ศาลปกครองตั้ง กก.สอบซ้ำ “หัสวุฒิ” เหตุใช้รถราชการมิชอบ แจงมีผู้ร้องทำตามหน้าที่

ศาลปกครองแจงตั้ง คกก.สอบวินัยซ้ำ “หัสวุฒิ” เหตุใช้รถราชการไม่ชอบ ยันมีผู้ร้อง ก.ศป.ต้องดำเนินการตามหน้าที่ ชี้กำลังสอบกรณีไปปฏิบัติราชการพิษณุโลกและยกยอดฉัตรทองคำลูกแก้ว ยุติปมคลั่งพลังจิต เหตุไม่มีมูล

วันนี้ (22 ธ.ค.) สำนักงานศาลปกครองได้ออกเอกสารชี้แจงเกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยต่อนายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ที่ก่อนหน้านีคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) มีมติให้พ้นจากประธานศาลปกครองสูงสุด โดยระบุว่า กรณี ก.ศป.มีมติตั้งคณะกรรมการสอบวินัยนายหัสวุฒิ จากเหตุมีพฤติกรรมใช้รถยนต์ส่วนกลางไม่ชอบด้วยระเบียบคณะกรรมการข้าราชการฝ่ายศาลปกครอง ว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2544 เป็นหนึ่งในกรณีที่ตุลาการในศาลปกครองชั้นต้นขอให้ ก.ศป.ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน มีหนังสือขอให้ ก.ศป.ตรวจสอบการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมนายหัสวุฒิ ในประเด็นดังกล่าว ก.ศป.จึงต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ไม่ได้เป็นเรื่องที่ ก.ศป.หยิบยกขึ้นพิจาณณาเอง โดยก่อน ก.ศป.มีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยนั้น ก.ศป.ได้มีการพิจารณาและมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นพ้องด้วยกับความเห็นของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่ว่าพฤติกรรมของนายหัสวุฒิขณะดำรงตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุดมีมูลความผิดทางวินัยกรณีใช้รถยนต์ส่วนกลางโดยไม่ชอบด้วยระเบียบคณะกรรมการข้าราชการฝ่ายศาลปกครอง ว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 23 และข้อ 21 ซึ่งต้องดำเนินการตามมาตรา 24 วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2552 ประกอบข้อ 5 วรรคสอง และข้อ 6 วรรคหนึ่ง (4) ของระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการสอบสวนและสิทธิของตุลาการศาลปกครอง ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง พ.ศ. 2544 โดยให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการสอบสวนกรณีดังกล่าว

ส่วนกรณีมีการกล่าวหาว่า นายหัสวุฒิมีพฤติกรรมที่อาจถูกกล่าวหาว่ามีเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่งจากกรณีการเดินทางไปปฏิบัติราชการที่ศาลปกครองพิษณุโลกและยกยอดฉัตรทองคำลูกแก้ว ณ วัดพิพัฒน์มงคล จังหวัดสุโขทัย ก.ศป.พิจารณาและมีมติว่า เป็นกรณีมีมูลตามที่กำหนดในประกาศ ก.ศป. เรื่องวินัยแห่งการเป็นตุลาการศาลปกครอง ลงวันที่ 19 ธ.ค. 2544 และระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการสอบสวนและสิทธิของตุลาการศาลปกครองซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง พ.ศ. 2544 โดยให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวน ขณะที่กรณีนายหัสวุฒิถูกกล่าวหาว่า มีสติไม่สมประกอบ คลั่งพลังจิต ก.ศป.พิจารณาและมีมติว่าเมื่อผู้ที่ลงข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวกล่าวหา นายหัสวุฒิว่าสติไม่สมประกอบคลั่งพลังจิต ได้ลงข้อความขอขมาในเฟบุ๊ซกส่วนตัว โดยระบุว่าข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นการกระทำด้วยความคึกคะนองเพื่อใส่ร้ายนายหัสวุฒิ ดังนั้นจึงยังฟังไม่ได้ว่าพฤติกรรมของนายหัสวุฒิมีสติไม่สมประกอบคลั่งพลังจิตตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด จึงเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลและให้ยุติเรื่องดังกล่าว