ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (21ก.ย.) ภายในสำนักงานศาลปกครอง ได้มีการเผยแพร่จดหมายเปิดผนึก ระบุวันที่ 18 ก.ย.58 ลงชื่อ กลุ่มข้าราชการฝ่ายศาลปกครองผู้รักความเป็นธรรม ซึ่งมีเนื้อหาเรียกร้องให้ตุลาการศาลปกครอง ร่วมกันแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในองค์กร จากกรณี คณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) มีคำสั่งพักราชการ และสอบสวน นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด โดยมีข้อความที่น่าสนใจ อาทิ
"สำหรับกรณีประธานศาลปกครองสูงสุดที่เกิดขึ้น ขอได้โปรดมองอย่างนักกฎหมายที่ดีว่าได้มีการสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา ก.ศป. ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ก.ศป. กระทำการเป็นที่เสียหายแก่ศาลปกครองหรือไม่ จึงขอเรียกร้องให้ตุลาการศาลปกครองทุกท่าน ร่วมกันตรวจสอบ และรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น"
"ตุลาการศาลปกครอง เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นนักกฎหมายมหาชนชั้นสูงของประเทศ เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจของหน่วยงานอื่นๆ เป็นผู้รู้กฎหมายเป็นอย่างดี และการพิพากษาคดีมีหลักว่าต้องพิพากษาคดีอย่างไม่มีอคติ รับฟังข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน ไม่ตัดสินโดยเห็นแก่พวกพ้อง ต้องไม่ใช้กฎหมายอย่างบิดเบือน ต้องใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมาย”
“มันช่างน่าอับอายเป็นอย่างยิ่ง ที่ตุลาการศาลปกครองผู้ใช้กฎหมายเอง กลับพยายามหาช่องว่างทางกฎหมายบิดเบือน เพื่อกลั่นแกล้ง ทำผิดขั้นตอนของกฎหมายเพื่อประโยชน์ของตนเอง และพวกพ้อง โดยไม่สนใจต่อความชอบด้วยศีลธรรม อย่างนี้แล้วจะพิพากษาคนอื่นอย่างไร ประชาชนจะพึ่งพาได้อย่างไร มันน่าอับอาย”
ทั้งนี้ ในวันที่ 23 ก.ย.นี้ จะมีการประชุมของ ก.ศป. ซึ่งจะมีการวาระการพิจารณารายงานสรุปผลการสอบสวนทางวินัยของนายหัสวุฒิจากกรณีจดหมายน้อยฝากตำรวจ อีกครั้ง หลังจากที่ในการประชุม 2 ครั้งก่อนหน้านี้ คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้สรุปผลว่ามีมติเสียงข้างมาก 3 ต่อ 2 เสียงว่า นายหัสวุฒิ ไม่มีความผิดจากกรณีดังกล่าว แต่ที่ประชุมก.ศป.ได้สั่งให้ดำเนินการเรียกนายหัสวุฒิ มารับทราบข้อกล่าวหา และพยานหลักฐานสนับสนุน ซึ่งนายหัสวุฒิ ได้เดินทางเข้าพบคณะกรรมการสอบสวนฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยนายหัสวุฒิ ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในวันนั้นด้วยว่า ขอให้จับตาการประชุมวันที่ 23 ก.ย.นี้ ซึ่ง ก.ศป. อาจลุแก่อำนาจ มีมติเห็นตามเสียงข้างน้อยของคณะกรรมการสอบสวนฯ ไล่ตนออกจากราชการก็ได้
"สำหรับกรณีประธานศาลปกครองสูงสุดที่เกิดขึ้น ขอได้โปรดมองอย่างนักกฎหมายที่ดีว่าได้มีการสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา ก.ศป. ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ก.ศป. กระทำการเป็นที่เสียหายแก่ศาลปกครองหรือไม่ จึงขอเรียกร้องให้ตุลาการศาลปกครองทุกท่าน ร่วมกันตรวจสอบ และรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น"
"ตุลาการศาลปกครอง เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นนักกฎหมายมหาชนชั้นสูงของประเทศ เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจของหน่วยงานอื่นๆ เป็นผู้รู้กฎหมายเป็นอย่างดี และการพิพากษาคดีมีหลักว่าต้องพิพากษาคดีอย่างไม่มีอคติ รับฟังข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน ไม่ตัดสินโดยเห็นแก่พวกพ้อง ต้องไม่ใช้กฎหมายอย่างบิดเบือน ต้องใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมาย”
“มันช่างน่าอับอายเป็นอย่างยิ่ง ที่ตุลาการศาลปกครองผู้ใช้กฎหมายเอง กลับพยายามหาช่องว่างทางกฎหมายบิดเบือน เพื่อกลั่นแกล้ง ทำผิดขั้นตอนของกฎหมายเพื่อประโยชน์ของตนเอง และพวกพ้อง โดยไม่สนใจต่อความชอบด้วยศีลธรรม อย่างนี้แล้วจะพิพากษาคนอื่นอย่างไร ประชาชนจะพึ่งพาได้อย่างไร มันน่าอับอาย”
ทั้งนี้ ในวันที่ 23 ก.ย.นี้ จะมีการประชุมของ ก.ศป. ซึ่งจะมีการวาระการพิจารณารายงานสรุปผลการสอบสวนทางวินัยของนายหัสวุฒิจากกรณีจดหมายน้อยฝากตำรวจ อีกครั้ง หลังจากที่ในการประชุม 2 ครั้งก่อนหน้านี้ คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้สรุปผลว่ามีมติเสียงข้างมาก 3 ต่อ 2 เสียงว่า นายหัสวุฒิ ไม่มีความผิดจากกรณีดังกล่าว แต่ที่ประชุมก.ศป.ได้สั่งให้ดำเนินการเรียกนายหัสวุฒิ มารับทราบข้อกล่าวหา และพยานหลักฐานสนับสนุน ซึ่งนายหัสวุฒิ ได้เดินทางเข้าพบคณะกรรมการสอบสวนฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยนายหัสวุฒิ ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในวันนั้นด้วยว่า ขอให้จับตาการประชุมวันที่ 23 ก.ย.นี้ ซึ่ง ก.ศป. อาจลุแก่อำนาจ มีมติเห็นตามเสียงข้างน้อยของคณะกรรมการสอบสวนฯ ไล่ตนออกจากราชการก็ได้