมิตรฯที่รวมพลังกันแฉ มีการเปิดโปงเรื่องขายหุ้นชินคอร์ปโดยไม่ยอมเสียภาษีสักบาท เรื่องขายหุ้นรัฐวิสาหกิจ เรียกว่าหลังจากนั้นความเลวสารพัดที่ถูกแฉออกมา จนศรัทธาที่ถูกตบตาเอาไว้นานวันก็ตกวูบ เจียนอยู่เจียนไป และในที่สุดก็ถูกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ก่อรัฐประหารล้มไปจนได้ เมื่อปี 49

มาปีนี้ก็เช่นเดียวกัน ก็มีโหร (โหน) แบบเดียวกันนี่แหละที่ออกมาทำนายอีกว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะอยู่ยาวถึง 10 ปีเชียวล่ะ หรือปีหน้าปี 2559 ทายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะนำพาบ้านเมืองผ่านไปได้ด้วยความเรียบร้อย และย้ำว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งแน่นอนความหมายก็คือน่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี

ก็ต้องบอกว่าหมอดูคนนี้ต้องมีการติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดแน่นอน เพราะทำนายเหมือนกับการวิเคราะห์ตามสื่อต่างๆ เป๊ะเลย

อย่างไรก็ดี ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่พื้นฐานความคิดของแต่ละบุคคล แต่สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้น ในปีหน้าไม่ฉลุยและโอกาสที่หากมีความตั้งใจลึกๆ ในใจว่าจะ “อยู่ยาว” ตามที่มีการทำนายเอานั้นก็ต้องวิเคราะห์แบบสวนทางไปเลยว่า “ยาก” ถึง “ยากมาก” มองแบบนี้ไม่ต้องมาขัดใจกัน เพราะเมื่อพิจารณาตามรูปการณ์และผลงานที่ผ่านมาและมองยาวไปถึงวันข้างหน้าถึงได้มองออกมาแบบนั้น

ตัวอย่างที่สัมผัสได้และที่ผ่านมาก็ได้สะท้อนออกมาจากผลสำรวจหากพูดกันแบบถนอมน้ำใจกันก็คือ ต้องใช้คำว่า “สิ่งที่ชาวบ้านให้รัฐบาลแก้ไขเป็นอันดันแรก” ด้วยคะแนนที่สูงลิบก็คือต้องการให้รัฐบาลแก้ไขเรื่องปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ให้แก้ปัญหาเรื่องของแพง ให้แก้ปัญหาเรื่องราคาสินค้าการเกษตรที่ตกต่ำลงเรื่อยๆให้เร็วที่สุด ดังนั้นต้องย้ำว่าเรื่องเศรษฐกิจนี่แหละที่เป็นจุดอ่อนของรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในอันที่จะบั่นทอนทำลายความเชื่อมั่นศรัทธาลงไปเรื่อยๆ

ขณะเดียวกัน ภายใต้อำนาจที่มีในมือเต็มเปี่ยมแบบเบ็ดเสร็จแบบนี้ยังถูกมองว่าแทบทุกอย่างมีการขยับเขยื้อนเชื่องช้า โดยเฉพาะเรื่องหลักๆ เรื่องอื่นๆ เช่นการปฏิรูปเรื่องสำคัญที่เป็นความต้องการของชาวบ้าน เช่นการปฏิรูปตำรวจ ในเวลานี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเลย หากบอกว่าเปลี่ยนแปลงก็เป็นแค่การเปลี่ยนจากตำรวจในเครือข่ายของ ทักษิณ ชินวัตร สับเปลี่ยนมาเป็นตำรวจในเครือข่ายของ “พี่น้องวงษ์สุวรรณ” คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เสียมากกว่า พร้อมทั้งข่าวคราวในทางลบก็ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องเหมือนเดิม ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้าง การตรวจสอบถ่วงดุล เพื่อสร้างหลักประกันในทางยุติธรรมกับชาวบ้านตามเสียงเรียกร้องแต่อย่างใดไม่ มีแต่อ้างว่านี่คือการปฏิรูป

นี่ว่ากันเฉพาะเรื่องหลักในสิ่งที่ชาวบ้านต้องการยกมาเป็นตัวอย่างหนึ่งเท่านั้นเพื่อชี้ให้เห็นว่าหากไม่รีบแก้ไขหรือดำเนินการเรื่องแบบนี้ก็จะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำลายความศรัทธาทั้งในตัวของผู้นำคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และยังส่งผลกระทบไปถึงองค์กรอำนายหลักคือคณะรักษาความสงบแห่งชาติอีกด้วย หากทำให้เกิดปัญหาความเสื่อมศรัทธา มันก็จะทำให้การบริหารงานอื่นๆ เป็นไปได้ยาก

นอกจากนี้ ภายใต้สิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติในปีหน้า ปี 2559 ยังไม่เป็นใจโดยเฉพาะ “ภัยแล้ง” ที่เวลานี้กำลังคุกคามเข้ามาแล้วก่อนกำหนดเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น สัญญาณที่เห็นในตอนนี้และแนวโน้มในอนาคตอันใกล้ทำให้เชื่อมั่นว่าปัญหาดังกล่าวจะรุนแรงในรอบหลายปีเลยทีเดียว ดังนั้นสิ่งที่จะตามมาก็คือจะเกิดปัญหาในเรื่องผลผลิตทางการเกษตร เกษตรกรขาดรายได้ นั่นก็หมายความว่าจะเกิดหนี้สิน ปัญหาสัวคมสารพัด ที่สำคัญก็คือจะมีโอกาสเกิดม็อบครั้งใหญ่ในปีหน้าจนเป็ยไปได้เหมือนกันว่าหาก “เข้าล็อก” สักเรื่องมันก็อาจพลิกผันได้เหมือนกัน

ดังนั้น การที่โหร (โหน) ทำนายทายทักว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะฝ่าปัญหาต่างๆ ในปีหน้าได้อย่างฉลุยนั้น หากมองตามความเป็นจริงและแนวโน้มที่จะประดังเข้ามาอีกไม่นานก็ต้องพิจารณากันแบบสวนทางว่า “หนักมาก”

นอกเหนือจากนี้ หากพิจารณาจากอีกปัจจัยหนึ่งที่ “จงใจ” สร้างขึ้นมาก็คือ การสร้างกระแสป่วนจากเครือข่ายของฝ่ายทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องดิ้นรนให้พ้นมุมอับในปีหน้าก็ต้องสร้างแรงกระเพื่อมให้ออกมาให้เต็มกำลัง เพราะหลายเรื่องเริ่มงวดเข้ามา หลายคดีสำคัญที่เกี่ยวพันถึงคุกตะรางและยังเสี่ยงต่อการถูกยึดทรัพย์ จากคดีโครงการรับจำนำข้าวที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตกเป็นจำเลยคดีเงินกู้ธนาคารกรุงไทยที่กำลังคืบคลานเข้าใกล้ พานทองแท้ ชินวัตร ทุกขณะ ซึ่งทั้งคู่ล้วนเป็น “หัวใจ” ของทักษิณ มันก็เริ่มเห็นสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้นแล้ว

แต่ขณะเดียวกัน ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวมันก็สะท้อนให้เห็นว่าฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร กำลังถูกรุกหนักมากขึ้นเรื่อยๆ และล่าสุดศาลอาญาแผนกคดีทุจริตฯก็ได้รับฟ้องคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นฟ้องอดีตบิ๊กกรมสรรพากรที่นำโดย เบญจา หลุยเจริญ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร กับพวกอีกหลายคนตามมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจากกรณีช่วยเหลือให้ พานทองแท้ชินวัตร และพินทองทา ชินวัตร เลี่ยงภาษีจากการขายหุ้นชินคนละมูลค่าเกือบ 8 พันล้านบาทเมื่อปี 49 โดยคดีดังกล่าว ป.ป.ช.ได้ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยศาลได้นัดให้จำเลยมารายงานตัวและไต่สวนพยานครั้งแรกในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 59

ดังนั้น แม้ว่าหากพิจารณาถึงแนวโน้มในปีหน้าว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องเจองานหิน เสี่ยงสูงกว่าปีนี้ก็ตาม แต่สำหรับทักษิณ ชินวัตร และคนในครอบครัวนั่นถือว่าน่าห่วงกว่า เพราะเมื่อไล่เรียงจากจำนวนคดีที่ประดังเข้ามาล้วนเสี่ยงคุก และลากยาวไปถึงถูกยึดทรัพย์กันเลยทีเดียว!!
กำลังโหลดความคิดเห็น