“พรเพชร” นำ สนช. ลงพื้นที่เชียงราย พร้อมตัวแทน ครม.- กรธ. แจง สนช. พบ ปชช. ปีหน้าเข้มข้นขึ้น สอดคล้องการร่าง รธน. “พีระศักดิ์” คาด สนช. อยู่ยาวถึง ส.ค.- ก.ย. 60 จนมี รบ. ใหม่ เผยลงพื้นที่แก้แล้วกว่า 3 พันปัญหา ตัวแทน กรธ. ย้ำ ทำให้ถูกใจทุกคนไม่ได้ รับอยากให้ รธน. ผ่าน เหตุเป็นร่าง ปชช. แท้จริง เน้นคุ้มครองสิทธิฯ ปราบโกง คุณสมบัติผู้แทน แนะ ปชช. สะท้อนความเห็น
วันนี้ (20 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมจิมกิตติ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กว่า 30 คน นำโดย นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. พร้อมด้วย นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช.คนที่ 2 พร้อมด้วยตัวแทนจากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และตัวแทนจาก ครม. ลงพื้นที่ตามโครงการ สนช. พบปะประชาชน เพื่อหารือร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ โดยมี นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และส่วนราชการในจังหวัดเชียงรายเข้าร่วมประชุมด้วย
โดย นายพรเพชร กล่าวว่า ต่อไปโครงการ สนช. พบประชาชนในปี 59 จะเข้มข้นมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปแห่งชาติ (สปท.) และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ดำเนินการเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งภารกิจในปีหน้านอกจากจะดูเรื่องนิติบัญญัติแล้ว เมื่อรัฐธรรมนูญผ่านชั้นประชามติ สนช. ก็ต้องพิจารณา กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายลูกร่วมกับ กรธ. ด้วย
ด้าน นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า การทำหน้าที่ของ สนช. เดิมคาดว่าจะทำงานถึงต้นปี 59 แต่เมื่อมีการร่างรัฐธรรมนูญและเรียกร้องให้มีการทำประชามติ การทำงานก็ต้องขยายเวลาออกไป เพราะหลังจากร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ สนช. ต้องทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นภารกิจหลักของ สนช. ต่อไป ดังนั้น อายุของ สนช. ก็จะทำหน้าที่ไปจนถึงการเลือกตั้ง มีรัฐบาล และรัฐสภาชุดใหม่ โดยคาดว่า สนช. จะทำหน้าที่ไปจนถึงเดือน ส.ค.- ก.ย. ปี 60 อย่างไรก็ตามการทำงานของ สนช. จะเป็นไปอย่างสมบูรณ์ได้ก็ต้องรับฟังปัญหาและข้อคิดเห็นของประชาชนด้วย จึงเป็นที่มาของการลงพื้นที่พบประชาชน ซึ่งในปีนี้ สนช. ลงพื้นที่ไปแล้ว 11 ครั้ง 24 จังหวัด พบประชาชนกว่า 15,000 คน รับปัญหามาประมาณ 4,000 เรื่อง ดำเนินการและติดตามประสานให้ส่วนราชการเพื่อให้ได้การแก้ไขไปแล้วจำนวน 3,000 กว่าปัญหา
ด้าน พล.อ.นิวัติ ศรีเพ็ญ สมาชิก สนช. ในฐานะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า รัฐธรรมนูญนี้เป็นแม่บทที่จะทำให้บ้านเมืองของเราเดินต่อไปได้ ดังนั้น กรธ. จะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญถือเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ เป็นกฎหมายแม่บท จะทำให้ถูกใจทุกคนคงเป็นไปไม่ได้ จึงต้องเขียนไว้อย่างกว้าง ๆ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 1 เม.ย. ทาง กรธ. ต้องจัดทำร่างแรกให้เสร็จไม่เกิน วันที่ 29 ม.ค. 59 และจะนำร่างแรกแจกจ่ายไปยังองค์กรต่าง ๆ ได้พิจารณา หลังจากนั้น ไม่เกิน 2 - 3 สัปดาห์ เป็นการเปิดรับฟังความคิดเห็นและนำมาปรับปรุงให้ร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสำบูรณ์ จากนั้นประมาณเดือน ก.ค. 59 เป็นการทำประชามติ จึงอยากจะให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่าน เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถือเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนอย่างแท้จริง
พล.อ.นิวัติ กล่าวต่อว่า ในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ทาง กรธ. เน้นหลักการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ที่ผ่านมา ปัญหาบ้านเมืองเกิดจากการทุจริต เราจึงเน้นหนักการป้องกันปราบปรามการทุจริต ร่วมถึงเรื่องคุณสมบัติของผู้ที่เข้ามาบริหารประเทศ คนที่มาเป็นผู้แทนประชาชนจะต้องปลอดจากการทุจริต มีคุณธรรม จริยธรรม เป็นสำคัญ เพื่อให้การบริหารประเทศเกิดขึ้นโดยสุจริต จึงอยากให้ประชาชนรู้สึกว่ามีความเป็นเจ้าของในรัฐธรรมนูญ โดยเนื้อหาเบื้องต้นเราได้มีการประชาสัมพันธ์ และ ให้ข่าวไปนั้น ไม่ใช่เป็นการโยนหินถามทาง แต่เป็นเรื่องการให้ความสำคัญ เพราะเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นที่สนใจของประชาชน จึงอยากให้ประชาชนสะท้อนกลับมา แล้ว กรธ. ก็นำมาปรบปรุง เพื่อรัฐธรรมนูญนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยทุกคน