xs
xsm
sm
md
lg

“สุวพันธุ์” แจงขับเคลื่อนนโยบายรัฐสัมฤทธิผล ปฏิรูปเร็ว รับต้องค่อยแก้ทรัพย์สินวัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี(แฟ้มภาพ)
รมต.สำนักนายกฯ เผยขับเคลื่อนนโยบายรัฐสำเร็จสัมฤทธิผลอย่างมาก ประสาน สนช.-สปท.งานด้าน กม.ราบรื่น ปฏิรูปรวดเร็วสอดคล้องแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี 30 ธ.ค.ถกวิป 3 ฝ่ายหารืองานปีหน้า แจงปฏิรูป พศ.ระยะ 1 เห็นตรงปฏิรูปในคณะสงฆ์เอง ปลื้ม ปชช.สนใจร่วมสวดมนต์ข้ามปีถึง 15 ล้านคน รับต้องค่อยแก้ปมทรัพย์สินวัด ไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่า ยันไม่ทอดทิ้งพระสงฆ์ จชต.

วันนี้ (25 ธ.ค.) นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า การขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก นายกฯ ให้ความสำคัญต่อเรื่องการขับเคลื่อนในทุกด้านซึ่งได้เดินหน้าทั้งการขับเคลื่อนและตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่างบประมาณที่รัฐบาลใช้ไปจะสามารถทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้จริง

“ก่อนวันที่ 22 พ.ค. 57 การขับเคลื่อนต่างๆ อาจไม่เดินไปอย่างที่ประชาชนและข้าราชการตั้งความหวังไว้ แต่ตั้งแต่ พ.ค. 57 มาจนถึงปัจจุบันกลไกในการขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาลนี้สามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่องและมีผลสัมฤทธิ์เห็นเป็นประจักษ์ได้ ซึ่งอนาคตข้างหน้าภาพของการขับเคลื่อนการทำงานของรัฐบาลก็จะเป็นภาพที่ชัดเจนขึ้น และทั้งหมดนี้จะเป็นหลักประกันให้สังคมได้มั่นใจว่ารัฐบาลมีงบประมาณในการใช้จ่าย ซึ่งจะนำงบประมาณนี้ไปใช้ในการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดประโยชน์สุงสุดและในปีต่อไปก็จะดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าว

สำหรับงานด้านการประสานกับทางสภานิติบัญญัตินั้น นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ทำให้งาน โดยเฉพาะกฏหมายต่างๆ สามารถเดินหน้าไปอย่างราบรื่น ส่วนการปฏิรูปประเทศนั้นหลังมีสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ (สปท.) เข้ามาก็ทำให้งานผ่านไปได้อย่างรวดเร็วและสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีของรัฐบาล จนเห็นผลแล้ว และจะมีการขับเคลื่อนต่อไป และวันพุธที่ 30 ธ.ค.ได้นัดประชุมวิป 3 ฝ่ายเพื่อหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อบ้างในปีหน้า กำหนดผลระยะสั้นและระยะยาวอย่างไร

นายสุวพันธุ์กล่าวถึงการดำเนินงานในส่วนของสำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลทำงานร่วมกับพระสงฆ์ 3.5 แสนรูป ซึ่งที่ผ่านมาได้เริ่มมีการปฏิรูปแล้ว ซึ่งคณะสงฆ์มีความเต็มใจและตั้งใจที่จะเดินหน้าปฏิรูป ซึ่งระยะที่ 1 ทำไปแล้ว มีการสอบถามความคิดเห็นพระสงฆ์แล้วถึง 3 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่พระสงฆ์เห็นตรงกันว่าสิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับการปฏิรูปก็คือการปฏิรูปจากภายในของคณะสงฆ์เอง การทำให้กิจการพระพุทธศาสนาถูกต้อง และเหมาะสม ทั้งนี้สิ่งที่จะเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ซึ่งเป็นการปฏิรูประยะที่ 2 ในปี 2559 คือการจัดทำแผนปฏิบัติการปฏิรูป 6 ส่วน + 1 พระสังฆาธิการจะต้องดูแลพระสงฆ์ เณร 3.5 แสนรูปให้ประพฤติตัวอย่างเหมาะสม งานพระพุทธศาสนาเป็นงานเร่งด่วนและค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งต่างจากงานราชการอื่น ที่ต้องทำให้สัมฤทธิผล

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลร่วมกับพระพุทธศาสนา สร้างสังคมคุณธรรมผ่านโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 มีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก ส่วนอีกโครงการหนึ่งคือโครงการสวดมนต์ข้ามปี ซึ่งปีนี้จะจัดที่พุทธมณฑล ร่วมกับวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งที่มีการสำรวจพบว่าปีนี้มีผู้สนใจถึง 15 ล้านคนที่ตั้งใจจะเข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปี จากปีที่แล้วมีเพียง 6 ล้านคนถือเป็นนิมิตหมายที่ดี

ส่วนการบริหารจัดการทรัพย์สินของวัดนั้น นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้เข้าไปดำเนินการให้วัดทำทะเบียนทรัพย์สินของวัดแล้ว 2.8 หมื่นแห่ง เรื่องเหล่านี้ต้องค่อยๆ แก้ไข เราไม่สามารถหักด้ามพร้าด้วยเข่าได้

นายสุวพันธุ์ยังกล่าวถึงการดูแลพระสงฆ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า รัฐบาลได้จัดงบประมาณ ปีหนึ่งๆ ประมาณ 129 ล้านบาท และหากลยุทธ์ในการดูแลพระสงฆ์อย่างดี ไม่ทอดทิ้ง ดูแลมาโดยตลอด


กำลังโหลดความคิดเห็น