“ประยุทธ์” เปิดให้อธิบดีกรมศาสนาฯ เข้าเชิญชวน 3 กิจกรรมของขวัญปีใหม่ พร้อมชมกระตั้วแทงเสือ โชว์ฟันอีโต้เอง ขนส่งฯ พบต่อ รับไม่อยากให้มีคนตาย ขอ ปชช.เดินทางปลอดภัย ลั่นผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบหากสูญเสีย แย้มให้ติดจีพีเอส ย้ำมีนักท่องเที่ยวยิ่งต้องรับผิดชอบ อย่ายึดแต่กำไร เผยคุยจบแล้วให้คนรายได้น้อยนั่งฟรี ก่อนลองใส่หมวกตะกียะห์ ยันมุ่งพัฒนา ศก.ฮาลาล
วันนี้ (21 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยก่อนการประชุมนายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมศาสนากระทรวงวัฒนธรรม นำเข้าพบเพื่อเชิญชวนจัดกิจกรรมเป็นของขวัญปีใหม่ จากรัฐบาลไทยนำความเป็นไทยสู่ ใจประชาชน 3 กิจกรรมดังนี้ โดยกิจกรรมที่ 1. ไหว้พระ 9 วัดสืบสิริสวัสดิ์ 9 รัชกาล เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณ และแสดงความกตัญญูกตเวทิตาธรรมต่อบุรพมหากษัตริย์แห่งบรมราชจักรีวงศ์ อีกทั้งยังเป็นการเสนอรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงธรรมะ นิทรรศการเปิดอุทยานประวัติศาสตร์ 9 แห่ง และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ 44 แห่ง กิจกรรมที่ 2. สวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ พุทธศักราช 2559 ร่วมกับวัดทุกวัดทั่วประเทศ วันที่ 31 ธันวาถึงวันที่ 1 มกราคม เวลา 18.00-00.30 น. โดยมีกระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้ามาอำนวยความสะดวกเรื่องความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวที่ร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี โดยมีหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางประสานงานกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในพื้นที่ และประสานกับศูนย์ประสานงานระดับจังหวัด กิจกรรมที่ 3. พลัง “บวร” บ้าน-วัด-โรงเรียน ชุมชนคุณธรรมเชิญชวน โดยเชิญชวนชุมชนปั่นจักรยานไหว้พระรับฤดูหนาวสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวไทย วันที่ 1-31 มกราคม เช่น วัดครึ่งใต้ อำเภอเชียงของจังหวัดเชียงราย, ชุมชนนาอุดม อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร และชุมชนทุ่งไก่ดัก อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด
ทั้งนี้ ได้มีการนำแสดงศิลปวัฒนธรรม “กระตั้วแทงเสือ” มาโชว์ให้นายกรัฐมนตรีรับชม โดยระหว่างชมการแสดงนายกรัฐมนตรีได้ให้ช่วยกันฟื้นฟูในทุกเรื่อง เพราะถ้าฟื้นฟูเพียงเรื่องนี้จะถูกกล่าวหาเชื่อมโยงกับบูรพาพยัคฆ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้เรียกนักแสดงที่ถืออีโต้ให้มาฟันกันตรงหน้าสื่อมวลชน แต่ไม่ทันใจนายกรัฐมนตรีจึงได้คว้าอีโต้มาฟันโชว์เอง พร้อมเหวี่ยงอีโต้ทำท่าจะฟันนักข่าว
ขณะเดียวกัน กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้นำคณะเชิญชวนรณรงค์โครงการ “บอกรัก...ขับขี่ปลอดภัยด้วยทุนคนไทย” เพื่อให้ถนนทุกสายของไทยเป็นถนนแห่งรอยยิ้ม ถนนแห่งน้ำใจ สู่ถนนแห่งความปลอดภัยอย่างยั่งยืน ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสนใจมาก พร้อมกล่าวว่า “อยากให้ป่อเต็กตึ๊งตกงานจะได้ไม่มีคนตายอีก เพราะถ้าตกงานก็ไม่มีคนตาย แล้วให้มาทำอย่างอื่น มาร่วมรณรงค์อย่างอื่นแทน รวมถึงให้ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตอนนี้รัฐบาลกำลังดูเรื่องของคนขับรถสาธารณะ รวมทั้งผู้ประกอบการต่างๆ ที่ทำให้เกิดความเสียหาย และสูญเสีย ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น และกำชับพลขับให้ดี เมาแล้วต้องไม่ขับ คนจะขับรถยนต์ต้องมีสติ รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันดูแลให้ดี รวมทั้งผู้โดยสารด้วย ไม่ใช่จะกลับบ้านเพียงอย่างเดียว โดยถ้าเห็นคนขับเมา หรือง่วงนอน ต้องให้หยุด หรือจอด”
นายกฯ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้กำลังหารือกับฝ่ายกฎหมายในเรื่องของรถเก่าที่จะต้องติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ อาทิ จีพีเอส เพราะหากเกิดความเสียหายอย่างกรณีอุบัติเหตุรถทัวร์ชาวมาเลเซียแหกโค้งตกเขาที่ดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เสียชีวิต 14 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก จะอ้างอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ไม่คุ้มค่า เสียทุกอย่าง โดยเฉพาะมีเรื่องของนักท่องเที่ยวเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องอย่างนี้ใครจะรับผิดชอบ เสียชื่อเสียง เสียเวลา เสียทั้งชีวิต และทรัพย์สิน ถ้าทุกคนไม่ร่วมมือกันและช่วยกัน ก็จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะฉะนั้นต้องไม่ประมาท คนขับจะต้องไม่เมา ต้องมีความรับผิดชอบ นึกถึงชีวิตคนอื่นด้วย ตนเองเสียใจมากต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์บาดเจ็บล้มตาย
นายกฯ กล่าวด้วยว่า นอกจากจะหารือในเรื่องของรถเก่าแล้วจะหารือเรื่องของรถใหม่ที่นำมาประกอบการ ผู้ประกอบการจะต้องมีการรับผิดชอบ ติดเครื่องมือและอุปกรณ์ทุกอย่างที่รักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกที่จะอนุมัติรถใหม่จะต้องมีการตรวจสอบเครื่องมืออย่างครบถ้วน ไม่มีไม่ได้ ผู้ประกอบการเองจะรับพลขับก็ต้องตรวจสอบให้รอบคอบ จากนั้นจะมาดูถึงเรื่องการยึดใบขับขี่ หากขับรถไม่ปลอดภัยหรือเกิดอุบัติเหตุ โดยขอผู้ประกอบการอย่ายึดแต่กำไรเพียงอย่างเดียว ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินผู้อื่นด้วย และเป็นไปได้หรือไม่ที่ผู้ประกอบการจะไปหาวิธีการใช้สมาร์ทการ์ดที่เป็นนวัตกรรมใหม่บรรจุข้อมูลไว้ในการ์ดเพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถขึ้นรถฟรีได้ เรื่องนี้ตนคิดต่อจนจบแล้ว แต่พอเริ่มก็มองกันแบบผิดๆ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เข้าทักทายคณะผู้บริหารคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยที่มาเชิญชวนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เข้าร่วมสุดยอดงานฮาลาลอาเซียน 2015 ที่มีการจัดกิจกรรมโชว์วัฒนธรรม และนวัตกรรมฮาลาลเพื่อเศรษฐกิจฮาลาล โอกาสนี้คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ได้มอบ “หมวกตะกียะห์” ให้แก่นายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ทดลองใส่หมวกดังกล่าวด้วย อีกทั้งยังได้ทดลองใส่หมวกตะกียะห์ในรูปแบบเจ้าบ่าวอาเซียน พร้อมกล่าวว่าจะต้องช่วยกันพัฒนาเศรษฐกิจฮาลาลซึ่งตอนนี้พยายามทำอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีถอดหมวกเจ้าบ่าวอาเซียนนั้น หมวกได้หล่นลงพื้น นายกรัฐมนตรีจึงกล่าวขอโทษ และพูดอย่างอารมณ์ดีว่า “แสดงว่าไม่ต้องการให้แต่งงานใหม่” ทั้งนี้หมวกตะกียะห์นั้นตามความเชื่อส่วนหนึ่งของชาวมุสลิมจะเป็นการป้องกันสิ่งชั่วร้ายเข้ามาเกาะ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม ครม.แต่ละกระทรวงได้นำของขวัญมามอบให้แก่คณะรัฐมนตรี อาทิ กระทรวงพาณิชย์ได้นำกระเช้าสินค้าชุมชน ฟาร์มเอาต์เลต 40 ชุด กระทรวงสาธารณสุขนำผลิตภัณฑ์จากองค์กรเภสัช สมุนไพร ขณะที่กระทรวงมหาดไทย นำสินค้าโอทอป เช่น เครื่องชามเบญจรงค์ เครื่องแก้ว เครื่องปั้นดินเผา
