xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” สั่งลุยพัฒนาภาษาอังกฤษคนในชาติรับ AEC - ปรับปรุงการศึกษาไทยสู่นานาชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” ลั่นรัฐบาลพุ่งเป้าพัฒนาภาษาอังกฤษคนในชาติ ต้อนรับประชาคมอาเซียน มุ่งเน้น 4 กล่มเป้าหมายนักเรียน-ครู-ผู้บริหาร-คนทำงาน สั่งตั้งศูนย์อาเซียนศึกษา 447 แห่งทั่วประเทศ พัฒนาคุณภาพการศึกษาระดับมัธยมสู่ความเป็นนานาชาติ หวังไทยให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาค



วันนี้ (25 ธ.ค.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ช่วงหนึ่งว่า วันที่ 31 ธันวาคม 2558 นอกจากจะเป็นวันส่งท้ายปีเก่ายังเป็นวันที่ประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียนอย่างเป็นทางการ แม้บางอย่างยังไม่พร้อมอยู่ ไม่เป็นไร เราเริ่มต้นไปก่อน อะไรทำได้ก็ทำไปก่อน อย่าไปกังวล เราได้มีการเตรียมตัวพอสมควรในช่วงปีที่ผ่านมา

โดยรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องของทรัพยากรมนุษย์ แรงงานมีฝีมือ โดยมุ่งเน้นในเรื่องของการเสริมสร้างความเข้าใจ ใฝ่รู้ภาษา รู้เท่าทันเทคโนโลยี ซึ่งเราจะมีกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ดำเนินการหลัก บูรณาการกับทุกกระทรวง และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้กำหนดยุทธศาสตร์ 6 ด้านไว้ดังนี้ เสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนก่อน แล้วยกระดับคุณภาพเพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษา ผลิตกำลังพลให้มีทักษะ สอดรับกับตลาดแรงงานอาเซียน มีการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีการพัฒนากลไกที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการเคลื่อนย้าย แลกเปลี่ยน และเสริมสร้างเครือข่ายระหว่างกันในภูมิภาค ทั้งนี้ เราจะมีการจัดตั้งศูนย์อาเซียนศึกษา จำนวน 447 ศูนย์ทั่วประเทศ เพื่อจะพัฒนาคุณภาพการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาสู่ความเป็นนานาชาติรองรับนักเรียนไทยและนักเรียนต่างชาติในประชาคมอาเซียนให้สอดคล้องกับโครงการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาค ให้มีการเทียบเคียงกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ สู่กรอบคุณวุฒิอ้างอิงในอาเซียน ก็ต้องดูว่าใครเกี่ยวข้องตรงไหน ทั้งโรงเรียน ข้าราชการ ประชาสังคม ประชาชน ธุรกิจ และอะไรคือวิกฤต อะไรคือโอกาส ในการก้าวเข้าไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียน และมีความพร้อมแค่ไหน อย่างไร เข้าใจอย่างถ่องแท้หรือยัง นอกจากนี้ก็ต้องพัฒนาฝีมือแรงงาน มีตั้งหลายอาชีพที่เขารับเคลื่อนย้ายไปมา ถ้าเราไม่เตรียมการให้พร้อมตรงนี้ ผลิตคนใหม่ รักษาคนเก่าไว้ให้ได้ คนที่มีความสามารถก็จะไปทำงานในต่างประเทศหมด บ้านเราก็จะขาดแคลน

นายกฯ กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า รัฐบาลตั้งเป้าที่จะพัฒนาเฉพาะในเรื่องของทักษะภาษาอังกฤษในระยะแรกให้กับนักเรียน ครู ผู้บริหาร ประชาชนทั่วไป และให้มีสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอน พูดเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด หรือบางห้อง บางชั้น หรือการเรียนการสอน 2 ภาษา ทั้งหมดเป็นไปด้วยความสมัครใจของเด็ก และตั้งศูนย์ส่งเสริมความเข้มแข็งในการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษด้วย ให้กับผู้เรียน ทั้งระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา ในระดับเขตพื้นที่และภูมิภาคทั่วประเทศ รวมทั้งโครงการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม สำหรับภาษาประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น หรือภาษาอาเซียนอื่นๆ จะเร่งดำเนินการควบคู่กันไปให้สอดคล้องกับความจำเป็น อันนี้ขอความร่วมมือภาคธุรกิจ เอกชน สถานประกอบการช่วยด้วย เพื่อประโยชน์ของแรงงาน สถานประกอบการ ธุรกิจ ที่มีหลายประเทศ ที่มีการใช้ภาษาแตกต่างกันเข้ามาลงทุน ในด้านการพัฒนา และยกระดับภาษาอังกฤษแก่กำลังพลอาชีวะ เราจะมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่ม

1. กลุ่มแรกนักเรียนนักศึกษา โดยมีการพัฒนาหลักสูตรอิงลิชโปรแกรม และมินิอิงลิชโปรแกรมในสถานศึกษา 147 แห่ง เป็นภาษาอังกฤษใช้ในการทำงานศัพท์ทางเทคนิควิชาชีพ ในการปฏิบัติงานจริง เพื่อให้กำลังคนสามารถสื่อสาร รับฟังคำสั่ง ตลอดจนสามารถถ่ายทอดได้

2. ครู พัฒนาทั้งครูที่สอนภาษาอังกฤษให้มีความเป็นเลิศด้านทักษะภาษาอังกฤษโดยตรง และพัฒนาครูผู้สอนวิชาชีพให้สามารถสื่อสารและถ่ายทอดได้

3. ผู้บริหาร ให้มีการจัดทำโครงการอบรมหลักสูตรภาษาอังกฤษเร่งรัดพิเศษ โดยสามารถลงทะเบียนเรียนผ่านสมาร์ทโฟนได้

4. กำลังคนในสถานประกอบการ โดยร่วมมือกับสถานประกอบการ สมาคม และชมรมภาคอาชีพ นำร่องพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษแก่พนักงานที่กำลังจะเลื่อนเข้าสู่ตำแหน่งหัวหน้างานในอนาคต

ข้อสำคัญจะให้เร็วคือฟังให้รู้เรื่องให้มากที่สุดก่อน พูดโดยไม่ต้องกลัวใคร ค่อยๆ พัฒนาไป ผู้ฟังชาวต่างประเทศพยายามที่จะเข้าใจเราอยู่แล้ว จะผิดจะถูกดีกว่าไม่แสดงออกไม่กล้า เราจะได้แสดงให้เห็นถึงการเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการที่เราจะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และการเป็นหัวหน้างานในสถานประกอบการ เพื่อเป็นการยกระดับรายได้แต่ละวิชาชีพ มีการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากโรงงานจากต่างประเทศได้โดยตรง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการทางเศรษฐกิจ นอกจากการสร้างเสถียรภาพด้วยการรักษาความสัมพันธ์ ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน และประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว เรามีพันธมิตรเดิมอยู่ ก็ต้องแสวงหาความร่วมมือใหม่ เปิดตลาดใหม่ ที่มีความสำคัญมากก็ได้แก่ การขยายความร่วมมือกับเพื่อนบ้าน และอาเซียน

ส่วนเรื่องของการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจภายในประเทศนั้น เราไม่มีการพัฒนามาเป็นเวลานาน รัฐบาลก็พยายามส่งเสริมและพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานราก เพื่อจะแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ทุกคนต้องเข้าใจอะไรคือความเหลื่อมล้ำ ต้องนำมาสู่การปฏิบัติให้ได้ ข้าราชการต้องปรับตัว รัฐบาลก็พยายามจะให้แนวคิดนโยบายไปแล้ว แต่ผู้ปฏิบัติส่วนใหญ่ต้องเป็นข้าราชการ วันนี้ร่วมมือกับภาคธุรกิจเอกชนไปด้วยในลักษณะประชารัฐ

คำต่อคำ : รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” วันที่ 25 ธันวาคม 2558

“สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน ในสัปดาห์สุดท้ายของปี 2558 นี้ ผมขอร่วมแสดงความยินดีกับน้องแนท น.ส.อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 ที่สามารถเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ในเวทีการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2015 ณ สหรัฐอเมริกา ที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้รับรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม ชุดตุ๊กตุ๊กไทยแลนด์ มาครองด้วย เป็นการสร้างความสุขและรอยยิ้มสู่สังคมไทยต้อนรับปีใหม่ ผมขอแสดงความยินดีด้วยใจจริง จากรัฐบาล จากประชาชนทุกคน

อีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากกล่าวถึง เป็นเรื่องดีๆ ก็มาจากสื่อที่สร้างสรรค์ ที่นั่งเสนอข่าวของเด็กนักเรียนชาย 3 คน ได้แก่ ด.ช.วรรณกร คำมีมูล น้องบอส ด.ช.ทวีชัย ฟูซะ น้องฟิวส์ และ ด.ช.ทวีศักดิ์ ฟูซะ น้องฟิล์ม ที่ชักชวนกันมาทำประโยชน์เพื่อสังคม เพราะเห็นว่าถนนที่ตนต้องเดินไปรอรถโรงเรียนทุกวันนั้นสกปรก เยาวชน 3 คนนี้จงรวมเงินค่าขนมกัน เพื่อซื้ออุปกรณ์ทำความสะอาด ร่วมแรงร่วมใจ ช่วยกันถางหญ้า และกวาดถนนจนสะอาด ได้ทำมากว่า 2 เดือนแล้ว สิ่งที่เด็กพูดกับสังคมนั้นลึกซึ้งกินใจพวกเรานะครับ พวกเขาบอกกันว่า เห็นว่าเราเป็นคนไทยอยากทำความดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเจริญพระชนมพรรษา ๘๘ พรรษา และตั้งใจว่าจะทำความสะอาดถนนเส้นนี้ต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่หวังผลตอบแทน เป็นไงผู้ใหญ่คิดยังไงกันบ้างนะครับ ผมขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับทั้งเด็กๆ ผู้ปกครอง และครูอาจารย์ด้วย และหวังว่าความดีจากจุดเล็กๆ ของเด็ก 3 คนนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ใหญ่และสังคมของเรา ให้ช่วยกันอยู่ร่วมกันอย่างมีน้ำใจ หันมาทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม และมีความสุขกับการทำความดีนะครับ ระมัดระวังอันตรายบนถนนด้วย

วันที่ 31 ธันวาคม 2558 นอกจากจะเป็นวันส่งท้ายปีเก่า ยังเป็นวันที่ประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคของเรา ก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียนอย่างเป็นทางการนะครับ แต่ก็น่าเป็นสิ่งที่น่าวิตก เพราะไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฝ่ามือในวันเดียว เวลาเดียว หรือปีเดียวนะครับ หากทุกภาคส่วนได้มีการสร้างความตระหนักรู้ เตรียมความพร้อมที่มีมาอย่างต่อเนื่อง บางอย่างก็สำเร็จไปแล้ว บางอย่างยังไม่พร้อมอยู่ ไม่เป็นไรครับเราเริ่มต้นไปก่อน อะไรทำได้ก็ทำไปก่อน อย่าไปกังวลว่า วันนี้ยังไม่พร้อม เราได้มีการเตรียมตัวพอสมควร ในช่วงปีที่ผ่านเข้ามา นะครับ

ถ้าเราปรับตัวได้ทันที มีภูมิคุ้มกันได้ และสร้างความเข้าใจกันได้ มันก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมานั้น เราได้มีการจัดตั้งการค้าเขตเสรีอาเซียน หรือ AFTA ซึ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา หลายอย่างต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติมนะครับ ตอนนี้อาเซียนมีความจำ

เป็นการค้า ต่อระดับประเทศแล้ว ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ พัฒนาไปสู่การกระทำ จำเป็น ทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ อาเซป 10 ประเทศ จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ มาร่วมด้วย ซึ่งเอาค่า GDP รวมกัน จะเป็น 1 ใน 3 ของโลก และก็ครอบคลุมประชากรที่ 1 ของโลก เพราะฉะนั้น พี่น้อง ทุกภาคส่วนควรจะให้ความพร้อม ของตนเอง ควรจะหาโอกาส ที่เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งตนเองและองค์กร ประเทศชาติ ด้วยความรู้เท่าทัน และมีการพัฒนาตนเอง อยู่เสมอ ในส่วนของรัฐบาลเองนั้น ให้ความสำคัญอย่างมาก ในเรื่องของกำลังคน ทรัพยากรมนุษย์ แรงงานมีฝีมือ เพื่อเข้าสู่ตลาดแข่งขัน ภายใต้วิสัยทัศน์คนไทยมีศักยภาพ พร้อมอยู่ในประชาคมอาเซียนอย่างมีคุณภาพ โดยมุ่งเน้นในเรื่องของการเสริมสร้างความเข้าใจ ใฝ่รู้ภาษา มุ่งพัฒนาสัมพันธ์ รู้เท่าทันเทคโนโลยี สานสามัคคีอาเซียนด้วยการศึกษา ซึ่งเราจะมีกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ดำเนินการหลัก บูรณาการกับทุกกระทรวง และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้กำหนดยุทธศาสตร์ 6 ด้านไว้ดังนี้ เสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนก่อน แล้วยกระดับคุณภาพเพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษา ผลิตกำลังพลให้มีทักษะ สอดรับกับตลาดแรงงานอาเซียน มีการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีการพัฒนากลไกที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการเคลื่อนย้าย แลกเปลี่ยน และเสริมสร้างเครือข่ายระหว่างกันในภูมิภาค ทั้งนี้ เราจะมีการจัดตั้งศูนย์อาเซียนศึกษา จำนวน 447 ศูนย์ทั่วประเทศ เพื่อจะพัฒนาคุณภาพการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาสู่ความเป็นนานาชาติรองรับนักเรียนไทยและนักเรียนต่างชาติในประชาคมอาเซียนให้สอดคล้องกับโครงการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาค ให้มีการเทียบเคียงกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ สู่กรอบคุณวุฒิอ้างอิงในอาเซียน ก็ต้องดูว่าใครเกี่ยวข้องตรงไหน ทั้งโรงเรียน ข้าราชการ ประชาสังคม ประชาชน ธุรกิจ และอะไรคือวิกฤต อะไรคือโอกาส ในการก้าวเข้าไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียน และมีความพร้อมแค่ไหน อย่างไร เข้าใจอย่างถ่องแท้หรือยัง ที่ผ่านมาอาจจะเข้าว่าพูดภาษาอังกฤษได้อย่างเดียว ไม่ใช่หรอกครับ มีตั้งหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความรู้ การยกระดับคุณภาพภาษาอังกฤษ ในเรื่องของการพัฒนาฝีมือแรงงาน การเคลื่อนย้ายแรงงานที่มีคุณภาพ อะไรเหล่านี้ มีตั้งหลายอาชีพที่เขารับเคลื่อนย้ายไปมา ถ้าเราไม่เตรียมการให้พร้อมตรงนี้ ผลิตคนใหม่ รักษาคนเก่าไว้ให้ได้ คนของเราที่มีความสามารถก็จะไปหาที่ทำงานทำการในต่างประเทศ บ้านเราก็จะขาดแคลนเข้าไปอีก

รัฐบาลก็ตั้งเป้าที่จะพัฒนาเฉพาะในเรื่องของทักษะภาษาอังกฤษในระยะแรกให้กับนักเรียน ครู ผู้บริหาร ประชาชนทั่วไป และให้มีสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอน พูดเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด หรือบางห้อง บางชั้น หรือการเรียนการสอน 2 ภาษา ทั้งหมดเป็นไปด้วยความสมัครใจของเด็ก และตั้งศูนย์ส่งเสริมความเข้มแข็งในการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษด้วย ให้กับผู้เรียน ทั้งระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา ในระดับเขตพื้นที่และภูมิภาคทั่วประเทศ รวมทั้งโครงการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม และบรรจุเนื้อหาในโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ เป็นต้น สำหรับภาษาประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น หรือภาษาอาเซียนอื่นๆ ด้วย จะเร่งดำเนินการควบคู่กันไปให้สอดคล้องกับความจำเป็น และความต้องการนะครับ อันนี้ขอความร่วมมือภาคธุรกิจ เอกชน สถานประกอบการช่วยด้วย เพื่อประโยชน์ของประชาชน ประโยชน์ของแรงงาน สถานประกอบการ ธุรกิจ ที่มีหลายประเทศ ที่มีการใช้ภาษาแตกต่างกันเข้ามาลงทุน ในด้านการพัฒนา และยกระดับภาษาอังกฤษแก่กำลังพลอาชีวะ เราจะมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่มนะครับ

กลุ่มแรกนักเรียนนักศึกษา โดยมีการพัฒนาหลักสูตรอิงลิชโปรแกรม และมินิอิงลิชโปรแกรมในสถานศึกษา 147 แห่ง เป็นภาษาอังกฤษใช้ในการทำงานศัพท์ทางเทคนิควิชาชีพ ในการปฏิบัติงานจริง เพื่อให้กำลังคนสามารถสื่อสาร รับฟังคำสั่ง ตลอดจนสามารถถ่ายทอดได้

2. คือครูพัฒนาทั้งครูที่สอนภาษาอังกฤษให้มีความเป็นเลิศด้านทักษะภาษาอังกฤษโดยตรง และพัฒนาครูผู้สอนวิชาชีพให้สามารถสื่อสารและถ่ายทอดได้

3. คือผู้บริหารนั้น มีการจัดทำโครงการอบรมหลักสูตรภาษาอังกฤษเร่งรัดพิเศษ โดยสามารถลงทะเบียนเรียนผ่านสมาร์ทโฟนได้

4. กำลังคนในสถานประกอบการ โดยร่วมมือกับสถานประกอบการ สมาคม และชมรมภาคอาชีพ นำร่องพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษแก่พนักงานที่กำลังจะเลื่อนเข้าสู่ตำแหน่งหัวหน้างานในอนาคตด้วยครับ ข้อสำคัญจะให้เร็วคือว่า ฟังให้รู้เรื่องให้มากที่สุดก่อน พูดโดยไม่ต้องกลัวใคร ค่อยๆ พัฒนาไปนะครับ ผู้ฟังชาวต่างประเทศพยายามที่จะเข้าใจเราอยู่แล้ว จะผิดจะถูกดีกว่าไม่แสดงออกไม่กล้า เราจะได้แสดงให้เห็นถึงการเป็นเจ้าภาพที่ดี เจ้าบ้านที่ดี ในการที่เราจะเป็นฮับการท่องเที่ยว และการเป็นหัวหน้างานในสถานประกอบการ เพื่อเป็นการยกระดับรายได้แต่ละวิชาชีพ มีการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากโรงงานจากต่างประเทศได้โดยตรง

สำหรับมาตรการทางเศรษฐกิจ นอกจากการสร้างเสถียรภาพด้วยการรักษาความสัมพันธ์ ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน และประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว เรามีพันธมิตรเดิมอยู่แล้ว เราก็ต้องแสวงหาความร่วมมือใหม่ เปิดตลาดใหม่ ที่มีความสำคัญมากก็ได้แก่ การขยายความร่วมมือกับเพื่อนบ้าน และอาเซียน

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-กัมพูชา ที่เรามีความสัมพันธ์มายาวนานกว่า 65 ปี ครบ 65 ปี เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมนี้เอง บนพื้นฐานการพึ่งพาและผลสำเร็จร่วมกัน อย่างเท่าเทียม ได้บรรลุเห็นชอบร่วมกันในเรื่องต่างๆ หลายเรื่อง เช่น การผลักดันเป้าหมาย ขยายปริมาณมูลค่าการค้าและการลงทุนของสองประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า ประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 5 ปี การเชื่อมโยงกับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งสองฝั่ง การอำนวยความสะดวกด้านศุลกากร การคมนาคม การเพิ่มปริมาณการเดินรถ การเชื่อมโยงทางบก เช่น ทางรถไฟ เพื่อผลักดันให้ปริมาณการค้าสินค้าของสองประเทศเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนั้น ได้หารือเกี่ยวกับเรื่องการท่องเที่ยว พลังงาน แรงงาน การเกษตร และสาธารณสุข การแพทย์ ภายใต้แนวคิดและนโยบายไทยแลนด์ +1 เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในประชาคมของเราเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่ประชากรมีกว่า 600 ล้านคน

ในเรื่องการรักษาตลาดที่มีอยู่แล้วเดิม เช่น การอำนวยความสะดวก การค้าการลงทุน การสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เช่น ระหว่างไทย-จีน ที่ช่วยส่งเสริมและผลักดัน ในเรื่องของการค้าการลงทุน เศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดเป็นรูปธรรม เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทั้งสองประเทศ ได้มีการตั้งกลไกการประสานงานพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการค้าการลงทุน มีการลงนามเพื่อสร้างความร่วมมือ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ โครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาพื้นฐานด้านพัฒนาการขนส่ง ของไทย พ.ศ. 2558-2565 การซื้อขายข้าวหนึ่งล้านตัน ยางพาราสองล้านตัน การส่งเสริมการท่องเที่ยว ตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวจีน 10 ล้านคน ปีหน้าเป็นต้นนะครับ ศูนย์กลางเปิดตลาดใหม่ ส่งเสริมความร่วมมือไทยกับประเทศต่างๆ ในหมู่เกาะแปซิฟิค ตะวันออกกลาง แอฟริกา ประเทศอินเดีย รัสเซีย กลุ่มประเทศที่นับถือ ศาสนาอิสลาม

ในเรื่องของการร่วมมือทางด้านการเกษตร ประมง สุขอนามัย สุขอนามัยพืช การพัฒนาเกษตรและสาขาอื่นๆ ที่สองฝ่ายสนใจร่วมกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของทรัพยากรมนุษย์ ประมง การป้องกัน การยับยั้ง การทำประมงอย่างผิดกฎหมาย แรงงาน และการควบคุม ที่เรียกว่า IUU Fishing นะครับ มีการตรวจสอบย้อนกลับของการนำเข้า ส่งออก วัตถุดิบการประมง การออกใบรับรองการจับสัตว์น้ำ การแลกเปลี่ยนข้อมูลที่จำเป็น เพื่อที่จะนำความถูกต้องของเอกสาร การวิจัยและพัฒนา การประเมินทรัพยากรประมง และการพัฒนาทรัพยากรทางทะเล เป็นต้นนะครับ

เรื่องประมงนี้ ผมไม่กังวลนะครับ เรื่องการตรวจหรือการที่จะเข้ามาตรวจสอบความก้าวหน้า เริ่มต้นเดือนมกราคม ประมาณวันที่ 10 จะมีคณะทำงานของ IUU เข้ามา ช่วงนี้เราต้องยอมรับความบกพร่องของเรา ที่มีมายาวนานต่อเนื่อง เราต้องกำหนดเป้าหมาย ให้ชัดเจน ในเรื่องของกฎหมาย การจัดการ วิธีการ การลงโทษ การดูแลเหยื่อ การตรวจสอบการทำประมงทั้งหมดทั้งระบบ และดูซิว่า เขาต้องการให้เราแก้ไขอะไรที่เร่งด่วนระยะแรกให้มากที่สุด เราทำได้ให้มากที่สุดก็เป็นการดี และทำเสริมในเรื่องที่มีความจำเป็น ทุกอย่างมันต้องมีเวลาในการแก้ไข ถ้าเวลาน้อยมันแก้ได้บางเรื่อง แต่เรื่องอื่นเราต้องทำคู่ขนานไปด้วย เพียงแต่ว่าผมอยากให้แสดงให้เห็นว่า เรามีความพยายามอย่างยิ่งยวด มีเจตนารมณ์ในการแก้ปัญหาอย่างแท้จริงนะครับ

ในส่วนของกระทำความผิดทางประมงนั้น ผมไม่อยากให้มองเฉพาะในทะเลอย่างเดียว บนฝั่งเช่นเดียวกันนะครับ เพราะว่าการค้าขายผลิตภัณฑ์ ผลิตผลทางการประมงนั้นต้องไปขายบนฝั่งทั้งหมด โดยเฉพาะในประเทศไทยมีทั้งการรับซื้อจากท่าเรือ การแกะกุ้ง การคัดแยกปลา การนำสู่ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีแรงงานจำนวนมาก เหล่านี้จะต้องได้รับการแก้ไขทั้งหมด ผมได้สั่งการไปแล้วทั้งในส่วนของหน่วยที่รับผิดชอบโดยตรง และให้ คสช.ไปช่วยด้วย จะต้องสรุปสถานการณ์ให้ถึงนายกรัฐมนตรีทราบทุกสัปดาห์ ถึงความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาทั้งทางบก และทางทะเล รวมความถึงในส่วนที่ต้องดำเนินการ ในส่วนที่ไอยูยูได้เข้มงวดเร่งรัดมา ผมฝากถึงเรือประมงที่มีขนาดใหญ่กว่า 60 ตันกรอส ท่านจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ในส่วนที่ต่ำกว่า 60 ตันกรอส ก็ต้องแก้ไขในเรื่องของการจดทะเบียนเรือ การใช้เครื่องมือที่ถูกต้องในส่วนของประมงขนาดเล็ก ประมงพื้นบ้าน กระผมขอความร่วมมือเพียงแค่ในเรื่องของเครื่องมือทำการประมงนะครับ อย่าให้มีความขัดแย้งกันอีกเลย ผมสงสารคนจนอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราต้องมองภาพรวมของทรัพยากรเราในประเทศด้วย และการไปลงทุน ไปจับสัตว์น้ำในน่านน้ำเสรี ในน่านน้ำอาณาเขตของคนอื่น จะต้องเคารพกฎหมาย ไม่อย่างนั้นในภาพรวมสินค้าการประมงของเราจะไม่สามารถไปขายในประชาคมอื่นได้ ซึ่งเป็นผลเสียต่อมูลค่าของสินค้าประมง และรายได้ของประเทศเป็นจำนวนมาก

วันนี้เราต้องขยายการค้าการลงทุนในเรื่องประมงนั้นไปในประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิคแล้วก็หาแหล่งจับปลาในภูมิภาคอื่นๆด้วย รวมไปถึงการค้าการลงทุนเศรษฐกิจ เราต้องมีทั้งตลาดบน ตลาดกลาง ตลาดล่างด้วย เพราะเรามีสินค้าตั้ง 3 ระดับ เช่น ข้าว เราก็มีทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว ข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวที่เป็นไปตามเอกลักษณ์ท้องถิ่น ซึ่งวันนี้ราคาข้าวขาวค่อนข้างจะราคาลดลงมาก มีปัญหากับประชาชนเดือดร้อน ผมได้ข่าวว่าโรงสีบางโรงสีกดราคาข้าวมาก ผมกำลังให้ คสช.ไปตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงมา ท่านจะเอาเปรียบเขาไม่ได้ และวันนี้ประชาชนที่เป็นชาวไร่ชาวนานั้นน่าสงสาร น่าเห็นใจ ท่านก็ร่วมมือกับรัฐบ้าง อย่ามุ่งแต่กำไรอย่างเดียว ผมไม่ได้มุ่งหวังให้ท่านขาดทุนอยู่แล้ว แต่ท่านต้องดูแลประชาชนร่วมกันด้วย เพราะเราเป็นประชารัฐ

ในส่วนของยางพารา เราต้องเร่งการผลิต แปรรูปให้ได้โดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็นที่นอนยาง ยางปูพื้นสนามกีฬา หรืออื่นๆ ปูพื้นห้องน้ำ ห้องน้ำคนชรา หรือห้องอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ เหล่านี้ต้องคิดใหม่ทำใหม่ทั้งหมด แต่ผมอยากทำให้เร็วกว่านั้น เรามีการวิจัยพัฒนาในเรื่องนี้มาหลายอย่างด้วยกัน แต่มันนำสู่การผลิตไม่ได้ วันนี้รัฐบาลนี้ได้เอาผลการวิจัยพัฒนาในเรื่องยางมาแม็ทชิ่งกับผู้ประกอบการไปแล้ว เพียงแต่ว่ายังช้าอยู่ ผมก็ขอให้ฝ่ายเศรษฐกิจของรัฐบาลลงไปดูร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ สวทช. ว่าทำอย่างไรจะเร็วขึ้นด้วยการใช้ยางภายในประเทศให้มากขึ้น ถ้าเรารอในเรื่องของรับเบอร์ ซิตี้ อย่างเดียวคงไม่ทันการ ต้องทำวันนี้ทันที แล้วเกิดผลภายใน 1 ปี 6 เดือน ที่หลงเหลืออยู่นี้ เราอาจจะต้องเพิ่มเครื่องจักร เครื่องมือ เพิ่มเงินทุน ในการผลิต สนับสนุนเรื่องแรงงาน เรื่องความรู้ ความทันสมัยให้กับเขาด้วย เพราะวันนี้เขามาร่วมมือกับเราแล้วนะครับ เราสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นมากกว่าหลายๆ กิจกรรม ผมอยากเร่งในกิจกรรมที่มีศักยภาพไปแปรรูปให้ได้ เพื่อจะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ มีรายได้ และลดปัญหาในเชิงโครงสร้างของเรื่องค่าห่วงยางอะไรทำนองนี้ที่มีเป็นจำนวนมากอยู่ในขณะนี้

เรื่องของการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจภายในประเทศนั้น เราไม่มีการพัฒนามาเป็นเวลานานอย่างเป็นระบบนะครับ เราต้องเพิ่มความเข้มแข็ง สร้างความมั่นคง และมีประสิทธิภาพในการแข่งขันรอบด้าน ตอนนี้ในเรื่องของการสร้างนวัตกรรมสิ่งใหม่ๆ มาแข่งขัน ทั้งนี้รัฐบาลพยายามส่งเสริมและพัฒนาอยู่แล้วนะครับ ในเรื่องของระบบเศรษฐกิจฐานราก เพื่อจะแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ทุกคนต้องเข้าใจนะครับอะไรคือความเหลื่อมล้ำ อะไรคือความเป็นธรรม อะไรคือความยากจน อะไรคือความแตกแยก ช่องว่างอะไรเหล่านี้พูดกันมาเยอะแล้ว มันต้องนำมาสู่การปฏิบัติให้ได้ ข้าราชการต้องปรับตัว รัฐบาลก็พยายามจะให้แนวคิดนโยบายไปแล้ว แต่ผู้ปฏิบัติส่วนใหญ่ต้องเป็นข้าราชการ วันนี้ร่วมมือกับภาคธุรกิจเอกชนไปด้วยในลักษณะประชารัฐ

เพราะฉะนั้นท่านต้องทำใหม่ คิดใหม่ทำใหม่ อย่าทำแบบเดิม ถ้าทำแบบเดิมมันก็เหมือนเดิมนะครับ มันไม่สำเร็จไม่แข็งแรง ไม่มีอนาคต ประชาชนยังช่วยตัวเองไม่ได้เหมือนเดิม เหมือนกับเราเลี้ยงไม่ให้เขาโต วันนี้ต้องให้ประชาชนเขาโตเร็วๆ ไม่ใช่ต้องโอบอุ้มดูแลกันไปตลอดไป วันหน้าเราโตไม่ทันเขาหรอก เราต้องสร้างการเติบโตจากภายใน ตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ชุมชน ตั้งแต่หมู่บ้านขึ้นมา วันนี้เรามีโครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า โอทอปนะครับ ที่สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดีในเรื่องของการเพิ่มมูลค่า สร้างนวัตกรรมนะครับ เป็นการหยิบยกภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ได้สั่งสม เรียนรู้ ถ่ายทอดมาแต่อดีต นำมาสร้างสรรค์พัฒนาสู่สินค้าและการบริการของชุมชนในหมู่บ้าน เพื่อเป็นการสร้างอาชีพ กระจายรายได้ มีการเชื่อมโยง ที่เรียกว่า matching ให้เป็นห่วงโซ่ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ถึงกัน

ในการส่งเสริมโครงการโอทอป ที่เราจัดงานโอทอป ซิตี้ 2015 ที่ผ่านมา ก็นับว่าเป็นการดำเนินงานตามแนวพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีพระราชดำริในเรื่องของการที่จะสร้าง ทำอย่างไรให้สินค้า ภูมิปัญญาท้องถิ่น สินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของคนไทยในท้องถิ่นนั้นไปสู่สากล จะเห็นได้ว่าท่านก็ทรงเริ่มในเรื่องของหม่อนไหม ในเรื่องของผ้าไหม และในเรื่องของการแกะสลัก การทำเครื่องเขิน การทำเครื่องเงินเครื่องทองอะไรต่างๆ เหล่านั้น มากมายหลายอย่าง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นแรงบันดาลใจให้กับรัฐบาลในการที่จะขับเคลื่อนโครงการโอทอปเพื่่อเสริมแนวพระราชเสาวนีย์ของพระองค์ท่านไปให้ต่อเนื่อง และยั่งยืน

วันนี้โครงการส่งเสริมศิลปาชีพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นั้นได้ทรงมุ่งเน้นในการฝึกอาชีพให้กับราษฎรในถิ่นทุรกันดาร ได้ทรงเริ่มมากว่า 60 ปีแล้ว นี่เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ เพราะฉะนั้นเราต้องนำกุญแจนี้มาขับเคลื่อน มาไขกลไกในการทำงานของประชารัฐให้ได้ ทั้งในเรื่องการบูรณาการ และการประสานสอดคล้องกันของหน่วยงานรัฐ เอกชน ประชาชน ในแนวตั้งและแนวนอน แม้กระทั่งสื่อที่สร้างสรรค์ก็จะต้องมีส่วนช่วยสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ มีการนำเสนอ ขยายผล ต่อยอด มีสาระ มีองค์ความรู้ ความสำเร็จจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง ก็จะเป็นแรงบันดาลใจของประชาชน ของเกษตรกร ของผู้ผลิต ผู้ประกอบการ

ในช่วงสิ้นปีนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เข้าสู่ฤดูหนาว ก็มีหนาวมาก หนาวน้อย แล้วแต่พื้นที่ แต่ผมก็ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพ โดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่ การเดินทางสัญจรของพี่น้องประชาชนเพื่อไปท่องเที่ยว พักผ่อน กลับภูมิลำเนานั้น ขอให้ดูแลตัวเองในลำดับแรก การเตรียมร่างกายให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ การเดินทางระยะไกลอย่าลืมตรวจสภาพยานพาหนะกันด้วย อย่าทานสุรา ทางรัฐบาลก็ได้เตรียมการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนตลอดเส้นทางของท่านจนถึงบ้าน เพื่อจะได้กลับไปเยี่ยมบ้าน ไปกราบไหว้พ่อแม่ พบปะญาติพี่น้องอย่างมีความสุข และปลอดภัย มีจุดพักผ่อนริมทางให้ มีเส้นทางลัด ทางเบี่ยง ป้ายเตือน สัญญาณไฟจราจร การตรวจระดับแอลกอฮอล์ สิ่งสำคัญคือการเมาแล้วไม่ขับ ผมไม่อยากลงโทษท่านนะ เพราะท่านทำให้คนอื่นเจ็บ คนอื่นตาย ท่านตายด้วย ท่านก็ลงโทษตัวท่านเองอยู่แล้ว ลงโทษคนอื่นเขาไปด้วย ผมว่าไม่ใช่นะ ไม่ใช่แบบนั้น เพราะฉะนั้นผมอยากให้ทุกคนมีจิตสำนึก และก็ช่วยสร้างกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ด้วย วันนี้เขาก็ปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติงานในการดูแลท่าน อำนวยความสะดวกท่าน ในช่วงปีใหม่ แล้วก็อยู่ด้วยกันมาโดยตลอด เขาก็อยากกลับบ้านเหมือนกัน แต่เขาก็จำเป็น เป็นหน้าที่ และการเสียสละความสุขของเขาที่จะได้อยู่กับครอบครัวของเขามา ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น ส่วนใหญ่ ทั้งฝ่ายปกครอง พลเรือน ตำรวจ ทหาร มูลนิธิต่างๆ เขาก็เสียสละเพื่อท่านมาทั้งสิ้น ให้กำลังใจเขาบ้าง

ผมขอฝากข้อคิดเกี่ยวกับการมอบของขวัญ ก็ให้เขาเป็นกำลังใจเล็กน้อย ไม่ต้องมีมูลค่ามากมาย เป็นการแสดงน้ำใจต่อกัน ไม่ใช่ตำหนิต่อว่าอะไรเขาตลอดเวลา คนเรามันก็ต้องการกำลังใจเหมือนกัน เขาก็มีปัญหามากมาย ท่านไม่เข้าใจหรอก ถ้าหากว่าท่านต้องการแต่เพียงฝ่ายเดียว ของขวัญวันนี้ผมอยากให้ท่านคิดว่า ถ้าท่านอยากได้อะไรจากใคร ท่านก็ต้องให้เขาด้วย ฉะนั้นขอให้มอบของขวัญซึ่งให้กันและกัน ประชาชน ข้าราชการ พลเรือน ทหาร และทุกภาคส่วนที่เป็นคนไทยมอบให้กัน มอบด้วยใจ มอบด้วยอะไรก็แล้วแต่ ตนเองก็คือการสั่งสมความรู้ทางปัญญาให้กับตัวเอง มีสติในการรักษา รับรู้ มีคุณธรรม จริยธรรม

สำหรับของขวัญในครอบครัวก็คือ มอบเวลาให้คนรัก ความเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ดูแลกันบ้าง ใกล้ชิดกันบางทีก็ลืมไป ส่วนมิตรสหาย เพื่อนร่วมงานรอบข้าง ก็มอบความจริงใจ ให้เกียรติ และความรู้รักสามัคคี

ในส่วนที่ประชาชนมอบให้สังคมส่วนรวมประเทศชาติ ก็คือการมีน้ำใจ การเสียสละผลประโยชน์ส่วนตัว การมีจิตสำนึก เป็นสาธารณะเพื่อประโยชน์คนส่วนใหญ่ ทั้งนี้ ถ้าเราให้เขาไว้แล้ว สิ่้งที่ท่านเรียกร้องก็จะกลับมาเอง ไม่ใช่ว่าไม่เคยให้อะไรใครเขาเลย แล้วก็มาเรียกร้องกดดันทุกอย่าง ไม่ช่วยกัน หรือว่าทุกคนต้องทำตามหน้าที่บางทีก็กำลังใจด้วยนะ ผมไม่อยากให้ท่านใช้คำว่า เออ.. ประเทศให้อะไรกับท่าน รัฐบาล คสช.นี้ให้อะไรกับท่านบ้าง ท่านคิดสิว่า วันนี้ท่านได้ทำอะไรให้กับประเทศชาติ และแผ่นดินที่ท่านหากินอยู่อาศัยมา มีรายได้มากน้อย อะไรก็แล้วแต่ ก็เป็นที่ที่เรายืนอย่างเป็นอิสระ เสรีภาพ มาโดยตลอด ก็ขอให้ท่านทำอะไรให้กับประเทศชาติ ลูกหลาน เผื่อแผ่คนอื่นๆด้วย ในฐานะคนไทยที่ต้องมีความรักชาติ รักสถาบันอย่างแท้จริง

ขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนมีความสุขกับครอบครัว พักผ่อนอย่างมีความสุข พร้อมกันที่จะเดินหน้าประเทศไทยต่อไปอีกในปีหน้าร่วมกันกับ คสช. และรัฐบาลอีกต่อไป ขอบคุณครับ สวัสดีครับ”



กำลังโหลดความคิดเห็น