กลุ่มประชาชนเพื่อความยุติธรรมของแผ่นดิน จวกศาลปกครองจ่อดำเนินคดี “หัสวุฒิ” หลังให้สัมภาษณ์สื่อ สับ ก.ศป.ฝ่าฝืนมติ กก.สอบฯ ถามถ้าในวงการตุลาการยังเป็นอย่างนี้แล้วชาวบ้านจะได้รับความยุติธรรมได้อย่างไร จี้ยึดเสียงข้างมากคืนเก้าอี้
วันนี้ (22 ก.ย.) กลุ่มประชาชนเพื่อความยุติธรรมของแผ่นดิน (ก.ย.ท.) นำโดยนายนพพล น้อยบ้านโง้ง ผู้ประสานงานกลุ่ม แถลงข่าวเรื่อง “บอร์ดศาลปกครองไทย ช็อกวงการตุลาการโลก” โดยระบุว่า หลังจากที่นายหัสวุฒิ วิทิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด ที่คณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) มีมติสั่งพักราชการ ได้ไปแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการสั่งดำเนินการสอบสวนตนเองของ ก.ศป.ในดคีจดหมายน้อย ที่สำนักงานศาลปกครองเมื่อวันที่ 9 ก.ย. และ 15 ก.ย.นั้น ขณะนี้ทราบว่าทางสำนักงานศาลปกครองเตรียมที่จะดำเนินดดีอาญาต่อนายหัสวุฒิ ฐานละเมิดศาลกรณีให้สัมภาษณ์สื่อฯ ซึ่งเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะสำนักงานศาลปกครองเป็นสถานที่ที่เป็นสมบัติสาธารณะของแผ่นดิน การแสดงความเห็นโดยสุจริตน่าเป็นสิ่งที่ทำได้ อีกทั้งเห็นว่ากระบวนการสอบสวนนายหัสวุฒิล่าช้าไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้ต้องมีการรักษาการประธานศาลปกครองสูงสุดนานเกินกว่าขอบเขตที่กฎหมายกำหนด และเมื่อคณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเสียงข้างมากว่าคดีไม่มีมูล ก.ศป.กลับไม่มีมติคืนตำแหน่งให้แก่ นายหัสวุฒิ ซ้ำยังการเผยแพร่ข่าวออกมาในทำนองว่ากฎหมายไม่ได้บัญญัติให้ ก.ศป.ต้องมีมติโดยยึดตามเสียงข้างมากของคณะกรรมการสอบสวน และยังพยายามที่จะตั้งกรรมการสอบนายหัสวุฒิในอีกหลายเรื่อง
“คนเป็นตุลาการต้องรู้อยู่แก่ใจว่าต้องเป็นคนที่มีความเป็นกลาง รู้จักใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ฟังข้อเท็จจริงให้ยุติอย่างเป็นธรรมแล้วตัดสินพิพากษาด้วยความแม่นยำ ถูกต้อง เป็นธรรม แต่ที่ผ่านมา ก.ศป.เสียงข้างมากที่เป็นตุลาการกลับกระทำการฝ่าฝืนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างชัดเจน ในฐานะคนไทยเห็นว่าเราไม่ควรยอมรับการกระทำในลักษณะนี้ แถลงการณ์ของ ก.ศป.สองฉบับที่ผ่านมาก็ถือเป็นการช็อกวงการตุลาการโลก ตุลาการไทย และถ้าในแวดวงการยุติธรรมยังมีการทำกันแบบนี้ ประชาชนจะได้รับความยุติธรรมได้อย่างไร” นายนพพลกล่าว
นายนพพลยังกล่าวอีกว่า ทราบว่าในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ย.) จะมีการประชุม ก.ศป.เพื่อพิจารณากรณีนี้จึงอยากเรียกร้องขอให้ ก.ศป.มีมติโดยยึดตามเสียงข้างมากของคณะกรรมการสอบสวนที่เห็นว่าคดีจดหมายน้อยไม่มีมูล และให้นายหัสวุฒิกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่เพราะแม้ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ ก.ศป.ต้องมีมติโดยยึดเสียงข้างมาก แต่การยึดตามเสียงข้างมากก็เป็นหลักสากลซึ่งการจะตัดสินอะไรก็ต้องอิงเอกสาร หลักฐานที่ชัดเจน นอกจากนั้น ขณะนี้บ้านเมืองต้องการความถูกต้องตามกฎหมายอย่างมาก จึงอยากเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้ามาตรวจสอบว่าสิ่งที่ ก.ศป.ดำเนินการอยู่นี้ผิดหรือถูก และควรจะยุบ ก.ศป.ชุดนี้ไปเลยหรือไม่ รวมถึงควรเป็นโอกาสในการปฏิรูปศาลไปเลยหรือไม่ด้วย
เมื่อถามว่า หากการประชุม ก.ศป.วันพรุ่งนี้ไม่มีการดำเนินการตามที่ทางกลุ่มเรียกร้องจะทำอย่างไร นายนพพลกล่าวว่า ก็จะเดินหน้าเรียกร้องความยุติธรรมต่อไป ก่อนหน้านี้ก็มีหนังสือไปยัง คสช.และ ป.ป.ช.แล้ว เราจะปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้
วันนี้ (22 ก.ย.) กลุ่มประชาชนเพื่อความยุติธรรมของแผ่นดิน (ก.ย.ท.) นำโดยนายนพพล น้อยบ้านโง้ง ผู้ประสานงานกลุ่ม แถลงข่าวเรื่อง “บอร์ดศาลปกครองไทย ช็อกวงการตุลาการโลก” โดยระบุว่า หลังจากที่นายหัสวุฒิ วิทิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด ที่คณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) มีมติสั่งพักราชการ ได้ไปแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการสั่งดำเนินการสอบสวนตนเองของ ก.ศป.ในดคีจดหมายน้อย ที่สำนักงานศาลปกครองเมื่อวันที่ 9 ก.ย. และ 15 ก.ย.นั้น ขณะนี้ทราบว่าทางสำนักงานศาลปกครองเตรียมที่จะดำเนินดดีอาญาต่อนายหัสวุฒิ ฐานละเมิดศาลกรณีให้สัมภาษณ์สื่อฯ ซึ่งเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะสำนักงานศาลปกครองเป็นสถานที่ที่เป็นสมบัติสาธารณะของแผ่นดิน การแสดงความเห็นโดยสุจริตน่าเป็นสิ่งที่ทำได้ อีกทั้งเห็นว่ากระบวนการสอบสวนนายหัสวุฒิล่าช้าไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้ต้องมีการรักษาการประธานศาลปกครองสูงสุดนานเกินกว่าขอบเขตที่กฎหมายกำหนด และเมื่อคณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเสียงข้างมากว่าคดีไม่มีมูล ก.ศป.กลับไม่มีมติคืนตำแหน่งให้แก่ นายหัสวุฒิ ซ้ำยังการเผยแพร่ข่าวออกมาในทำนองว่ากฎหมายไม่ได้บัญญัติให้ ก.ศป.ต้องมีมติโดยยึดตามเสียงข้างมากของคณะกรรมการสอบสวน และยังพยายามที่จะตั้งกรรมการสอบนายหัสวุฒิในอีกหลายเรื่อง
“คนเป็นตุลาการต้องรู้อยู่แก่ใจว่าต้องเป็นคนที่มีความเป็นกลาง รู้จักใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ฟังข้อเท็จจริงให้ยุติอย่างเป็นธรรมแล้วตัดสินพิพากษาด้วยความแม่นยำ ถูกต้อง เป็นธรรม แต่ที่ผ่านมา ก.ศป.เสียงข้างมากที่เป็นตุลาการกลับกระทำการฝ่าฝืนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างชัดเจน ในฐานะคนไทยเห็นว่าเราไม่ควรยอมรับการกระทำในลักษณะนี้ แถลงการณ์ของ ก.ศป.สองฉบับที่ผ่านมาก็ถือเป็นการช็อกวงการตุลาการโลก ตุลาการไทย และถ้าในแวดวงการยุติธรรมยังมีการทำกันแบบนี้ ประชาชนจะได้รับความยุติธรรมได้อย่างไร” นายนพพลกล่าว
นายนพพลยังกล่าวอีกว่า ทราบว่าในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ย.) จะมีการประชุม ก.ศป.เพื่อพิจารณากรณีนี้จึงอยากเรียกร้องขอให้ ก.ศป.มีมติโดยยึดตามเสียงข้างมากของคณะกรรมการสอบสวนที่เห็นว่าคดีจดหมายน้อยไม่มีมูล และให้นายหัสวุฒิกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่เพราะแม้ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ ก.ศป.ต้องมีมติโดยยึดเสียงข้างมาก แต่การยึดตามเสียงข้างมากก็เป็นหลักสากลซึ่งการจะตัดสินอะไรก็ต้องอิงเอกสาร หลักฐานที่ชัดเจน นอกจากนั้น ขณะนี้บ้านเมืองต้องการความถูกต้องตามกฎหมายอย่างมาก จึงอยากเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้ามาตรวจสอบว่าสิ่งที่ ก.ศป.ดำเนินการอยู่นี้ผิดหรือถูก และควรจะยุบ ก.ศป.ชุดนี้ไปเลยหรือไม่ รวมถึงควรเป็นโอกาสในการปฏิรูปศาลไปเลยหรือไม่ด้วย
เมื่อถามว่า หากการประชุม ก.ศป.วันพรุ่งนี้ไม่มีการดำเนินการตามที่ทางกลุ่มเรียกร้องจะทำอย่างไร นายนพพลกล่าวว่า ก็จะเดินหน้าเรียกร้องความยุติธรรมต่อไป ก่อนหน้านี้ก็มีหนังสือไปยัง คสช.และ ป.ป.ช.แล้ว เราจะปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้